เช้าวันที่ 11 มิถุนายน ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้มีคำสั่งตัดสินให้นายเปรมชัย กรรณสูต หรือ ‘เจ้าสัวเปรมชัย’ จำคุกเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่ต้องรอลงอาญา ในข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานเพื่อให้ปล่อยตัวหลังถูกจับกุมพร้อมซากสัตว์ป่าคุ้มครองและอาวุธปืนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทั้งนี้ ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวนายเปรมชัยด้วยวงเงิน 200,000 บาท โดยมีเงื่อนไขคือห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต

คดีดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 หลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และพวกอีก 3 คน เนื่องจากลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในจุดบริเวณห้วยปะชิ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี อีกทั้งยังพบซากเสือดำและกระสุนปืน แต่นายเปรมชัยและพวกร่วมกันเสนอว่าจะติดสินบนแก่เจ้าพนักงานผู้จับกุม ซึ่งก็คือ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ไม่ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

หลังศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาคดีล่าเสือดำที่มีนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกรวม 4 คนเป็นจำเลย ในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ศาลตัดสินให้จำคุกนายเปรมชัยจำนวน 3 ข้อหา คือ ลงโทษข้อหาร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง   (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน ยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือดำ) ซึ่งภายหลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 และนายยงค์ จำเลยที่ 2 หรือก็คือหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยื่นหลักทรัพย์เดิมมูลค่าคนละ 400,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี

นับแต่เกิดเหตุดังกล่าวเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ผู้คนต่างทวงถามความคืบหน้าขอคดีดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดีย มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ซึ่งทำงานอนุรักษ์ผืนป่า สัตว์ป่า และแหล่งธรรมชาติของประเทศ ก็ได้ออกมาสร้างแฮชแท็ก #เสือดำต้องไม่ตายฟรี รวมทั้งเชิญชวนร่วมกันลงชื่อเรียกร้องให้ “ดำเนินคดีกับผู้ล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ ต้องโปร่งใส และมีมาตรฐานแบบเดียวกันทุกคดี” ในงานฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73 ก็มีการแปรอักษรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พูดถึงคดีนี้ รวมถึงมีการนำประเด็นเสือดำไปใส่ในบทเพลงดังนอกกระแสอย่าง ‘ประเทศกูมี’ ของกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship ด้วย

 

 อ้างอิง: 

https://www.bbc.com/thai/48590981
https://www.bbc.com/thai/thailand-43283878
https://www.thairath.co.th/news/crime/1589195
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_2605368

Tags: ,