วันนี้ (6 สิงหาคม 2567) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ออกเอกสารรายงานคำพิจารณากรณีที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยื่นอุทธรณ์ว่า คำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในเอกสารระบุว่า ก.พ.ค.ตร.ได้พิจารณาวินิจฉัยตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายบัญญัติ และตามกฎ ก.พ.ค.ตร.ว่าด้วยอุทธรณ์และการพิจารณาวินิจฉัย พ.ศ. 2567 ซึ่งกำหนดให้ใช้วิธีการไต่สวนและดำเนินการหาข้อเท็จจริง โดยคู่กรณีทั้งสองได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอและมีโอกาสได้โต้แย้งแสดงพยานหลักฐานแล้ว
สำหรับข้อเท็จจริงตามอุทธรณ์ คำขอคุ้มครองชั่วคราวคำชี้แจงของผู้อุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ของคู่กรณีในอุทธรณ์ คำชี้แจงและเอกสารที่เกี่ยวข้องของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และการแถลงด้วยวาจาของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายรับฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามอาญา และถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง คู่กรณีในอุทธรณ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาผู้ออกคำสั่งอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 105 มาตรา 107 มาตรา 131 และมาตรา 179 ประกอบกฎ ก.พ.ค.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและออกราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ก.พ.ค.ตร.วินิจฉัยว่า คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 178/2567 ลงเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เป็นคำสั่งที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ ที่กฎหมายและกฎ ก.ตร.กำหนด และเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย วินิจฉัยยกอุทธรณ์และยกคำขอกำหนดวิธีการชั่วคราวของผู้อุทธรณ์
ทั้งนี้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ออกมาชี้แจงว่า ยังไม่ทราบว่าผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไร ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำวินิจฉัย หากผลออกมาเป็นลบก็จะยื่นศาลปกครองสูงสุดต่อภายใน 90 วัน
Tags: ฟอกเงิน, บิ๊กโจ๊ก, คดีมินนี่