เคยนึกเบื่อการเมืองบ้างไหมครับ?
แล้วเคยนึกสงสัยไหมว่า ทำไมพูดถึงการเมืองแล้วมักจะมีแต่เรื่องไม่ดีตามมา ไม่ว่าจะเป็นคอร์รัปชัน ใช้เส้นสายช่วยลูกหลาน เล่นพรรคเล่นพวก หักหลังแย่งชิงอำนาจ ตักตวงผลประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง แล้วยังมีเรื่องของการใช้เซ็กซ์เป็นเครื่องมือต่อรอง
อีกทั้งการเมืองยังไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในวงการปกครอง แต่ยังแทรกซึมไปในทุกอณูของสังคม ไม่ว่าจะเป็นวงการข้าราชการ วงการทหาร วงการสงฆ์ หรือแม้แต่การเมืองในออฟฟิศเล็กๆ ทั่วไป
คำถามคือ ทำไมมนุษย์เราต้อง ‘เล่นการเมือง’ กัน?
และมนุษย์จะเป็นคนดี มีคุณธรรม ทำหน้าที่ของเราอย่างที่ควรจะเป็น แล้วเลิกเล่นการเมืองกันไม่ได้เชียวหรือ
ผมอยากจะเล่าอะไรให้ฟังสักเรื่อง แล้วคุณอาจจะมีมุมมองต่อการเมืองที่ต่างไปจากเดิม
สังคม ความสัมพันธ์ ลำดับชั้น จุดกำเนิดการเมืองในฝูงลิง
เรื่องราวที่จะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อมี ‘ลิงวอก’ เกิดขึ้นมาในโลกครั้งแรก กะเวลาคร่าวๆ ก็ประมาณสัก 35 ล้านปีที่แล้วครับ
ลิงวอกเป็นลิงขนาดเล็ก หางยาว อาศัยอยู่ในฝูงที่มีลิงอยู่ร่วมกันประมาณสัก 50 ตัว สังคมของลิงวอกมีความซับซ้อนสูง
เล่าอย่างย่อๆ คือ ความสัมพันธ์ภายในฝูงจะมีลักษณะเป็นลำดับชั้น มีตัวผู้ตัวหนึ่งเป็นหัวหน้าฝูงหรือที่เรียกว่า alpha male ซึ่งมีสิทธิพิเศษเหนือลิงอื่นในฝูง ทางฝั่งตัวเมียก็จะมีตัวเมียที่เป็นหัวหน้าของตัวเมียหนึ่งตัว ซึ่งมักจะเป็นคู่ผสมพันธุ์ของ alpha male
อย่างไรก็ตาม สายอำนาจทางฝั่งตัวเมียและตัวผู้ก็ไม่ได้แยกขาดกันสนิท แต่มีการทับซ้อนกันพอสมควร เช่น ตัวผู้หลายตัวก็อยู่ในลำดับที่ต่ำกว่าตัวเมียได้
ลำดับชั้นในฝูงของลิงวอกจะสะท้อนความสัมพันธ์ในอดีตของลิงต่างๆ ในฝูง เช่น ถ้าลิง A เคยต่อสู้แย่งชิงอาหารกับลิง B และชนะได้ซ้ำๆ ลิง A จะอยู่ในสถานะที่สูง (ไฮโซ) กว่าลิง B อย่างไรก็ตามไม่ได้แปลว่าลิงทั้งฝูงจะเคยสู้กันมาแล้วทั้งหมดจึงจะรู้ลำดับ
ลำดับสามารถถ่ายทอดระหว่างกันได้ เช่น ถ้าลิง B เคยสู้กับลิง C แล้วลิง B ชนะซ้ำๆ ลิง B ก็จะอยู่ในสถานะที่สูง (ไฮโซ) กว่าลิง C และนั่นก็ทำให้ ลิง A ไฮโซกว่าลิง C ไปโดยอัตโนมัติ ลิงวอกมีสมองที่ดีพอจะจำได้ว่าใครเคยชนะเรา ใครเคยชนะคนที่ชนะเรา โดยที่ไม่ต้องไปทดลองสู้เองให้เจ็บตัวหรือพิการ
คำถามคือ แล้วลิงอยากจะมีสถานะที่สูงขึ้นเพื่ออะไร?
ลิงกับชนชั้น อำนาจ ความรวย และเซ็กซ์!
คำตอบคือโอกาสในชีวิตที่ดีกว่าครับ ลิงที่สถานะดีกว่าจะได้เข้าถึงอาหารก่อน มีโอกาสได้ผสมพันธุ์มากกว่า กลางคืนจะนอนก็ได้ในที่ซึ่งปลอดภัยกว่า ส่วนลิงโลโซก็ต้องนอนในที่ซึ่งเสี่ยงจะโดนผู้ล่าอื่นจับกินง่ายกว่า เป็นต้น
หรือพูดสั้นๆ คือ สถานะที่สูงกว่าจะนำมาซึ่งอำนาจ ความร่ำรวย เซ็กซ์ และความสะดวกสบายสารพัดอย่าง
ฟังดูก็ตรงไปตรงมาใช่ไหมครับ ใครตัวใหญ่กว่า แข็งแรงกว่า สู้กับลิงตัวอื่นก็ชนะแล้วก็คงได้ขึ้นเป็นจ่าฝูง
แต่สังคมลิงวอกซับซ้อนกว่านั้นครับ เพราะในชีวิตจริงเมื่อมีความขัดแย้งและการต่อสู้เกิดขึ้น เกือบทั้งหมดจะไม่ใช่การต่อสู้แบบตัวต่อตัวเหมือนสัตว์อื่นๆ แต่เป็นการใช้พรรคพวกและการเมืองเข้าร่วมต่อสู้
ความขัดแย้งภายในฝูงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา ที่เป็นเช่นนั้นเพราะลิงทุกตัวมีความต้องการของตัวเอง ต้องการอาหาร ต้องการคู่ผสมพันธุ์ ต้องการพื้นที่ปลอดภัย แต่ทรัพยากรเหล่านี้มีจำกัด ความขัดแย้งเพื่อแย่งสิ่งเหล่านี้จึงเกิดตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
การกดขี่ให้สำเหนียก ‘ที่ต่ำที่สูง’ และการห้ำหั่นในฝูง
ความขัดแย้งอีกอย่างที่พบได้บ่อยคือ การที่ลิงที่ไฮโซชอบไปหาเรื่องหรือไปแย่งของจากลิงที่โลโซกว่า เพราะการไปหาเรื่องนี้เหมือนเป็นวิธีการหนึ่งที่ลิงไฮโซย้ำให้ลิงโลโซรู้จัก ‘ที่ต่ำที่สูง’
แต่ไม่ใช่ทุกการขัดแย้งจะจบลงด้วยการต่อสู้ เพราะความที่ลิงแต่ละตัวรู้ลำดับของตัวเองในฝูงอยู่แล้ว ลิงทั้งหลายจึงเลี่ยงการต่อสู้ที่มีโอกาสชนะน้อยแล้วปล่อยให้ลิงสถานะที่สูงกว่าได้สิ่งที่ต้องการไป
แต่ก็มีบางครั้ง เช่น ถ้าสถานะของลิงทั้งสองไม่ต่างกันมากนัก ลิงที่โลโซกว่าก็อาจจะไม่ยอมแล้วหันมาแยกเขี้ยวใส่กัน ขู่กัน ลิงทั้งสองจะไม่กระโจนเข้าใส่กันในทันที แต่ทั้งคู่จะกรีดร้องโวยวายให้ลิงรอบข้างได้ยินแล้วหันมาสนใจก่อน
โดยทั่วไปลิงตัวอื่นจะไม่อยากมาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะอยู่ดีๆ คงไม่มีใครอยากเจ็บตัว ดีไม่ดีบาดเจ็บหรือพิการไป สถานะในฝูงจะยิ่งตกต่ำลงไปอีก แต่ถ้าลิงอื่นจะเข้ามาช่วยส่วนใหญ่มักเกิดจาก
1. ความสัมพันธ์ทางสายเลือด หมายความว่า ลิงที่ขัดแย้งเป็นญาติของตัวเอง (โดยเฉพาะญาติทางฝั่งแม่)
2. เป็นการเข้าช่วยเพื่อหวังผลทางการเมือง
ถ้าเราสมมติให้ลิงคู่กรณีฝ่ายที่ไฮโซกว่าชื่อ A และลิงคู่กรณีฝ่ายโลโซกว่าชื่อ B ปกติก่อนที่ลิง A และ B จะเริ่มสู้กัน ทั้ง A และ B จะเริ่มเรียกพรรคพวกเข้ามาช่วยเหลือก่อน แน่นอนครับถ้าเป็นไปได้ใครๆ ก็อยากได้ลิงไฮโซที่แข็งแรงมาช่วยเหลือ ยิ่งได้จ่าฝูงมาเป็นพวกก็ยิ่งดี
เราจะเห็นพฤติกรรมนี้ได้จากท่าทางของลิงที่บางครั้งนอกจากจะหันหน้าประจันคู่ต่อสู้แล้ว มันจะยืนหันหลังให้กับลิงจ่าฝูงแล้วหันกลับมาจ้องตาอ้อนเป็นพักๆ การยืนในลักษณะนี้จะทำให้เหมือนกับว่าเราเป็นพวกเดียวกัน และกำลังเผชิญหน้ากับลิงคู่ต่อสู้ร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม การจะขอให้ลิงไฮโซมาช่วยเหลือก็มีความเสี่ยง เพราะถ้าคุณเป็นลิงชั้นต่ำมากๆ และกล้าไปขอให้ลิงจ่าฝูงมาช่วย เป็นไปได้ที่ลิงจ่าฝูงจะไม่สนใจ (เพราะไม่คิดว่าจะมีผลประโยชน์อะไรตอบแทน) และเลวร้ายกว่านั้น ลิงจ่าฝูงอาจจะรำคาญแล้วแทนที่จะช่วยเหลือกลับเข้ามาทำร้ายคุณ
ดังนั้นการจะขอความช่วยเหลือจากจ่าฝูง คุณต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าจะคุ้มเสี่ยงหรือเปล่า
ลิงที่โลโซกว่าในที่นี้ คือลิง B มักจะเป็นฝ่ายกรีดร้องดังกว่าและขอความช่วยเหลือจากลิงอื่นๆ มากกว่า ลิงอื่นส่วนใหญ่จะยึดนโยบาย ‘เงียบๆ’ ไว้ปลอดภัยที่สุด แต่ก็จะมีลิงจำนวนหนึ่งที่แม้จะไม่ใช่ญาติ แต่ก็ตัดสินใจเข้าร่วมความขัดแย้งนี้ โดยจะเลือกเข้าข้างฝ่ายที่มีแนวโน้มจะชนะอยู่แล้ว
หรือพูดง่ายๆ คือ เข้าช่วยเหลือฝ่ายที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เพราะเมื่อมันชนะการต่อสู้ นอกเหนือจากการได้เป็นเพื่อนกับลิงไฮโซ A แล้ว ถ้าสถานะเดิมของมันโลโซกว่า B มันก็จะได้รับเลื่อนสถานะขึ้นมาสูงกว่า B ถ้าเดิมมันสถานะสูงกว่า B อยู่แล้ว สถานะของมันก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้น และถ้าเดิมสถานะมันสูงกว่าทั้ง A และ B อยู่แล้ว พันธมิตรทางการเมืองของมันและไฮโซ A ก็ยิ่งแนบแน่นขึ้น
กลยุทธ์ที่น่าสนใจอีกแบบหนึ่งที่ลิงวอกใช้ คือ ‘การหาแพะ’ เช่น เมื่อลิง B ซึ่งโลโซกว่าเริ่มโดนไฮโซ A ก่อกวนหรือทำร้าย บางครั้งมันจะมองหาแพะแล้วมันไปหาเรื่องแพะต่ออีกทอด แพะที่ B เลือกมักจะเป็นลิงระดับล่างๆ ที่ไม่ค่อยมีพรรคพวก หรือมาจากครอบครัวชั้นต่ำที่ญาติๆ ไม่แข็งแรง จากนั้นมันก็จะชักชวนเพื่อนๆ รวมถึง A ให้ไปรุมแพะ วิธีการนี้นอกเหนือจากจะดึงความสนใจจาก A ที่มาเกเรให้หันเหไปหาแพะแล้ว ยังอาจทำให้ B ได้กลายเป็นเพื่อนกับไฮโซ A อีกด้วย แต่ก็มีบางครั้งซึ่งแพะที่ B ชวนเพื่อนๆ ไปรุม อาจจะเป็นญาติที่ยังเด็กของ A ในกรณีนี้การหาแพะจึงเท่ากับเป็นการแก้แค้นและส่งข้อความให้รู้ว่า “ถึงฉันจะสู้นายไม่ได้ แต่ถ้าฉันเจ็บ ญาตินายจะเจ็บยิ่งกว่า”
การปฏิวัติ วิถีล้มล้างอำนาจเก่าของลิงชั้นต่ำ
จากตัวอย่างที่เล่าไปฟังดูเหมือนกับว่าการไต่เต้าจากลิงโลโซขึ้นไปเป็นลิงไฮโซเป็นเรื่องยากใช่ไหมครับ?
มีเรื่องกันทีไรลิงไฮโซไม่เคยโดนลงโทษ ลิงไฮโซมีญาติแข็งแรงใหญ่โต ใครๆ ก็เข้าข้างลิงไฮโซ จริงครับส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น
แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่บางครั้งความขัดแย้งเล็กๆ สุดท้ายนำไปสู่การปฏิวัติ คือลิงโลโซจำนวนมากพร้อมใจกันลุกฮือขึ้นมาและรุมทำร้ายหรือฆ่าลิงจ่าฝูงและครอบครัวญาติมิตรทั้งหมด ซึ่งการปฏิวัติเช่นนี้แม้ว่าจะเกิดไม่บ่อย แต่เกิดขึ้นครั้งใดขั้วอำนาจก็จะเปลี่ยนแปลงกลับทิศทางไปอย่างสิ้นเชิง
เซ็กซ์เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ลิงตัวเมียใช้เล่นการเมือง สมมติว่ามีลิงสาวตัวหนึ่งชื่อ S (ย่อมาจาก sexy) โดยทั่วไปลิงสาวจะชอบลิงไฮโซมากกว่าลิงโลโซ ยิ่งจ่าฝูงจะยิ่งชอบมาก ลิง S จึงพยายามอ่อยและหาโอกาสผสมพันธุ์กับลิงจ่าฝูงให้บ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะยิ่งผสมพันธุ์บ่อยด้วยแค่ไหน โอกาสที่ลิงจ่าฝูงจะปกป้องลิง S และลูกๆ ในอนาคตก็มากขึ้น แต่เมื่อใดที่จ่าฝูงเผลอ ลิง S จะลอบไปผสมพันธุ์กับลิงไฮโซอื่นๆ ด้วย การทำเช่นนั้นเหมือนเป็นการรับประกันว่า ถ้าวันใดจ่าฝูงเกิดพลาด ตกอันดับ ตายไปหรือเป็นหมัน เธอและลูกๆ ก็ยังได้รับการคุ้มครองดูแลจากลิงไฮโซตัวผู้อื่นๆ
ลำดับชั้นในฝูงเป็นสภาวะปกติของลิงวอก แต่ความเป็นลำดับชั้นสามารถสลายไปอย่างสิ้นเชิงในสถานการณ์พิเศษสถานการณ์หนึ่ง นั่นคือ เมื่อมีสงครามระหว่างฝูงเกิดขึ้น เมื่อใดก็ตามที่สมาชิกในฝูงรับรู้ถึงอันตรายจากการโดนลิงฝูงอื่นรุกราน ลิงต่างๆ จะหยุดการกดขี่ เอาเปรียบ หรือกลั่นแกล้งกันเองในฝูง เลือดรักฝูงภายในกายจะร้อนระอุ สมาชิกทุกตัวจะพร้อมใจกันต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ เพื่อปกป้องอธิปไตยของฝูงโดยไม่มาแบ่งว่าฉันลิงไฮโซเธอลิงโลโซ
แต่เมื่อภยันตรายผ่านพ้นไป ชีวิตกลับเข้าปกติสุข การแบ่งลำดับชั้น และการเอาเปรียบ รังแก กดขี่ ก็จะกลับมาดำเนินไปเช่นที่แล้วมา
การเมืองเรื่องลิงๆ กับคำตอบ…ทำไมมนุษย์ถึงเล่นการเมือง?
ทั้งหมดที่คุยมานี้มาจากพื้นฐานว่า ลิงวอกแต่ละตัวมีความต้องการของตัวเอง มีสัญชาตญาณที่จะรักลูกและญาติ ต้องการอำนาจเพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงทรัพยากร และโอกาสสืบพันธุ์ที่มีอยู่จำกัด แต่ก็ต้องอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ความขัดแย้งนี้ทำให้ลิงต้อง ต่อสู้แย่งอำนาจ เล่นพรรคเล่นพวก ใช้เซ็กซ์เป็นเครื่องมือ หักหลัง ปฏิวัติ
ไม่เพียงแต่ลิงวอกเท่านั้น ลิงแสม ลิงชิมแปนซี ลิงบาบูน ลิงกอริลลา ฯลฯ แม้ว่าจะมีสังคมที่ต่างกัน แต่ลิงทั้งหลายล้วนแล้วแต่มีการเมืองในแบบของตัวเองทั้งสิ้น (และแน่นอนครับไม่ว่าจะเป็นลิงไหนๆ การเมืองภายในฝูงก็ไม่สวยงาม)
จากลิงวอกย้อนกลับมามองลิงโฮโม เซเปียนส์กันบ้าง แม้ว่าลิงโฮโม เซเปียนส์จะมีสมองที่ใหญ่กว่าลิงอื่นๆ มาก แต่ปัจจัยชีววิทยาพื้นฐานอื่นๆ ของลิงโฮโม เซเปียนส์ก็ไม่ได้ต่างไปจากลิงอื่นๆ
ลิงโฮโม เซเปียนส์ จึงต้องเล่นการเมืองเช่นเดียวกัน ถ้าจะต่างก็คงจะเป็นที่ขนาดของการเมืองเราใหญ่และซับซ้อนกว่ามาก การเมืองในลิงวอกเป็นเรื่องระดับลิง 50 ตัว แต่การเมืองของโฮโม เซเปียนส์ เป็นเรื่องของลิงหลายสิบล้านถึงพันล้านตัว
คุยมาทั้งหมด ผมแค่อยากจะบอกว่า อย่าเพิ่งเบื่อการเมืองเลยครับ การเมืองที่เราเห็นว่าวุ่นวาย สกปรก น่ารังเกียจ จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องธรรมชาติของสัตว์สังคมที่ฉลาดมากๆ ครับ
การเมืองมีมานานมากแล้ว ประมาณคร่าวๆ ก็อาจจะพูดได้ว่าการเมืองเกิดขึ้นก่อนที่จะมีมนุษย์คนแรกจะเกิดขึ้นในโลก 34 ล้าน 8 แสนปี เท่านั้นเอง
ป.ล. คนที่สนใจการเมืองเรื่องลิงๆ ผมแนะนำให้อ่านเพิ่มเติมจากหนังสือ 2 เล่มที่เขียนโดย Dario Maestripieri นักชีววิทยาด้านพฤติกรรม ชาวอิตาเลียน ที่เขียนบทความและทำวิจัยเกี่ยวกับชีววิทยาด้านพฤติกรรมของในไพรเมตและมนุษย์
1. Games Primates Play: An Undercover Investigation of the Evolution and Economics of Human Relationships
2. Macachiavellian Intelligence: How Rhesus Macaques and Humans Have Conquered the World