กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั้งโลก เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ได้ริบยศทหารและองค์อุปถัมภ์องค์การกุศลต่างๆ จากเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก พระราชโอรสของตัวเอง
สาเหตุการริบคืนนี้เกิดจากเจ้าชายแอนดรูว์กำลังเผชิญการฟ้องร้องทางแพ่ง ในข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศนางเวอร์จิเนีย จุฟเฟร ซึ่งฟ้องร้องความผิดที่ศาลรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่าถูกเจ้าชายละเมิดทางเพศ 3 ครั้ง ขณะที่ตนเองอายุเพียง 17 ปี
ที่ผ่านมาเจ้าชายแอนดรูว์ได้ยุติบทบาทตัวเองในการปฏิบัติหน้าที่ หลังปรากฏข่าวฉาวและข้อกล่าวหานี้ แถมการออกไปสัมภาษณ์สื่อบีบีซียังนำมาซึ่งความหายนะ มากกว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ซึ่งการถูกริบยศนี้ นำไปสู่ข้อความสำคัญว่า เจ้าชายจะสู้คดีนี้ในฐานะพลเมืองทั่วไปด้วย
ชีวิตเจ้าชายแอนดรูว์นั้นมากด้วยสีสัน จากพระราชโอรสองค์โปรดของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เจ้าชายนักรบ รุ่มรวยเสน่ห์ แต่ทุกอย่างก็นำไปสู่ความเลวร้าย เพราะแม้จะเป็นคดีทางแพ่ง แต่มันก็สร้างความสั่นสะเทือนสถาบันกษัตริย์อังกฤษอย่างเห็นได้ชัด และสร้างปัญหาให้กับเจ้าชายแอนดรูว์ด้วยนั่นเอง เป็นเส้นทางชีวิตที่ยากเชื่อว่าจะจบลงแบบนี้ได้
โอรสองค์โปรด เจ้าชายมากเสน่ห์
เจ้าชายแอนดรูว์ เป็นพระราชโอรสลำดับที่ 2 ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ ตัวเจ้าชายมีพระเชษฐาคือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และพระเชษฐภคินีคือเจ้าหญิงแอนน์ ขณะที่เกิดมานั้น เจ้าชายถือเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 แถมขณะเกิดมา ยังเป็นช่วงที่พระราชมารดาทรงครองราชย์มาได้สักพักแล้ว มีสถานะมั่นคงกว่าเดิม จึงทรงมีเวลาในการเลี้ยงดูเจ้าชายแอนดรูว์อย่างเต็มที่
แตกต่างจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่ค่อนข้างขี้อาย เจ้าชายแอนดรูว์มากล้นด้วยเสน่ห์ มีตาสีฟ้า ผมบลอนด์ หล่อเหลา สาวๆ หลายคนชื่นชอบนิยมนัก อีกทั้งเจ้าตัวยังชอบทำตัวติดดิน และอยากให้คนอื่นเรียกตัวเองว่า ‘แอนดี้’ มากกว่าด้วย
เจ้าชายแอนดรูว์เข้ารับราชการกองทัพเรือ ทรงขับเฮลิคอปเตอร์ ร่วมทำสงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์ ที่อังกฤษยกทัพข้ามมหาสมุทรไปยึดเกาะคืนจากอาร์เจนตินา การเข้าร่วมทำศึกนี้เอง ที่ทำให้เจ้าชายแอนดรูว์ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวีรบุรุษสงคราม จนถึงขั้นถูกเรียกขานว่า ‘Golden Boy’
ในสายพระเนตรของพระราชมารดา เจ้าชายแอนดรูว์ถือเป็นโอรสองค์โปรด และพระราชมารดามองเจ้าชายด้วยความรักล้นพ้น ถือเป็นดาวรุ่งที่เมื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรส ก็มีคนติดตามชมมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเป็นการหักอกสาวๆ จำนวนมากด้วย
แหล่งข่าวคนหนึ่งในพระราชวังบักกิงแฮมเผยว่า หากสมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงทราบว่าเจ้าชายเสด็จมาที่วัง ก็จะเขียนโน้ตเพื่อให้มาเข้าเฝ้าทันที หากเจ้าชายใส่กางเกงยีนส์ ก็จะเปลี่ยนชุดใส่สูท โดยจะโค้งและจูบพระหัตถ์พระราชมารดา ก่อนจุมพิตที่แก้มทั้งสองข้าง
“สมเด็จพระราชินีนาถโปรดโอรสองค์นี้มาก เชื่อผมสิ เจ้าชายไม่เคยทำอะไรผิดในสายพระเนตรเลย”
แต่เพราะความมากเสน่ห์ มีสีสันนี่เอง ที่ทำให้เจ้าชายแอนดรูว์ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ไม่ควรยุ่งอย่างมาก อย่าง ‘เจฟฟรีย์ เอปสตีน’
เข้าสู่โลกอันเร้นลับ
ปัญหาอย่างหนึ่งของเจ้าชายแอนดรูว์ก็คือ แม้ตอนแรก เจ้าชายจะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์มีพระราชโอรส 2 พระองค์ ลำดับของเจ้าชายแอนดรูว์ก็เขยิบถัดไปเรื่อยๆ จนไปอยู่ที่ลำดับที่ 9 ในปัจจุบัน นั่นทำให้เงินที่รัฐบาลถวายให้ก็จะน้อยลงไปด้วย ขณะที่พระองค์ก็ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อเลี้ยงดูธิดาทั้งสองพระองค์ด้วย
ขณะที่ชีวิตมากด้วยสีสันของเจ้าชายกับทางซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตภรรยา ที่แม้จะทรงหย่ากัน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกัน เป็นคู่หย่าร้างที่น่าอิจฉาสุดในโลก ทั้งสองมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ตัวซาราห์เองมีปัญหาหนี้สินที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้ทำให้สมเด็จพระราชินีนาถทรงเป็นห่วงมาก เพราะเจ้าชายแอนดรูว์มีตำแหน่งผู้แทนพิเศษของการค้าและพัฒนาของสหราชอาณาจักร และภาพลักษณ์ตำแหน่งนี้คงจะไม่ดีเป็นแน่แท้ หากอดีตภรรยาของเจ้าชายจะถูกฟ้องล้มละลาย
ทางนิตยสารวานิตีแฟร์เผยแพร่คำพูดแหล่งข่าวสะท้อนปัญหาของราชวงศ์อังกฤษไว้อย่างน่าสนใจว่า
“รากเหง้าของปัญหานี้ มันเกิดจากลูกหลานขององค์ประมุขแห่งชาติ ไม่สามารถออกไปหาเงินเองได้”
ในช่วงเวลานั้นเอง ก็มีนักธุรกิจคนหนึ่งยินดีจะแก้ปัญหานี้ นั่นคือ เจฟฟรีย์ เอปสตีน
เอาเข้าจริง คนที่เจ้าชายแอนดรูว์สนิทสนมไม่ใช่เอปสตีนในตอนแรก แต่เป็น กิสเลน แมกซ์เวลล์ หญิงสาวการศึกษาดี ลูกสาวเจ้าพ่อธุรกิจสื่อในอังกฤษ ซึ่งคลุกคลีอยู่ในชนชั้นสูงของอังกฤษมาตั้งแต่เด็ก
กิสเลนรู้จักกับเจ้าชายมาอย่างยาวนาน และตัวเองก็ทำตัวราวกับเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ ด้านหนึ่งของกิสเลนนั้น ดูเป็นหญิงสาวไฮโซผู้ดีสวยสง่า แต่อีกมุม เธอเองเป็นเหมือนคู่ขาของเอปสตีน นักธุรกิจเจ้าของกองทุนมหาศาล ที่มีความร่ำรวยขนาดซื้อเกาะของตัวเองได้ในทะเลแคริบเบียน เอปสตีนมีเส้นสายกับชนชั้นสูงในอเมริกามากมาย พร้อมกับข่าวคาวว่าตัวเอปสตีนนั้นชอบเด็กสาวๆ อายุน้อยมาก บางคนอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้มีความสัมพันธ์กับใคร เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รู้กันในหมู่คนรวยกันมานานแล้ว
ตัวกิสเลนเองนั้นได้รับการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า เธอเป็นมากกว่าคนรักของเอปสตีน แต่กลับทำตัวเหมือนแม่เล้าจัดหาเด็กสาวอายุน้อยๆ ไปบริการปรนเปรอทางเพศแก่เอปสตีน เรื่องนี้ก็เป็นที่รู้กันไปทั่วอย่างลับๆ ในหมู่คนรู้จักเช่นกัน
ว่ากันว่าการเข้าหาเจ้าชายของเอปสตีนนั้นเป็นสิ่งที่ง่ายดายอย่างมาก เมื่ออดีตภรรยาของเจ้าชายกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้ เอปสตีนก็แก้ปัญหาด้านการเงินอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งสองจะมีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม
นั่นไปรวมถึงการจัดหาหญิงสาวให้เจ้าชายผู้มากด้วยสีสันด้วย
ภาพถ่ายที่ผู้เสียหายนำมาฟ้องร้องเจ้าชายแอนดรูว์นั้น เป็นภาพเจ้าชายโอบกอดเอวผู้เสียหาย โดยมีกิสเลนอยู่ข้างหลัง ข้อกล่าวหาก็คือ เจ้าชายมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้เสียหายถึง 3 ครั้ง โดยที่เกาะส่วนตัวของเอปสตีนนั้น เจ้าชายได้นัวเนียกับผู้เสียหายที่สระว่ายน้ำด้วย
ในช่วงเวลานั้น ไม่ใช่ว่าเอปสตีนจะไม่เป็นข่าวล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิง เขาเป็นข่าวหลายครั้ง เคยถูกตัดสินจำคุกและเป็นข่าวดัง เพราะมีผู้เสียหายมากกว่า 60 ราย โดยเอปสตีนนั้นจะเรียกเด็กสาวมาที่คฤหาสน์ให้มานวด บางทีก็ให้แก้ผ้าหมด ก่อนล่วงละเมิดทางเพศหลากหลายรูปแบบ บางทีกิสเลนก็ร่วมมีเซ็กซ์ด้วย หากใครโวยวาย ก็จบลงด้วยการจ่ายเงินทำสัญญาปิดปากเสีย
ภาพลักษณ์ที่มืดเลวร้ายขนาดนี้ การเข้าไปเกี่ยวข้องของเจ้าชายแอนดรูว์ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์พระองค์เสื่อมเสีย ว่ากันว่าเอปสตีนคบหากับเจ้าชายไว้ก็เพื่อเป็นหลักประกันบางอย่าง หากถูกจับกุมดำเนินคดีในอนาคต ก็จะได้ใช้เส้นสายความรู้จักเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์
ความฉาวของเจ้าชายก็คือ การที่มีภาพตัวเองเดินออกมาจากคฤหาสน์ของเอปสตีน ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์นี้ และเป็นหลักฐานสำคัญที่ว่าเจ้าชายสนิทกับเอปสตีนผู้อื้อฉาวจริง ซึ่งในปี 2018 เอปสตีนก็ถูกจับกุมอีกครั้ง ก่อนจะผูกคอตายในห้องขังเพื่อหนีความผิด แต่ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้น เมื่อมีเหยื่อหลายรายออกมาพูดว่าถูกชักชวนไปค้ากามตอนอายุยังน้อย ยิ่งทำให้ข่าวฉาวและคนที่รู้จักเอปสตีนต้องตีตัวออกห่างเป็นจำนวนมาก
แต่เจ้าชายแอนดรูว์ดูเหมือนจะปลีกตัวไม่พ้น เพราะมีผู้เสียหายออกมาพูดและมีภาพถ่ายเป็นหลักฐาน จนทำให้ดูเหมือนจะสลัดตัวเองไม่พ้นวังวนแห่งความเลวร้ายนี้ไปได้เลย แตกต่างจากคนดังอื่นๆ ที่หายเงียบไร้ร่องรอย ลืมความหลังไปได้อย่างสบายๆ
ยิ่งพูดยิ่งพัง
แม้เอปสตีนจะเสียชีวิตไปเกือบ 3-4 ปีแล้ว แต่คดีล่วงละเมิดทางเพศนี้ก็ยังดำเนินการต่อ ตัวกิสเลนเองถูกศาลตัดสินจำคุกฐานเป็นแม่เล้าจัดหาเด็กให้กับเอปสตีน และในที่สุดก็ถึงคราวเจ้าชายแอนดรูว์จนได้
หลังการเสียชีวิตของเอปสตีนใหม่ๆ เจ้าชายได้ออกมาชี้แจงกับสื่อบีบีซีว่าไม่เคยมีอะไรกับผู้เสียหาย โดยยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนเองไปซื้อพิซซา และที่ผู้เสียหายบอกว่าเจ้าชายซึ่งเปื้อนเหงื่อเต็มตัวได้โดดเข้ากอดรัดเธอ เจ้าชายแอนดรูว์ยืนยันว่าตัวเองไม่มีเหงื่อไหลมาตั้งแต่ขับเฮลิคอปเตอร์ไปทำสงครามเกาะฟอล์กแลนด์แล้วถูกยิง จนเกิดปัญหาไม่มีเหงื่อไหลอีกในชีวิต
ข้ออ้างนี้เป็นเรื่องวิจารณ์ไปทั่วโลก เช่น อาการตกใจเพราะถูกยิงจนร่างกายมีปัญหา ไม่ทำให้เหงื่อหยุดไหลได้ แต่จะยิ่งทำให้เหงื่อไหลตลอดเวลามากกว่าเดิมต่างหาก
หลังการให้สัมภาษณ์ ทำให้สังคมระดมวิจารณ์เจ้าชายอย่างหนักหน่วง ในที่สุดเจ้าชายแอนดรูว์ก็ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ของราชวงศ์ทันที และต้องขายทรัพย์สินเพื่อหาเงินมาสู้คดี
แถมในปีนี้ ทางรัฐบาลอังกฤษและสำนักพระราชวังเตรียมฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีของสมเด็จพระราชินีนาถฯ ในช่วงเดือนมิถุนายนด้วย แต่ข่าวฉาวของเจ้าชายแอนดรูว์นี้เองที่กลบข่าวเฉลิมฉลองนี้ จนเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจนำไปสู่การริบยศเจ้าชายในที่สุด
นี่คือสิ่งที่สถาบันกษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรพิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วว่า พวกเขาพร้อมปรับตัวตามกระแสสาธารณชน ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรบ้างก็ตาม แต่เพื่อความอยู่รอด จึงต้องดำเนินการทันที!
กฎหมายทวงคืนศักดิ์ศรีเหยื่อทุกคน
สำหรับกระบวนการดำเนินคดีฟ้องร้องทางแพ่งนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับรัฐนิวยอร์กที่ออกกฎหมายเหยื่ออาชญากรรมเด็กในปี 2019 ซึ่งให้โอกาสเหยื่อจากอาชญากรรมเกี่ยวกับเด็ก สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำความผิดได้ เป็นการขยายอายุความเพื่อช่วยเหลือผู้เยาว์ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งในทางแพ่งและอาญา
โดยตอนที่กฎหมายออกมา ได้กำหนดให้เวลา 1 ปี แก่เหยื่อในการยื่นฟ้องร้อง ก่อนจะขยายเวลาออกไปจากปัญหาโควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งกฎหมายนี้แหละ คือกฎหมายที่ผู้เสียหายใช้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าชาย
ต้องย้ำก่อนว่าคดีนี้เป็นคดีความทางแพ่ง เพราะคดีอาญาตามกฎหมายนี้จะต้องฟ้องก่อนที่ผู้เสียหายอายุไม่เกิน 28 ปี ซึ่งเหยื่อของเจ้าชายอายุ 38 ปีแล้ว ซึ่งเกินเกณฑ์ จึงดำเนินความผิดนี้ไม่ได้ แต่การฟ้องร้องทางแพ่งนั้น กำหนดอายุเหยื่อให้ไม่เกิน 55 ปี ทางเหยื่อจึงมีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ โดยผู้เสียหายของเจ้าชาย ได้ยื่นฟ้องทางแพ่ง 5 วันก่อนจะครบกำหนดการขยายเวลาฟ้องร้องนี้
กฎหมายฉบับนี้มุ่งช่วยเหลือผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศในอดีต ซึ่งส่วนใหญ่อายุน้อย ถูกหลอก ถูกบังคับ หลายคนไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวตอนวัยเยาว์ จนกระทั่งล่วงเข้าสู่ชีวิตผู้ใหญ่ หลายคนจบชีวิตจากฝันร้ายในอดีต ดังนั้นเหยื่อที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวจึงต้องใช้ความกล้าหาญในการผลักดันก้าวข้ามฝันร้ายออกมาเปิดเผยความจริง ซึ่งกฎหมายนี้เป็นแรงสนับสนุน โดยย้ำประเด็นที่ไม่ว่าคุณจะถูกล่วงละเมิดทางเพศตอนไหน เวลาใด คุณมีเวลาในการฟ้องร้องผู้ก่อเหตุได้ภายใน 1 ปีหลังจากกฎหมายนี้บังคับใช้
และนั่นจึงทำให้เจ้าชายแอนดรูว์ต้องเผชิญวิบากกรรม ตกกระป๋องจากลูกคนโปรด สู่ผู้เกี่ยวข้องในคดีพรากผู้เยาว์นี้ในที่สุด
ทางหน่วยงานที่ช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกทารุณกรรมทางเพศได้กล่าวถึงกฎหมายนี้ไว้อย่างน่าสนใจบนฐานของความยุติธรรมว่า
“มันเป็นวิธีทวงคืนศักดิ์ศรีให้กับเหยื่อทุกคน สำหรับผู้รอดชีวิตจากสิ่งที่เกิดขึ้นต่อพวกเขา นี่คือการเปิดเผยเรื่องราวผู้ก่อเหตุในชั้นศาล”
อ้างอิง
https://edition.cnn.com/2019/07/08/us/new-york-child-victims-act/index.html
https://www.bbc.com/news/uk-58153711
https://www.bbc.com/thai/international-59940966
https://www.bbc.com/thai/international-50463696
https://www.bbc.com/thai/international-59988451
https://www.bbc.com/thai/international-49432572
https://www.nytimes.com/2022/01/13/world/europe/prince-andrew-military-titles-abuse-case.html
https://thematter.co/thinkers/behind-the-death-of-jeffrey-epstein/83021
Tags: ราชวงศ์อังกฤษ, The Politician in Crime, เจ้าชายแอนดรูว์, Prince Andrew