วันนี้ (10 เมษายน 2567) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา บริเวณสี่แยกคอกวัว อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดย นายแพทย์เหวง โตจิราการ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, ธิดา ถาวรเศรษฐ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ร่วมกันจัดงานรำลึกและสดุดีวีรชน ในวาระครบรอบ 14 ปี การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ตามคำสั่ง ‘ขอคืนพื้นที่’ จาก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น จนนำมาสู่ความสูญเสียของประชาชนเป็นจำนวนมาก
ธิดากล่าวว่า การมาในวันนี้ถือเป็นการให้เกียรติ และยืนยันจะต่อสู้เพื่อคนเสื้อแดง พร้อมกับกล่าวว่า หลังจากนี้ผู้รักประชาธิปไตยทุกคนต้องจับมือกันสู้เพื่อคนในอดีต ปัจจุบัน และลูกหลานในอนาคต เพื่อทวงความยุติธรรมให้คนเป็นและคนตาย
ธิดายังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ต้องการให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการเร่งรัดตรวจสอบคดีความตามกฎหมาย ซึ่งเวลาล่วงเลยกว่ากว่า 14 ปีแล้ว และร้องขอให้แกนนำพรรครัฐบาลและฝ่ายค้านดำเนินการแก้ไขกฎหมาย โดยให้ทหารและนักการเมืองผู้กระทำความผิดทางอาญาต่อประชาชนขึ้นศาลยุติธรรมเช่นเดียวกับคดีของประชาชน ไม่ใช่ขึ้นศาลทหาร
เช่นเดียวกับ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่กล่าวว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลกำลังผลักดันการแก้ไขกฎหมายศาลทหาร เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เกิดขึ้น
ขณะที่ ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวถึงกรณีกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อคืนความยุติธรรมเพื่อคนเสื้อแดง โดยกล่าวว่า พรรคมีอุปสรรคและความยากลำบาก ถูกตราหน้าว่าเคยร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แต่อย่างไรก็ตาม พรรคมีจุดยืนว่ากระบวนการนิรโทษกรรมเป็นกระบวนการ เพื่อก้าวข้ามปัญหาและความขัดแย้ง และคืนความยุติธรรม
“ทันทีที่มีการยื่นกฎหมายนิรโทษกรรมจากหลายพรรคการเมืองเข้าสู่การพิจารณา เพื่อไทยพร้อมถือธงนำและเสนอญัตติ เพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัยในการหาฉันทามติเพื่อนำไปสู่การนิรโทษกรรม” ชนินทร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยขึ้นกล่าวบนเวที ก็มีเสียงสะท้อนความไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐเป็นระยะ
ด้านณัฐวุฒิขึ้นกล่าวว่า การที่ร่วมจัดงานในวันนี้เพื่อทวงถามความยุติธรรม โดยเขาทราบดีว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรื่องนี้ใช้เวลามาแล้วกว่า 14 ปี และยังได้อธิบายถึงเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยต้องถอนร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรื้อคดีคนเสื้อแดง 2 ฉบับ เนื่องจากกังวลว่ายังไม่มีเสียงสนับสนุนในรัฐสภามากเพียงพอ
ถึงอย่างนั้นตนจะไม่ยอมแพ้ที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงอย่างแน่นอน
สำหรับบรรยากาศภายในงานมีการนำดอกไม้และพวงหรีดมาตั้งบริเวณหน้าอนุสรณ์ และมีการติดภาพถ่ายเหตุการณ์ครั้นปี 2553 ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม ขณะที่ช่วงท้ายของงานมีกิจกรรมจุดเทียนเพื่อรำลึกถึงผู้สูญเสียจากการสลายการชุมนุมอีกด้วย
