เผ็ดร้อน ชาปาก วูบวาบในลำคอ

ข้างต้นคือรสชาติโดดเด่นของ ‘หม่าล่า’ เครื่องเทศต้นตำรับจากนครฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่เกิดจากการนำพริกไทยเสฉวน (Sichuan Peppercorn) หรือฮวาเจียว (huājiāo) ไปคั่วในน้ำมันร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น เช่น โป๊ยกั๊ก ยี่หร่า และขิง ที่สามารถนำไปปรุงในเมนูต้ม ตุ๋น ปิ้ง ย่างหรือผัด ดื่มคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ชุ่มคอ 

ยิ่งมีฝนตกพรำลงมาสร้างบรรยากาศด้วยแล้ว 

คิดแค่นี้ก็ฟินตัวแทบลอย

แต่ปรากฏว่าในปัจจุบัน แม้จะหันมองซ้ายมองขวาตามตรอกซอกซอยจนถึงบนห้างดัง ร้านบุฟเฟต์หม่าล่าล้วนผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ที่น่าประหลาดใจคือ ร้านอาหารที่สามารถปรุงรสชาติหม่าล่าได้ดุจต้นตำหรับอย่างที่กล่าวไปข้างต้นนั้น ช่างน้อยนิดไม่ต่างกับการงมเข็มในมหาสมุทร บางร้านก็เผ็ดแสบระคายปาก บางร้านก็รสเค็มเกินทน สร้างความลำบากใจให้หมาล่าเลิฟเวอร์อยู่ไม่น้อย

อย่างไรก็ดี ในปี 2023 นี้ บริษัทธุรกิจแฟรนไชน์อาหารชื่อดังระดับโลกอย่าง เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจนำเข้าแบรนด์ ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีนสไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวน ที่เคยประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับยอดเยี่ยมในประเทศจีนและสิงคโปร์ มาให้ชาวไทยได้ลิ้มลองรสชาติหม่าล่าที่แท้จริง

คอลัมน์ Out and About สัปดาห์นี้ ขอหอบท้องหิวโซไปฝากไว้กับร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า เพื่อพิสูจน์ว่า ความอร่อยจากท้องถิ่นนครฉงชิ่งสู่ใจกลางกรุงเทพฯ จะเด็ดจริงอย่างที่ลือกันหรือไม่

‘นึกว่ายืนอยู่ที่ประเทศจีน’

นี่เป็นสำนึกแรกที่ขึ้นมาในหัว ทันทีที่ได้เห็นแต่ละเมนูจากร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า ถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะเรียงรายละลานตา ด้วยกลิ่นของหม่าล่าและไอความร้อนพวยพุ่งจากกระทะเป็นระยะ ชวนน้ำลายสอ อดใจที่จะลิ้มลองรสชาติไม่ไหว

โดยเซ็ตอาหารที่ทางร้านนำเสนอในวันนี้ ประกอบด้วยเมนูของคาวจานหลัก 7 อย่าง ได้แก่

1. ปลาย่างกระทะร้อนซอสหม่าล่า และปลาย่างกระทะร้อนสูตรซอสพริกหอม

2. ข้าวโพดคลุกไข่เค็ม

3. ไก่ผัดพริกแห้งสูตรริเวอร์ไซด์

4. ไก่แช่น้ำมันพริกสไตล์เสฉวน

5. ข้าวผัดแฮมลันเชี่ยนสูตรริเวอร์ไซด์ หรือเรียกง่ายๆ ว่าข้าวผัดสไตล์จีน

6. กะหล่ำปลีผัดพริกแห้ง

7. ผักโต้วเหมี่ยวผัดกระเทียม

และของหวานตบท้ายอีก 2 อย่าง ได้แก่

1. คัสตาร์ดมะพร้าวลาวา

2. วุ้นปลามะม่วงเพียวเร่ สอดไส้วุ้นว่านหางจระเข้

เริ่มเมนูแรกด้วยซิกเนเจอร์ของร้าน นั่นคือ ‘ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง ราดซอสหม่าล่า’ ที่เสิร์ฟบนกระทะร้อน ด้านบนโรยด้วยพริกแห้ง ต้นหอม และหัวหอมทั่วตัวปลา 

รสสัมผัสของเมนูนี้ให้ความแปลกใหม่ ตัวซอสหม่าล่าไม่เผ็ดแสบปาก แต่นำมาด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ตามด้วยรสชาติกลมกล่อมไม่เค็ม ไม่มันปากจนเกินไป ตัดกับรสชาติหวานละมุนไร้กลิ่นคาวจากเนื้อปลา ก่อนอาการซาบซ่านจะค่อยๆ ซึมไปที่ปลายลิ้นเล็กน้อยตามคุณสมบัติของหม่าล่า โดยทางร้านแนะนำให้กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ พูนชาม หรือจะเป็นหมั่นโถวทอดกับโรตีแผ่นบางกรอบโรยด้วยผงหมาล่าก็ดีเลิศไม่แพ้กัน

ที่น่าสนใจคือร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า มีปลาให้เลือก 4 ชนิด คือปลาชิงเจียง หนังบางกรอบ, ปลาปาทีน เนื้อมันแน่น, ปลาเก๋า เนื้อเด้งหนึบสู้ฟัน และปลากะพงเนื้อหวานละมุนลิ้น 

โดยเฉพาะปลาชิงเจียงที่เมื่อถูกวางบนกระทะร้อนชั่วครู่หนึ่ง ไขมันจากหนังปลาจะค่อยๆ ไหลออกมาผสมกับน้ำซอสหม่าล่า ซึ่งเป็นเคล็ดลับความอร่อยที่ผสมผสานกับซอสได้ลงตัวพอดิบพอดี สำหรับท่านใดที่เป็นหม่าล่าเลิฟเวอร์ รับประกันว่าอร่อยแสงออกปากแน่นอน 

เมนูที่สองยังคงอยู่ที่ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง แต่ที่เปลี่ยนไปคือน้ำซอสจากหม่าล่าเป็นพริกหอม เหมาะสำหรับท่านที่ไม่ชอบกินรสจัดจ้าน เพราะซอสดังกล่าวจะให้รสชาติหวานกลมกล่อมจากพริกหวานและหัวหอม รวมไปถึงความหอมจากเครื่องเทศอย่างเมล็ดพริกไทยดำ 

ทั้งนี้ มีตัวเลือกซอสอีก 3 ชนิด สำหรับคนที่ไม่ถูกจริตรสเผ็ด คือซอสเต้าซี่ ให้รสหวานกำลังดีจากถั่วดำหมัก, ซอสผักดอง รสหวานอมเปรี้ยวไม่ฝาดคอ และซอสพิเศษสูตรริเวอร์ไซด์ ทำจากเครื่องเทศชั้นดี

นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มเติมโปรตีนเนื้อสัตว์ เต้าหู้ ลูกชิ้น รวมไปถึงผักสดก็มีให้เลือกเช่นกัน เพราะทางร้านตั้งใจจะมอบประสบการณ์การปรุง ‘หม่าล่าทัง’ (Malatang) หรือหม้อไฟหม่าล่าที่เป็นเมนูยอดนิยมขนานแท้ของชาวมณฑลเสฉวน 

ถัดจากนี้เป็นเมนูจานอื่นๆ ตามที่ได้กล่าวข้างต้น ตั้งแต่ข้าวโพดคลุกไข่เค็ม ที่นำเมล็ดข้าวโพดไปทอดจนกรอบเป็นสีเหลืองทอง คลุกเคล้าด้วยผงไข่เค็มรสชาติหวานมันกรุบกรอบ, ไก่ผัดพริกแห้งสูตรริเวอร์ไซด์ ที่นำเนื้อไก่รวนเค็มและถั่วลิสงคั่วไปผัดกับพริกแห้งจนเผ็ดได้ที่, ข้าวผัดแฮมลันเชี่ยนสูตรริเวอร์ไซด์ ที่นำข้าวหอมชั้นดีไปผัดกับแฮมหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าจนสีทองอร่าม และไก่แช่น้ำมันพริกสไตล์เสฉวน เมนูดั้งเดิมขนานแท้ของชาวมณฑลเสฉวน กับกรรมวิธีต้มไก่ให้สุกพอเหมาะ จากนั้นพักไก่ให้เย็นแล้วราดด้วยน้ำมันพริกและถั่วลิสง เมื่อตักเข้าปากก็รู้สึกสดชื่นทันที

ด้านเมนูผักก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน ทั้งกะหล่ำปลีผัดพริกแห้งเสิร์ฟบนหม้อไฟร้อนๆ และผักโต้วเหมี่ยวผัดกระเทียม หรือต้นอ่อนถั่วลันเตาที่นำไปผัดกับกระเทียมเจียว เหมาะกับการกินคู่ข้าวสวยสักถ้วย

“มองผิวเผินภายนอกอาจเป็นแค่ขนมหน้าตาธรรมดาทั่วไป แต่หากได้กัดเข้าไปสักคำก็ยากที่จะลืมเลือน”

นี่น่าจะเป็นนิยามของ ‘คัสตาร์ดมะพร้าวลาวา’ ขนมหวานระดับซิกเนเจอร์ของริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า ด้วยแป้งกรอบห่อด้วยซอสคัสตาร์ดมะพร้าวอุ่นๆ รสหวานกำลังดีไม่เลี่ยนแสบคอ 

ด้านซ้าย ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และด้านขวา นันทพนธ์ แจ้งบุตรศรี ผู้ช่วยรองประธานบริหาร แห่งริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า คือสองผู้ที่เห็นช่องทางในการนำแฟรนไชส์ร้านอาหารจีนชื่อดังนี้เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ตามเทรนด์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่ให้ความนิยมในอาหารจีนมากขึ้น โดยเฉพาะในเมนูที่มีหม่าล่าเป็นส่วนประกอบ ขณะเดียวกันยังเป็นการขยายธุรกิจอาหารของ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ Food Explorer 

ไม่ใช่แค่การเจาะตลาดในกลุ่มคนหนุ่มสาว แต่ยังเจาะกลุ่มตลาดคนทำงานและครอบครัวด้วยเช่นกัน ดังนั้น หมุดหมายแรกของการเลือกเปิดแฟรนไชส์จึงอยู่ที่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 

อย่างไรก็ดี ใครที่ถนัดกินคนเดียวก็สามารถมาลิ้มลองได้เช่นกัน เพราะที่นี่มีเซ็ตเมนูอิ่มคุ้มสำหรับกินคนเดียว โดยเริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น

สำหรับใครที่อยากลิ้มลองรสชาติหม่าล่าดั้งเดิมในบรรยากาศสไตล์จีนขนานแท้ ณ ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า บริเวณชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน beacOn ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. และเตรียมพบกับสาขาสองในวันที่ 27 กรกฎาคม 2023 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระรามเก้า

Tags: ,