วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2565) กรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) นำโดย พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน เตรียมเชิญ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ มาชี้แจงเกี่ยวกับการร่ำรวยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ
ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะ กรรมาธิการ ป.ป.ช. เผยว่าประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่มีผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร้องเรียนว่าสุชัชวีร์ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ทั้งอัตราการเพิ่มของเงินเดือน และอัตราเบี้ยประชุมจำนวนหลายล้านบาท การโอนที่ดินจากมารดามายังสุชัชวีร์ รวมไปถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังที่เกี่ยวข้องกับโครงการในกรุงเทพมหานครในหลายส่วน ที่ผู้ใกล้ชิดกับสุชัชวีร์อาจเข้าไปมีหุ้นส่วนกับโครงการต่างๆ
โดย กมธ.ป.ป.ช. ได้เชิญผู้เกี่ยวข้อง 3 คนมาสอบถามข้อมูล ประกอบด้วย
1. อธิการบดี สจล. คนปัจจุบัน เพื่อสอบถามว่าตามปกติมีการรับเงินเดือน มีค่าใช้จ่าย เบี้ยประชุมอย่างไร
2. อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อสอบถามว่าทรัพย์สินต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาได้มีการเสียภาษีหรือไม่
3. สุวิตา สุวรรณสวัสดิ์ ภรรยาของนายสุชัชวีร์
ทางด้านสุชัชวีร์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า พร้อมและยินดีเข้ารับการตรวจสอบ เพราะถือว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ หลังอาสาออกมาทำงานรับใช้คน กทม. อีกทั้งยังมั่นใจว่าที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอธิการบดีอย่างซื่อสัตย์สุจริต รวมไปถึง ป.ป.ช. และ สตง. ก็มีการตรวจสอบอยู่ตลอดอยู่แล้ว หากไปดูสถิติย้อนหลังของสถาบันพระจอมเกล้าฯ จะเห็นว่าระหว่างที่ตนปฏิบัติหน้าที่ได้คะแนนดีจากการประเมินของ ป.ป.ช. มาโดยตลอด
ส่วนประเด็น ‘บ้านไอรอนแมน’ มูลค่า 35,000,000 บาท ที่ได้ลงนิตยสารบ้านและสวน สุชัชวีร์เผยว่า ที่นิตยสารติดต่อมาเป็นเพราะบ้านมีการออกแบบน่าสนใจ โดยในฐานะวิศวกรและสถาปนิกรุ่นน้องได้ร่วมกันทำบ้านหลังนี้ขึ้นมา จึงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าตนใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยและโปร่งใสมาโดยตลอด
ทั้งนี้ อ้างอิงจากเอกสารของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยเมื่อปลายเดือน ตุลาคม 2564 ว่า นายสุชัชวีร์ คู่สมรส และบุตร มีทรัพย์สินรวมกว่า 342 ล้านบาท ทั้งเงินออม หุ้น อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์หรู และของมีค่ารายการอื่นๆ ซึ่งเป็นจำนวนทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจากรายงาน เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 มีทรัพย์สินรวมประมาณ 44 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561 มีทรัพย์สินรวมประมาณ 74 ล้านบาท