วันนี้ (23 มกราคม 2568) เว็บไซต์ IQAir จัดอันดับมลพิษของเมืองใหญ่ทั่วโลกตามเวลาจริง โดยวัดจากค่า AQI (Air Quality Index) พบว่า กรุงเทพฯ มีค่ามลพิษย่ำแย่เป็นลำดับที่ 7 ของโลก รองจากเมืองเฉิงตู ฉงชิ่ง และอู่ฮั่นของจีน กรุงธากาของบังกลาเทศ โกลกาตาของอินเดีย และฮานอยของเวียดนาม โดยค่าฝุ่นในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 167 เป็นสีแดง โดยตลอดทั้งวันที่ผ่านมาบรรยากาศทั่วกรุงเทพฯ อยู่ใต้ฝุ่นหนาทึบ
ด้านศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานว่า สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ช่วงบ่ายวันนี้ (13.00-15.00 น.) อยู่ในระดับสีแดง เกินมาตรฐาน โดยอยู่ในระดับ 56.8-96.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยข้อแนะนำของ กทม.ระบุว่า คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทุกคน พร้อมกับแนะนำให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นให้สวมหน้ากาก PM2.5 ขณะที่ผู้ที่มีโรคประจำตัวให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยพื้นที่ที่อยู่ในระดับสีแดงมีทั้งสิ้น 30 พื้นที่ เช่น เขตยานนาวา เขตลาดกระบัง เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตประเวศ ฯลฯ
ขณะที่ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอญัตติด่วนเรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษ โดยระบุว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด เช่น ยังไม่มีการสั่งห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่มาจากการเผา หรือการตัดงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ
ขณะเดียวกันณัฐพงษ์ยังขอให้นายกฯ สั่งการให้เพิ่ม ‘มะเร็งปอด’ เป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวังและป้องกันจากปัญหาฝุ่นพิษ เพราะหน่วยงานไม่สามารถตั้งงบประมาณสู้ได้ หากไม่มีการประกาศชัดเจน จึงเสนอให้ออกกฎหมายลำดับรองตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร เพื่อควบคุมการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรว่า ไม่ได้ส่งออกจากการเผา ขณะเดียวกันยังสามารถให้เงินอุดหนุนสำหรับการเกษตรที่ ‘ไม่ต้องเผา’ ได้ แต่กลับไม่ทำ
ณัฐพงษ์ยังกล่าวด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเตือนว่า เมื่อค่าฝุ่นถึงจุดวิกฤตเท่าใดแล้วจะแจ้งเตือนประชาชน และมีข้อแนะนำกับประชาชนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้มีเพียงประกาศจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้หยุดเรียน และ Work From Home แต่คำถามคือเพราะเหตุใดจึงมีแค่ กทม.ที่เดียว ทั้งที่รัฐบาลสามารถออกหลักเกณฑ์กลาง หลักเกณฑ์มาตรฐานได้ว่า เมื่อฝุ่นถึงระดับเท่าใดแล้วทุกคนจะสามารถรู้วิธีปฏิบัติตัวทันที
Tags: ,