ในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นการ ‘เปิดประเทศ’ เป็นข้อถกเถียงกันอย่างหนักว่าถึงความเป็นไปได้ในการเปิดประเทศให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้นน่าจะเป็นวันที่ใกล้และเป็นไปได้มากที่สุดในการเปิดประเทศอีกครั้ง จนกลายเป็นความหวังสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่พึ่งพาการท่องเที่ยว รวมถึงใครอีกหลายคนที่โหยหาประสบการณ์เดินทางไกลอีกครั้ง
แต่ในช่วงที่เรายังเดินทางไม่ได้นี้ The Momentum ขอชวนท่องเที่ยวผ่านการรับประทานอาหาร โดยย่อการเดินทางไกล 6,586 กิโลเมตรไปยัง ‘เอธิโอเปีย’ ผ่านร้านที่ปรุงทุกอย่างด้วยวัตถุดิบและเชฟเอธิโอเปียนขนานแท้ที่มีชื่อว่า Taye Ethiopian Restaurant ที่อยู่ใกล้เพียงแค่สุขุมวิทซอย3 เท่านั้น
Authentic Ethiopian
Taye Ethiopian Restaurant คือร้านอาหารชนชาติเอธิโอเปียที่เปิดโดย ‘นาร์ดอส’ หญิงสาวชาวเอธิโอเปียแท้ๆ ที่มีความตั้งใจจะเผยแพร่รสชาติของอาหารจากบ้านเกิดอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงวัฒนธรรมการกินอาหารแบบครอบครัวของเอธิโอเปียอย่างแท้จริง
นาร์ดอสเล่าว่า เธอย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยมา 14 ปี แล้ว แต่เปิดร้านมาได้เพียง 8 ปีเท่านั้น ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย
การตกแต่งภายในร้านเหมือนการยกทั้งประเทศเอธิโอเปียมาตั้งไว้ที่ซอยเพลินจิต สิ่งของเกือบทุกอย่างในร้านนั้นเป็นสิ่งของส่วนตัวของนาร์ดอสที่นำมาจากเอธิโอเปีย ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาสาน ตะกร้าสาน ภาพเหตุการณ์และบุคคลสำคัญของเอธิโอเปีย ธงประจำชาติ ตะกร้าลูกปัดทำมือ หรือเครื่องรางที่ทำจากขนหางม้าห้อยตกแต่งอยู่เต็มร้าน ชวนให้คิดถึงความรักและภาคภูมิใจที่ชาวแอฟริกานั้นมีต่อบ้านเกิดของพวกเขา
เธอเสริมว่า เธออยากให้ลูกค้าที่เข้ามารับประทานอาหารในร้านของเธอรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเข้ามาเที่ยวบ้านเพื่อนที่เอธิโอเปียอยู่จริงๆ โดยอาหารทั้งหมดในร้านนั้นใช้วัตถุดิบเครื่องเทศ และเครื่องปรุงทุกอย่างจากประเทศเอธิโอเปียแท้ๆ แบบไม่มีไทยผสม
สำหรับอาหารเอธิโอเปียแท้ๆ นั้นโดดเด่นด้วยรสชาติของผง ‘เบอเบอร์รี’ ซึ่งเป็นส่วนผสมของผงผลไม้แห้งบดกับเครื่องเทศต่างๆ จนออกมาได้เป็นผงเครื่องเทศสีส้มอิฐที่มีรสชาติไม่เหมือนอาหารของชนชาติใดในโลก
ผงเบอเบอร์รี
อาหารเอธิโอเปียจะถูกเสิร์ฟในสำรับอาหารในลักษณะตะกร้าสานเรียกว่า ‘โมซอบ’ (Mosob) โดยตะกร้าโมซอบนี้จะถูกตั้งไว้อยู่บนโต๊ะอาหารทุกโต๊ะภายในร้าน ซึ่งตัวตะกร้าโมซอบนี้ก็มีหลายขนาดทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ ถ้าขนาดใหญ่ก็สามารถนำไปใช้งานเหมือนกับโต๊ะอาหารจริงๆ ได้เลย
เมนูแนะนำ
Ethiopia Meat Combo คอมโบเนื้อสไตล์เอธิโอเปีย 450 บาท
จานนี้เป็นอาหารที่เหมาะกับการกินระหว่างกำลังสังสรรค์กับเพื่อนๆ Ethiopia Meat Compbo นี้คือส่วนผสมของ สตูว์เนื้อเอธิโอเปีย สตูว์ไก่เอธิโอเปีย ผักสลัสสดสไตล์เอธิโอเปีย และโยเกิร์ต ที่ถูกจัดวางเป็นหย่อมๆ ไว้บนแป้งอินเจรา (Injera) ขนาดใหญ่ มีรสชาติคล้ายคลึงกับแป้งซาวโดวจ์นุ่มๆ เหนียวๆ แต่หอมข้าวบาร์เลย์ โดยวิธีกินที่ถูกต้องก็คือฉีกแป้งอินเจราออกมาขนาดพอดีคำจากนั้นห่อเนื้อต่างๆ ที่วางอยู่เข้าไปเป็นคำๆ
เนื้อต่างๆ นั้นมีเนื้อสัมผัสที่คล้ายกันก็คือ นุ่ม ไม่แห้งเกินไป และหอมไปด้วยเครื่องเทศที่แตกต่างกัน มีทั้งรสชาติ เผ็ด หวาน เปรี้ยว ครบรส ถ้ากินคู่กับแป้งอินเจราแล้วจะเข้ากันมาก สามารถกินได้อย่างไม่มีเบื่อ เพราะเราสามารถสลับหรือผสมเนื้อต่างๆ ไปได้เรื่อยๆ ทำให้ไม่เลี่ยนมากจนเกินไป
ข้อควรระวังสำหรับคนที่ไม่เคยกินคืออาหารจานนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก หนึ่งจานสามารถกินได้ 2-3 คนเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดไม่มั่นใจว่าตัวเองสามารถกินได้เยอะจริงๆ ไม่แนะนำให้สั่งมากินคนเดียว
Derek Tibs สันในเนื้อทอดกระทะร้อน 400 บาท
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจานที่มีปริมาณค่อนข้างเยอะเช่นกัน Derek Tibs เป็นอีกหนึ่งเมนูเอกลักษณ์ของอาหารเอธิโอเปีย โดยจะเป็นเนื้อสันในทอดกระทะร้อนกับหัวหอม พริกจาลาปิโน ปรุงรสด้วยเนย กระเทียม และพริกไทยดำ ใต้กระทะร้อนจะมีถ่านหินร้อนเพื่อรักษาระดับความร้อนของอาหารไว้ตลอดเวลา ควันอาจจะเยอะไปนิด แต่กลิ่นหอมมาก
ตัวเนื้อทอดให้รสสัมผัสเหมือนกับความกรอบของเนื้อแดดเดียวของไทย แต่พอกัดเข้าไปแล้วเนื้อนุ่มและหอมมาก กินคู่กับซอสพริกกับแป้งอินเจราจะได้รสชาติที่เค็มตัดเปรี้ยวเผ็ดกำลังพอดี
Ethiopian Power Shake 100 บาท
เครื่องดื่มสูตรพิเศษของทางร้าน โดยใช้นม ไข่ และผงข้าวบาร์เลย์ปั่นเข้าด้วยกันเหมือนกับมิลค์เชค หอมกลิ่นข้าวบาร์เลย์ รสสัมผัสนุ่ม ดื่มแล้วสดชื่น
จะสังเกตได้ว่าอาหารเอธิโอเปียทั้งหมดนี้จะไม่มี ‘อาหารจานเดียว’ เหมือนกับอาหารชาติอื่นๆ โดยมีสาเหตุมาจากวัฒนธรรมของประเทศเอธิโอเปียที่ไม่นิยมกินอาหารคนเดียว แต่จะกินอาหารกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ว่าจะกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว ทำให้อาหารเอธิโอเปียส่วนใหญ่นั้นจะมีปริมาณค่อนข้างเยอะนั่นเอง
Ethiopian Coffee Ceremony 600 บาท
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของร้านนี้ก็คือการคั่วกาแฟสดสไตล์เอธิโอเปีย โดยทางร้านจะจัดโชว์คั่วกาแฟกันให้ดูสดๆ สะท้อนวัฒณธรรมการกินกาแฟของชาวเอธิโอเปียได้เป็นอย่างดี ซึ่งนาร์ดอสเล่าให้ฟังว่า ชาวเอธิโอเปียเป็นชนชาติที่ชอบดื่มกาแฟมาก ทุกบ้านจะต้อนรับและบอกลาแขกด้วยการเสิร์ฟกาแฟ รวมทั้งกาแฟจากประเทศเอธิโอเปียนั้นยังโด่งดังไปในระดับโลกด้วย
สิ่งที่เราจะได้รับจากการคั่วกาแฟสดนี้ เราจะได้เห็นตั้งแต่การจุดควันด้วยเปลือกไม้สมุนไพรเพื่อสร้างบรรยากาศอันหอมหวนของประเทศเอธิโอเปียได้เป็นอย่างดี
ต่อมาก็คือการคั่วกาแฟตั้งแต่เป็นเมล็ดสดๆ จนเมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลเข้มสวยงาม จากนั้นก็เสิร์ฟในลักษณะของเอสเปรสโซช็อต โดยจะมีเมล็ดบาร์เลย์คั่วให้กินคู่กันอย่างเพลินอารมณ์
ส่วนรสชาติของกาแฟก็มีกลิ่นอายของผลไม้ติดเปรี้ยวที่ปลายลิ้นตามลักษณะของกาแฟจากทวีปแอฟริกา และให้ความสดชื่นเป็นอย่างมาก สามารถดื่มได้หลายคนโดยไม่ต้องแย่งกัน ถ้าใครเป็นสายกาแฟถือว่าควรมาลองสักครั้ง เป็นประสบการณ์ใหม่ที่จะไม่ได้จากร้านกาแฟทั่วไปอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่อยากจะเปิดประสบการณ์อาหารใหม่ๆ หรืออยากที่จะสัมผัสวัฒนธรรมใหม่ๆ ในช่วงที่ยังไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศนี้ Taye Ethiopian Restaurant สามารถมอบบรรยากาศของทวีปแอฟริกาให้กับทุกคนได้อย่างไม่มีผิดหวังแน่นอน
Fact Box
Taye Ethiopian Restaurant
ที่อยู่: ซอยสุขุมวิท 3 ใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต และรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา ไม่มีที่จอดรถ
ร้านเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.30-23.00 น.
โทร. 08-4930-3250