ภายในห้องจัดแสดงสองชั้นของ ‘SAC Gallery’ ได้มีการนำงานประติมากรรมของศิลปินหญิงผู้ล่วงลับลับชาวฝรั่งเศสซึ่งรู้จักชื่อกันดีในวงการผู้เสพงานศิลป์ทั่วโลกว่า วาล (Val) หรือชื่อจริง ‘วาเลครี กูร์ตาร์’ (Valérie Goutard) มาจัดเป็นนิทรรศการเพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงเธออีกครั้ง กับงานที่ชื่อ ‘Reflection of Infinity’  

ผลงานประติมากรรมที่จัดแสดงวางอยู่เรียงรายอยู่เบื้องหน้านี้ เป็นผลงานที่ถูกคัดสรรมาตั้งแต่ปี 2007-2016 โดยรวบรวมมาจากแกลเลอรีระดับโลก อาทิ RedSea Gallery ประเทศสิงคโปร์, Chinese of Fine Arts in Beijing (CAFA) ประเทศจีน, Art&Arch Musuem ประเทศไต้หวัน และอีกหลากหลายงาน ซึ่งประเทศไทยเองก็มีงานชิ้นสำคัญๆ ของเธอฝากไว้อยู่หลายแห่งและอาจเคยผ่านตากันมาบ้าง เช่น ผลงาน Ocean Utopia ที่ตั้งอยู่ใต้ทะเลแนวปะการัง เกาะเต่า, Ville Fantastique ll ที่อุทยานสวนเบญจสิริ และ Inle Balance ที่หน้าโรงเเรมโซฟิเทล กรุงเทพฯ โดยวาลยังถูกยกย่องจากนิตยสาร Artsper Magazine ให้เป็นหนึ่งในศิลปินระดับเดียวกันกับ Augustin Rodin, Jean Arp, Germain Richier และ Louise Bourgeois อีกด้วย 


(ผลงาน Ville Fantastique ll ที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานสวนเบญจสิริ)


(ผลงานที่ถูกจัดแสดงบริเวณชั้นแรกของ SAC Gallery)

ความหมายของชื่องานนิทรรศการ ‘Reflection of infinity’ ไม่ได้หมายถึงชิ้นงานจัดแสดงสะท้อนเงากระจก แต่มีความลึกซึ้งกว่านั้น เป็นเรื่องราวการสะท้อน ‘นิยามความเป็นมนุษย์’ ผ่านท่วงท่าต่างๆ ทั้งการเริ่มต้นของชีวิต พบพานกับสิ่งที่ปรารถนา การได้แสวงหาคู่ชีวิต และจบลงที่ความตาย เพื่อให้ผู้ชมได้ใช้ความคิด แยกแยะ ตรึกตรอง และวิเคราะห์ความเป็นมนุษย์เหล่านั้น

ผลงานประติมากรรมส่วนใหญ่ของวาลมักปั้นในรูปแบบท่วงท่าอิริยาบถของมนุษย์ โดยไม่ได้จำเพาะเจาะจงว่าเป็นเพศใดเพศหนึ่ง เพื่อไม่ให้งานถูกวางกรอบและจำกัดการตีความ  

ด้านรายละเอียดต้องบอกว่าเธอใช้จิตวิญญาณที่มีใส่ลงไปในงานทุกชิ้น ถ้าจะกล่าวว่าเธอใส่ลงไปอย่างไร หากลองสังเกตที่พื้นผิวของตัวงานประติมากรรม จะพบว่ามีความไม่เท่ากัน เต็มไปด้วยความขรุขระ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเธอใช้นิ้วมือกดลงไปยังตัวดินที่นำมาโปะร่างเป็นโครงสร้างชิ้นงานอย่างประณีต กดลงไปจนหากมองเพ่งมองใกล้ๆ จะพบว่ามีรอยนิ้วมือของเธออยู่ทั่วไปหมด 

ก่อนสุดท้ายจะนำไปหลอมรวมกับทองแดงอีกครั้งให้ชิ้นงานมีความแข็งแรง รวมถึงยังมีการใช้แก้ว Murano (แก้วเป่า) ที่มีความงดงามละเอียดอ่อนกับผลงานบางชิ้น สร้างความคอนทราสต์ อ่อนไหวตัดกับแข็งกร้าว ด้วยภายนอกชิ้นงานที่ดูดิบๆ นัยหนึ่งกลับแฝงด้วยความหมายที่ว่า มนุษย์เปรียบแล้วคงเหมือนดินที่อ่อนไหว จิตวิญญาณเปราะบางดุจแก้ว แต่ก็มีความแข็งแกร่งดั่งทองแดง 

สำหรับชิ้นงานที่สื่ออารมณ์ถึงความเป็นมนุษย์และมีเรื่องราวมากสุด เห็นจะเป็นประติมากรรมสามชิ้นที่ประกอบด้วย 1. Chaos 2. Crossing the ordeal 3. Wisdom ซึ่งมีความหมายเกี่ยวเนื่องกัน ชิ้นแรก Chaos เปรียบเสมือนการเดินวนรอบเพื่อค้นหาตัวตนของชีวิต และก้าวผ่านมาเป็นชิ้นที่สอง Crossing the Ordeal กับการเดินข้ามอุปสรรคไปสู่เป้าหมาย และชิ้นที่สาม Wisdom กับการค้นพบชีวิต ดังที่กล่าวข้างต้นว่ามนุษย์ในอุดมคติของวาลนั้นปราศจากเพศ ทำให้การตีความของผู้เสพ สามารถเป็นไปได้มากมายหลายอย่างตามแต่มุมมองของแต่ละคน


(ผลงานประติมากรรม Chaos)

(ผลงานประติมากรรม Crossing the ordeal)

(ผลงานประติมากรรม Wisdom)

อีกชิ้นงานที่เป็นไฮไลต์คือ Evolution ซึ่งวาลใช้แก้วมูราโนควบคู่กับกับงานปั้นทองแดง เพื่อสร้างมิติและความแตกต่างให้แก่ตัวโครงสร้าง โดยแก้วมูราโนถูกปั้นออกมาในรูปแบบผลึกกระจก และตัวทองแดง หมายถึงตัวคนที่กำลังถูกพันธนาการไว้ เปรียบเสมือนมนุษย์ที่กำลังตกผลึกทางความคิด รอวันพัฒนาก้าวผ่านไปอีกขั้น


(รูปผลงานประติมากรรม Evolution)

ผลงานของวาล นอกจากจะได้เห็นนามธรรมของมนุษย์ที่สะท้อนผ่านตัวผลงาน อีกสิ่งที่เราได้เห็นคือช่วงชีวิตของเธอที่เปี่ยมด้วยความสุข ความสับสน การค้นหาตัวเอง และเริ่มตระหนักถึงความตาย จนรู้สึกได้ว่าผลงานของเธอสามารถส่งตรงความรู้สึกมาถึงผู้ชมได้อย่างล้ำลึก หากเป็นไปได้จึงไม่อยากให้พลาดการเข้าชม ซึ่งยากมากกับการจะนำชิ้นงานที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกมาจัดแสดงในที่เดียว ทั้งยังเป็นการรำลึกถึงศิลปินหญิงผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้อีกด้วย

ผู้ที่สนใจนิทรรศการงาน Reflection of Infinity สามารถเดินทางไปชมได้ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม – 14 มีนาคม 2564 ณ  SAC Gallery ซอยสุขุมวิท 39 ตั้งแต่เวลา 10.00–18.00 น. เป็นต้นไป

Tags: , , ,