อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงข่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า ไม่มีกลุ่มไหนซีกไหนที่พูดได้จริงจังว่ารวมเสียงเท่าไร เพราะ กกต. ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวน หากพูด ก็ยังไม่ใช่อะไรที่เป็นทางการ ตามหลักการแล้วเราก็จะรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด เราคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ อยู่ ยังอยู่ในขั้นตอนนั้น และยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ทั้งนั้น เวลายังมีอีกพอสมควร ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเกินไป
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ พปชร. กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่รู้ว่าเสียงที่ชัดเจนจริงๆ เท่าไหร่ เพราะ กกต. ยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน เพราะตัวเลขเปลี่ยนทุกวัน การรวมตัวกันเป็นเพียงกลไกทางการเมืองที่จะแสดงความชอบธรรม แต่ยังไม่มีข้อมูลที่มาเพื่อแสดงความชอบธรรม เป็นความพยายามช่วงชิงว่ารวมเสียงข้างมากได้ ทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามีกี่พรรคแน่นอน เป็นเพียงการฉกฉวยบนสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อทำให้รู้สึกว่ามีความชอบธรรม
สนธิรัตน์ กล่าวยืนยันว่า มั่นใจว่าจะตั้งรัฐบาลได้ พร้อมขอให้สื่อและประชาชนหยุดอ้างฝ่ายประชาธิปไตย เพราะทุกคนล้วนเข้าสู่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ถ้าไม่ใช่ ก็คงไม่เข้าสู่การเลือกตั้ง พร้อมชี้ว่า มีพี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐกว่า 7.9 ล้านเสียง แปลว่าเราไม่ต้องเคารพเสียงของคนเหล่านั้นเลยหรือ เขาไม่มีสิทธิมีเสียงหรือ ไม่ใช่ฝั่งประชาธิปไตยหรือ
“ประชาธิปไตยที่แท้ คือการเคารพเสียงของทุกคน เคารพพี่น้องประชาชน แม้กระทั่งเสียงหนึ่งเสียง นี่เป็นพื้นฐานของฝั่งประชาธิปไตยใช่หรือไม่”
เขาชี้ว่า การอ้างเช่นนี้เป็นการดูถูกพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์สุขของประเทศ แต่เป็นเพื่อพวกพ้อง
“ขอเรียกร้องให้หยุด สิ่งที่พวกท่านทำนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย” สนธิรัตน์กล่าวและว่า “วันนี้ไม่มีฝ่ายประชาธิปไตยและไม่มีฝ่ายเผด็จการ พรรคพลังประชารัฐเดินหน้าตามครรลองของประชาธิปไตย เพียงแต่พลังประชารัฐเห็นคนที่เหมาะสมคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาจึงเชิญมาเป็นแคนดิเดต”
นอกจากนี้ สนธิรัตน์ ยังฝากถึงสื่อด้วยว่า ขอวิงวอนให้พี่น้องสื่อมวลชนกลับมาฉุกคิดว่า การที่พี่น้องสื่อมวลชนใช้คำว่าฝั่งประชาธิปไตย ฝั่งเผด็จการ เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามหลักการประชาธิปไตยแล้วหรือ