วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เปิดเผยผลวิจัยทางการตลาดเรื่อง ‘Burnout In The City’ ว่าจากการสำรวจคนในวัยทำงานที่อาศัยในกรุงเทพมหานครฯ จำนวน 1,280 คน แบ่งเป็นเพศชาย 34% เพศหญิง 66% พบว่ากว่า 12% อยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงาน และอีก 57% อยู่ในภาวะมีความเสี่ยงสูงที่จะหมดไฟในการทำงาน  

ผลวิจัยจึงสรุปไว้ว่าคนกรุงเทพฯ กว่า 69% หรือคิดเป็น 7 ใน 10 มีภาวะหมดไฟในการทำงาน และหากคิดตามสัดส่วนคนทำงานในกรุงเทพฯ ที่มีประชากรประมาณ 5.5 ล้านคน เมื่อนำมาเทียบเคียงกับผลวิจัย จะพบว่าคนทำงานในกรุงเทพมหานครฯ มีภาวะหมดไฟในการทำงานกว่า 3.7 ล้านคน 

ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) เกิดจากอะไร และส่งผลเสียอย่างไรบ้าง? 

เมื่อปี 2562 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ภาวะหมดไฟในการทำงานเป็นปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลและรักษา ซึ่งเป็นภาวะที่คนรุ่นใหม่ หรือคนทำงานในสังคมเมืองมีอัตราการหมดไฟในการทำงานเป็นจำนวนมาก เพราะภาวะหมดไฟในการทำงานอาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าและโรคเครียดในระยะยาวตามมาได้  

ภาวะหมดไฟในการทำงานจึงเป็นปัญหาที่ไม่ควรถูกมองข้ามและควรได้รับการแก้ไขและรักษาให้เร็วที่สุด แล้วอาการหมดไฟมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง? งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นถึงสาเหตุหลักๆ ว่ามาจาก  1. งานที่หนักและไม่สมดุลกับคนทำงาน 2. ความเครียดในที่ทำงาน 3. สภาพแวดล้อมการทำงาน และ 4. ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร 

วิธีการเติมไฟให้ชีวิตมีหรือเปล่า?  

เมื่อไฟหมดจากการทำงาน การลองเติมไฟก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย มีหลากหลายวิธีในการเติมไฟให้ชีวิตและการทำงาน ที่สามารถช่วยขจัดความเครียด คลายความวิตก และได้พักผ่อนหย่อนกายกับชีวิตการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น  

1. พักเรื่องงานและทำในสิ่งที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง กินอาหารอร่อย ถือเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด การให้เวลาตัวเองกับสิ่งที่ชอบสามารถช่วยเยียวยาจิตใจ ช่วยให้ใจเราพักจากเรื่องงานได้เป็นอย่างดี

2. สภาพแวดล้อมคือสิ่งสำคัญ การได้เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเติมไฟ เช่น อาจใช้เวลาในช่วงสุดสัปดาห์เพื่อหลีกหนีชีวิตเดิมๆ ไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด พบปะผู้คนที่ไม่คุ้นเคย หรือหากไม่สะดวกจริงๆ ช่วง Work From Home แบบนี้ อาจใช้วิธีเปลี่ยนสถานที่ทำงาน เพื่อจุดประกายความคิดที่แตกต่างจากเดิม

3. หากิจกรรมที่ไม่เคยทำ เพื่อเป็นการผ่อนคลายและช่วยให้ค้นพบความชอบของตัวเองได้อีกด้วย เช่น ปีนเขา ปั้นดิน หรือจัดดอกไม้ ซึ่งทักษะที่ได้จากกิจกรรมเหล่านี้อาจนำไปต่อยอดเป็นรายได้เสริมอีกด้วย 

4. การเพิ่มทักษะ พัฒนาชีวิต หาจุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง และไปเติมเต็มประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษา, เสริมความรู้ทางธุรกิจ หรือลงคอร์สเรียนในสิ่งที่ชอบ ได้ทั้งสังคมใหม่ๆ การฝึกทักษะทางอารมณ์ ทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ และนำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ๆ 

การเติมไฟให้ชีวิตไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่เพียงวิธีใดวิธีหนึ่ง เราสามารถปรับให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของตัวเองได้ ซึ่งแต่ละอย่างล้วนแล้วช่วยให้เราตกตะกอนสิ่งที่อยู่ในใจ ไปจนถึงได้พัฒนาตนเองซึ่งจะส่งผลดีในหลายแง่ ไม่เพียงแต่ความเครียด ความกดดัน และความกังวลที่เคยมีจะทุเลาลง แต่การเติมไฟยังช่วยให้เราก้าวต่อไปอย่างมีความสุข ไปจนถึงเปิดมุมมองและเส้นทางที่ต่างจากเดิมให้ชีวิต

แต่ทุกกิจกรรมมักมีตัวแปรสำคัญคือ ‘เงิน’ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเงินสำรองเพียงพอ ทั้งที่การเติมไฟให้ตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคนทำงานในปัจจุบันที่ประสบกับภาวะหมดไฟและปัญหาทางจิตใจอื่นๆ แต่การเข้าถึงเงินทุนสำรองหรือเงินลงทุนเพื่อพัฒนาทักษะไปจนถึงหารายได้เสริมกลับเต็มไปด้วยเงื่อนไขมากมาย

และนี่คือหนึ่งในช่องทางที่จะสามารถช่วยให้ทุกคนมีเงินทุน และช่วยให้ผ่านพ้นทุกวิกฤต เพื่อให้ชีวิตได้พักผ่อน และเติมไฟ หรือต่อยอดความฝัน สร้างรายได้เสริมต่างๆ ผ่านการมีเงินทุนสำรองแบบไม่ยุ่งยากและปลอดภัย ด้วยบริการสินเชื่อส่วนบุคคล ‘พรอมิส’ ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย สมัครง่ายเพียงลงทะเบียนผ่าน https://bit.ly/3qXsEWd ที่ทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ หากใครไม่สะดวกลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถติดต่อสอบถามที่คอลเซนเตอร์ 1751 หรือเดินทางไปสาขาใกล้บ้านได้ โดยสามารถเช็กสาขาใกล้บ้านผ่านช่องทางออนไลน์ และเพียงนำแค่ 3 เอกสาร 3 อย่างประกอบการสมัคร ซึ่งประกอบไปด้วย บัตรประชาชน, สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริงอายุไม่เกิน 60 วัน  และสมุดบัญชี ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนสำรองหรือเงินเดินตามความฝัน จะได้รับการอนุมัติภายใน 1-5 วันทำการ 

ที่สำคัญคือสามารถแบ่งจ่ายคืนได้ตามสะดวก จนทำให้ทุกคนสามารถวางแผนทางการเงินได้ และไม่จำเป็นต้องชำระเงินคืนเต็มจำนวน ก็สามารถกู้เงินสำรองเพิ่มเติมในวงเงินเดิมได้ นอกจากนี้ยังจ่ายขั้นต่ำน้อย แบ่งจ่ายได้นานตามสะดวก โดยสามารถแบ่งชำระค่างวดสูงสุดได้ถึง 66 งวด

หากใครที่ต้องการหาเงินทุนสำหรับพัฒนาตัวเอง ‘พรอมิส’ พร้อมอยู่เคียงข้างคุณทุกก้าวเดิน และช่วยเหลือ สนับสนุนเพื่อให้ทุกคนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะภาวะหมดไฟในวัยทำงาน รวมถึงปัญหาสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม หลากหลายวิธีเติมไฟ การออกไปเผชิญสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ กิจกรรมพัฒนาชีวิตและความรู้ใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ความคิดดีๆ ให้กับตัวเอง จะสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาภาวะหมดไฟให้คุณได้เป็นอย่างดี

 

ที่มา

https://www.cnbc.com/2019/07/29/millennial-therapist-why-young-people-hate-their-jobs-so-much.html

https://archive.cm.mahidol.ac.th/bitstream/123456789/4127/1/TP%20BM.038%202564.pdf

https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=2270

Fact Box

  • ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม www.promise.co.th หรือ โทร. 1751 
  • สำหรับโปรโมชันเคียงข้างทุกก้าวเดินของชีวิตตอนนี้คือ แนะนำเพื่อนสมัครพรอมิส รับเงินสูงสุด 700 บาท โดยโอนเงินสด 500 บาท ต่อ 1 ท่าน เมื่อเพื่อนสมัครและรับวงเงินภายใน 30 วัน และจะรับเพิ่มอีก 200 บาท เมื่อเพื่อนรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป ไม่จำกัดจำนวน  
  • แบ่งจ่ายเงินได้ตามสะดวก จ่ายขั้นต่ำน้อย โดยไม่จำเป็นต้องชำระคืนเต็มจำนวน ก็สามารถกู้เงินเพิ่มในวงเงินเดิมได้ โดยสามารถแบ่งชำระค่างวดสูงสุดได้ถึง 66 งวด
Tags: , , ,