เมื่อวานนี้ (25 ตุลาคม 2023) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า ครอบครัวของ วาเอล อัลดาห์ดูห์ (Wael Al-Dahdouh) หัวหน้าสำนักงานภูมิภาคตะวันออกกลางของอัลจาซีรา (Al Jazeera) ถูกสังหารในกาซาจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

อัลดาห์ดูห์เป็นนักข่าวชาวปาเลสติเนียนของอัลจาซีรา เขาได้รับฉายาจากเพื่อนร่วมงานในฐานะ ‘กระบอกเสียงแห่งปาเลสไตน์’ และ ‘เสาหลักแห่งวงการสื่อมวลชน’ เพราะมักรายงานสถานการณ์ความรุนแรงทั้งในกาซาและอิสราเอล โดยเฉพาะการชี้ประเด็นให้เห็นถึงการสังหารผู้หญิง เด็ก และผู้สื่อข่าว

ก่อนหน้านี้ เขาได้พาครอบครัวอพยพมาที่นูเซรัต (Nuseirat) ค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสติเนียน หลังรัฐบาลอิสราเอลเตือนให้ผู้คนนับล้านที่อาศัยในกาซาตอนเหนือย้ายออก เพื่อยกระดับการโจมตีกลุ่มฮามาส (Hamas)

ทว่าในวันอังคารที่ผ่านมา (24 ตุลาคม 2023) ครอบครัวของอัลดาห์ดูห์เผชิญชะตากรรมโหดร้าย จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในตอนกลางคืน โดยภรรยา ลูกชาย ลูกสาว และหลานชายของเขา เสียชีวิตพร้อมกับผู้คนนับร้อย 

“สิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจนมากพอ นี่คือการจงใจสังหารเด็ก ผู้หญิง และพลเรือน ผมเพิ่งรายงานสถานการณ์จากเมืองยาร์มูก (Yarmouk) ในทำนองเดียวกัน ตอนนี้กองทัพอิสราเอลกำหนดเป้าหมายการโจมตีในหลายพื้นที่ และนูเซรัตเป็นหนึ่งในนั้น

“เราสงสัยต่อการยึดครองพื้นที่ของอิสราเอลตั้งแต่แรกว่า กองทัพจะไม่ปล่อยคนกลุ่มนี้ไปโดยปราศจากการลงโทษ และน่าเศร้าที่มันเกิดขึ้นแล้ว นี่คือ ‘ที่ปลอดภัย’ ตามที่พวกเขาพูดถึงด้วยซ้ำ” อัลดาห์ดูห์แสดงความคิดเห็นผ่านอัลจาซีรา โดยวิดีโอฟุตเทจปรากฏภาพของเขาที่กำลังออกจากโรงพยาบาลอัลอักซา (Al Aqsa) หลังบอกลาคนที่รักเป็นครั้งสุดท้าย

ในตอนหนึ่งของวิดีโอ อัลดาห์ดูห์ทรุดตัวลงและคร่ำครวญต่อการจากไปของคนในครอบครัว เขาค่อยๆ ลูบใบหน้า มาห์มูดห์ (Mahmoud) ลูกชายวัย 15 ปีที่มีความฝันอยากเป็นนักข่าวเหมือนเขา ก่อนจะเดินไปกอดร่างของ ชาม (Sham) ลูกสาววัย 7 ปี ที่ห่อด้วยผ้าขาว และพูดอะไรบางอย่างกับเธอ พร้อมจ้องมองที่ใบหน้าเปื้อนเลือดจากการถูกโจมตีในครั้งนี้ 

ต่อมาภายหลัง 2 ชั่วโมงของเหตุการณ์ มีรายงานการเสียชีวิตของ อดัม (Adam) หลานชายของอัลดาห์ดูห์ อีกทั้งยังมีสมาชิกครอบครัวบางส่วนที่สูญหายในการโจมตีครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม สมาชิกบางคนยังปลอดภัยดี เช่น หลานสาววัยกำลังหัดเดิน ขณะที่ เยห์อา ลูกชายวัย 7 ขวบอีกคนหนึ่งของเขา ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และอยู่ในการดูแลของแพทย์

กำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน

อัลจาซีราให้กำลังใจการสูญเสียของเพื่อนร่วมงานในครั้งนี้ผ่านบทความ ‘Our voices will go on’: Dahdouh’s Al Jazeera team stands behind him’ โดยประณามการกระทำของกองทัพอิสราเอล และเชิดชูการทำงานของอัลดาห์ดูห์

“ผู้คนตกเป็นเป้าหมายในค่ายนูเซรัต ใจกลางกาซา พื้นที่ที่ผู้คนอพยพหนีตายจากระเบิดครั้งแรกในบ้านที่แท้จริงพวกเขา หลัง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เรียกร้องให้ประชาชนอพยพมายังทางตอนใต้ของกาซา

“เราขอประณามการสังหารหมู่ไม่เลือกหน้าต่อพลเรือนบริสุทธิ์ในกาซา ซึ่งนำมาสู่การจากไปของครอบครัวอัลดาห์ดูห์ และคนอื่นๆ อีกมากมาย

“เสียงของเขาจะยังคงอยู่ต่อไป เราขอการันตี ทุกเสียงของเราจะยังคงอยู่ และเราจะจับจ้องการโจมตีในครั้งนี้เพื่อนำความจริงออกมาตีแผ่ในทุกวัน” ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์จากอัลจาซีรา และทาเมียร์ อัลมิสชาล (Tamer Almisshal) ผู้ประกาศข่าว

“วาเอลเป็นคนเข้มแข็ง เรามักพึ่งพาเขาเสมอ เวลาที่เกิดเหตุร้ายแรงหรือรู้สึกไม่ปลอดภัย เขาใจดีกับทุกคน และปฏิบัติกับเราเหมือนพี่ชายคนโต ไม่ใช่แค่หัวหน้างาน เขาอยู่ที่ตรงนั้นเสมอ หากพวกเราต้องการเขา” ยูมนา เอลซาเยด (Youmna Elsayed) ผู้สื่อข่าวในกาซา แสดงความคิดเห็น

“นี่คือผู้ชายที่รายงานข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา และเชื่อถือได้จากพื้นที่ที่เป็นบ้านของเขาในเวลาหลายปี เหตุการณ์นี้มันย่อมกระทบหรือหลอกหลอนเขา แต่เขาจะยืนหยัดได้ และเดินหน้ารายงานข่าวต่อไป” มาร์วาน บิชารา (Marwan Bishara) นักวิเคราะห์การเมือง ยืนยันว่า อัลดาห์ดูห์จะทำหน้าที่ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

สถานการณ์ปัจจุบัน

ปัจจุบัน ทางการอิสราเอลยังไม่แสดงความเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (Committee to Protect Journalists: CPJ) เผยว่า นับตั้งแต่ฮามาสโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักข่าวเสียชีวิตจากความรุนแรงในกาซาถึง 22 ราย แบ่งออกเป็นชาวปาเลสติเนียน 17 ราย ชาวอิสราเอล 3 ราย และชาวเลบานอน 1 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขการเสียชีวิตสูงสุดตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา

ดังการเสียชีวิตของ ซาลาม มีมา (Salam Mema) นักข่าวอิสระและหัวหน้าคณะกรรมาธิการนักข่าวหญิงปาเลสติเนียน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการเปิดเผยว่า ร่างของเธอถูกฝังในซากปรักหักพังที่ค่ายจาบาเลีย (Jabalia) ทางตอนเหนือของกาซา ซึ่งคาดว่า เธอเสียชีวิตเพราะการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

เบื้องต้น สถานการณ์ในกาซายังคงรุนแรง เดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า การโจมตีของอิสราเอลคร่าชีวิตผู้คนในกาซามากกว่า 6,500 ราย ขณะเดียวกัน กลุ่มฮามาสก็ลงมือสังหารประชาชนถึง 1,400 คน ตั้งแต่เปิดฉากโจมตีอิสราเอลเป็นต้นมา

ยังไม่รวมผู้อพยพประมาณ 6 แสนคน ที่ต้องทิ้งบ้านและเร่ร่อนไปตามพื้นที่ต่างๆ หลังอิสราเอลขีดเส้นตายเพื่อทิ้งระเบิดทางตอนเหนือของกาซา ท่ามกลางสถานการณ์บนโต๊ะเจรจาระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่ยังหาทางออกไม่ได้ 

ขณะที่สหรัฐอเมริกาออกเสียงยับยั้งมติการช่วยเหลือประชาชน ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) หลังมีข้อเสนอให้อิสราเอลเปิด ‘ช่องทางมนุษยธรรม’ (Humanitarian Corridor) เพื่อหยุดสู้รบชั่วคราว และยกเลิกคำสั่งให้พลเรือนอพยพออกจากตอนเหนือ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวไม่ได้การันตีความปลอดภัยของอิสราเอล

นอกจากนี้ อ็อกซ์แฟม (Oxfam) องค์กรการกุศลอังกฤษ ยังเผยว่า อิสราเอลจะใช้ความหิวโหยของผู้คนในกาซา เป็นเครื่องมือสร้างความได้เปรียบในสงคราม ซึ่งมีการเปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ได้รับอาหารประทังชีวิตเพียง 2% เท่านั้น และน้ำสะอาดกำลังจะหมดลงในไม่ช้า

อ้างอิง

https://www.theguardian.com/world/2023/oct/25/al-jazeera-journalist-family-killed-wael-al-dahdouh

https://www.aljazeera.com/news/2023/10/25/family-of-al-jazeera-gaza-bureau-head-killed-in-israeli-air-raid

https://www.nytimes.com/2023/10/25/world/middleeast/al-jazeera-journalist-gaza-family-killed.html

https://www.theguardian.com/world/2023/oct/19/at-least-21-journalists-killed-since-hamas-israel-war-began-says-press-freedom-group

https://www.aljazeera.com/news/2023/10/25/our-voices-will-go-on-dahdouhs-al-jazeera-team-stands-behind-him

https://www.theguardian.com/world/2023/oct/18/us-vetoes-un-call-for-humanitarian-pause-and-corridors-into-gaza

https://www.oxfam.org.uk/media/press-releases/starvation-as-weapon-of-war-being-used-against-gaza-civilians/

https://www.middleeastmonitor.com/20210615-israel-wants-to-control-media-output-from-gaza-but-cant/

Tags: , , , , , , ,