เมื่อเวลาประมาณ 18.10 น. ณ รัฐสภา ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคพรรคอนาคตใหม่ แถลงตอบโต้กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ยืนยัน ไม่เห็นด้วยกับมตินี้อย่างถึงที่สุด พร้อมตั้งข้อสงสัยต่อการทำงานของกกต. ว่าใช้ดุลพินิจในทางกฎหมาย โดยมีวัตุประสงค์เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ 

ปิยบุตรตั้งข้อสงสัยต่อมติของกกต. ครั้งนี้ 3 ข้อด้วยกันว่า 

  1. การพิจารณาประเด็นเงินกู้ 191 ล้านนี้ มีความเร่งรัดอย่างผิดสังเกต ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เรียกไปสอบสวน มีแต่เพียงการเชิญไปชี้แจงสามครั้ง ซึ่งทางพรรคก็ส่งเอกสารจำนวนมาก เช่น บัญชีรายวัน หรือแม้แต่การถูกเรียกเอกสารที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี

  2. กระบวนการพิจารณาคดีนี้ มีเอกสารหลุดออกมาก่อนจะมีมติด้วยซ้ำ ซึ่ง กกต. ก็ยอมรับชัดเจนว่า ในเอกสารที่หลุดมานั้น มีการลงนามโดยเลขา กกต. และยังมีข่าวหลุด ข่าวปล่อยมาโดยตลอด และในท้ายที่สุด มติของกกต. ก็เป็นไปตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเป็นกระบวนการชี้นำทางสื่อ ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วล่วงหน้าว่า พรรคอนาคตใหม่มีความผิดจริง

  3. การให้เหตุผลขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 72 พ.ร.ป. พรรคการเมือง ที่กำหนดว่า การรับบริจาคเงินจะมีความผิดก็ต่อเมื่อเงินที่รับมานั้นเป็นเงินจากการได้มาโดยมิชอบ เช่น คอร์รัปชั่น ทุจริต ฟอกเงิน ขายยาเสพติด ฯลฯ อันถือเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยด้วยกฎหมาย แต่มีคำถามว่า เงินจากการกู้หัวหน้าพรรค นายธนาธร จึงรุงเรืองกิจนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมายตรงไหน

นอกจากนี้ ปิยบุตรยังกล่าวว่า เขารออ่านเอกสารคำชี้แจงจากทางกกต. มาตลอดช่วงบ่าย แต่ปรากฏว่าเอกสารที่ออกมามีคำชี้แจงเพียง 8 บรรทัด นี่หรือคือการทำงานขององค์กรอิสระที่ทำหน้าที่พิจารณาข้อพิพาทต่างๆ

“วันนี้เป็นวันอัปยศในการทำหน้าที่ขององค์การอิสระตามรัฐธรรมนูญ อยากให้กกต. ออกมาเจอสังคมบ้าง ออกมาเจอประชาชนบ้าง จะได้รู้ว่าเขามีความเห็นต่อการทำงานของ กกต. อย่างไร ออกมาฟังเสียงกระแสสังคมว่า เขาตั้งคำถาม เขามีความคลางแคลงใจการทำหน้าที่ของ กกต. หรือไม่ ผมอยากให้สังคมพิพากษา วินิจฉัย ชี้ขาด การทำงานของกกต. มติของกกต. บ้าง”

ปิยบุตรยังเสนอข้อเรียกร้องสองข้อ ให้ 1. ผู้มีอำนาจในปัจจุบันฟังเสียงประชาชน ความต้องการของประชาชนบ้าง 2. เรียกร้องประชาชนไทย อย่ายอมให้การยุบพรรค ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ ให้กลายเป็นเรื่องปกติ อย่ายอมให้การใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมืองกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะวิธีการนี้ไม่มีทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองไทยได้ พร้อมทั้งกล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้จะไม่สามารถหยุดการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ได้ 

Tags: , ,