20 สิงหาคม 2562 ศาลอาญารัชดาภิเษก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งลงโทษ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ฐานความผิด มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักย่านพระรามเก้าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ตรวจพบปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊ป 1 กระบอก โดยศาลให้ลงโทษจำคุกเปรมชัย 1 ปี แต่เนื่องจากเปรมชัยรับสารภาพในชั้นสืบพยาน ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเป็นจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้เปรมชัยจะสารภาพในคดีนี้แต่ในคดีอื่นเปรมชัยยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จึงไม่อาจมีคำสั่งรอลงอาญาไว้ได้ ซึ่งทนายความของเปรมชัยได้ยื่นหลักทรัพย์ 5 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างรออุทธรณ์คดี
ขณะที่เปรมชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาล 3 ข้อ เพื่อขอลดบทลงโทษของศาล ให้เหลือเพียงลงอาญาไว้ก่อน ข้อแรกตนนั้นจะเข้ารับการอุปสมบทที่วัดพระบวรนิเวศหรือวัดอื่นเป็นเวลา 15 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และข้อที่สองจะบริจาคเงินส่วนตัว 3 ล้านบาทเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ และข้อที่สามให้สัญญาต่อศาลว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับอาวุธปืนตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ศาลได้อธิบายให้เปรมชัยว่าคำร้องต่อศาล 3 ข้อนั้น หากเปรมชัยปฏิบัติได้ก็ขอให้ทำต่อไป ซึ่งเป็นการทำความดี อย่างไรก็ตาม เปรมชัยยังมีคดีอาญาที่ศาลพิพากษาจำคุกอยู่ 2 คดี จึงไม่อาจที่จะพิจารณารอการลงโทษได้
สำหรับคดีนี้สืบเนืองจากนายเปรมชัยและพวกรวม 4 คน ถูกเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จับกุมภายในเขตรักษาพันธุ์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 และเมื่อตรวจสอบพบซากสัตว์ป่าได้แก่ เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทาและเก้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงนำตัวเปรมชัยพร้อมพวกส่งดำเนินคดีที่ สภ.ทองผาภูมิ
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพักเปรมชัยที่ย่านพระรามเก้า ก่อนพบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และงาช้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายเปรมชัยทั้งหมด 6 ข้อหา ได้แก่ 1.ร่วมกันพกพาอาวุธปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในครอบครอง 5.ร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และ 6.ร่วมกันเก็บของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ศาลทองผาภูมิพิพากษาจำคุกนายเปรมชัยทั้งหมด 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานที่หนึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน ฐานสองร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 2 เดือน และฐานสามพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน โดยศาลยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
และในวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาจำคุกเปรมชัยเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จากกรณีพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ ระหว่างถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2561 ศาลตัดสินว่าผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ประกอบมาตรา 83 ก่อนที่เปรมชัยจะยื่นขอประกันตัวเป็นวงเงิน 200,000 บาท ศาลอนุมัติให้ประกัน แต่ระบุห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ เปรมชัยยังคงต้องรอคำตัดสินของศาลอีกหนึ่งคดี ในกรณีครองครอบงาช้างแอฟริกัน 2 คู่ โดยไม่รับอนุญาต โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ได้ยื่นฟ้องฐานร่วมกันนำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี ของต้องห้ามซ่อนเร้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาหรือรับไว้โดยประการใดๆ ที่รู้ว่าเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 1 ตุลาคม 2562
Tags: เปรมชัย กรรณสูต