สำหรับพวกคุณ Comfort Food หมายถึงอะไร 

เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงเมนูที่สุดแสนธรรมดา แต่สามารถกินได้ทุกมื้อและทุกวัน เป็นพื้นที่ปลอดภัยเวลาเกิดคำถามประมาณว่า มื้อต่อไปฉันจะกินอะไรดี บ้างก็คงหมายถึงรสชาติอาหารที่กินแล้วชวนให้นึกถึงความหลัง เช่นการได้ทานอาหารรสมือแม่ หรือกระทั่งการได้กินรสชาติที่คล้ายคลึงกับประเทศบ้านเกิดที่เพิ่งจากมา 

สำหรับ Mad Moa Asok ร้านอาหาร Twisted Comfort Food เลือกจะนิยามอาหารของพวกเขาผ่านความหมายอย่างหลัง นำไปสู่การเสิร์ฟอาหารที่รสชาติเรียบง่าย ซื่อตรงกับลูกค้า คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของแต่ละเมนูอย่างชัดเจน ที่พิเศษกว่าหน่อยคงจะเป็นวิธีการนำเสนอ ที่มีการ Twisted อย่างที่ร้านโปรโมตมาโดยตลอด ผ่านการเลือกใช้วัตถุดิบที่แตกต่าง เพื่อนำเสนอรสชาติที่ลุ่มลึกขึ้นกว่าเดิม ชวนให้การทานอาหารที่เรียบง่ายกลับรู้สึกสนุกมากยิ่งขึ้น 

The Momentum ขอชวนผู้อ่านมาสัมผัสรสชาติอาหารและบรรยากาศภายในร้าน Mad Moa Asok สถานที่ซึ่งถ่ายทอดตัวตนของ แวม-ภาวี พยุงเวช ผ่านอาหารรสชาติเยี่ยมและบรรยากาศสไตล์ Tropical ภายในร้านที่สร้างความเป็นกันเองได้เป็นอย่างดี

สำหรับ Mad Moa Asok เป็นร้านอาหารสาขาที่สอง ต่อจาก Mad Moa ที่ตั้งอยู่แถวหลานหลวง ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ที่ภาวีทำมาคนเดียว 7-8 ปีแล้ว จึงตัดสินใจขยับขยายมาเปิดสาขาในพื้นที่อโศก

“คือผมเริ่มจากคนที่ชอบร้านอาหารมากๆ ไม่ใช่แค่ตัวอาหารนะ ชอบบรรยากาศภายในร้าน เครื่องดื่ม เพลงที่เปิด การบริการที่ได้รับ จนวันหนึ่งผมก็อยากจะทำอะไรแบบนี้เป็นของตัวเองขึ้นมาบ้าง เลยเริ่มทำ Mad Moa ขึ้นมา” ภาวี เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำร้านอาหาร

“แต่วิธีทำ Mad Moa มันจะแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป ผมไม่ใช่นักธุรกิจอะไรแบบนั้น ผมเรียนศิลปะมา ดังนั้นเวลาทำร้านอาหารก็เลยจะทำผ่านมุมมองดีไซเนอร์มากกว่า อยากออกแบบทุกรายละเอียดของร้านให้เต็มไปด้วยสิ่งที่เราชอบ ดังนั้น Mad Moa Asok มันจึงเป็นผลงานที่สะท้อนตัวตนของผม มากกว่าที่จะเป็นร้านอาหารที่สร้างมาสำหรับประกอบธุรกิจ”

หากพูดถึงคอนเซปต์ร้านอย่าง Twisted comfort food ภาวีเริ่มอธิบายผ่านคำว่า Comfort Food ที่สำหรับเขาหมายถึงคำว่า ‘อิ่มกายสบายใจ’ เป็นอาหารที่ควรจะเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เหมือนรู้ว่าสั่งเมนูแบบนี้จะได้อาหารรสชาติประมาณไหน หรือในบางทีเวลาทานอาหารบางจานแล้วมันไปสอดคล้องกับความทรงจำ นึกถึงรสมือแม่ อะไรเหล่านี้คือคำว่า Comfort Food สำหรับตัวเขา

“คือพอเรามีลูกค้าต่างชาติเยอะ มันก็จะมีเหตุการณ์ประมาณว่า เขาทานอาหารแล้วรู้สึกว่าอาหารที่ผมเสิร์ฟเหมือนกับอาหารที่บ้านเขาปรุงมา หรืออย่างผมเองก็จะชอบแฮมเบอร์เกอร์ และชีสเบอร์เกอร์ ที่เป็นอาหาร Comfort Food ของตัวผม กินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ”

ส่วนคำว่า Twisted comfort food ภาวี เล่าว่าเป็นการต่อยอดจาก Comfort Food คือการนำอาหารที่มาพลิกมุมในการนำเสนอใหม่ เพราะหากจะให้นำเสนอแบบตรงไปตรงมา สำหรับเขามองว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ อีกทั้งตัวเขาเองก็ไม่อยากทำอาหารที่เหมือนใครด้วย เราเลยลองหาวิธีปรับเปลี่ยนหน้าตาของอาหาร ให้รู้สึกแปลกใหม่ แต่ก็ยังคงรสชาติที่เหมือนเดิม เข้าใจง่าย รู้ว่าที่กำลังทานอยู่คือเมนูอะไร

เมนูแรกที่ Mad Moa Asok นำเสนอคือ Seared Snapper (ราคา 340 บาท) เมนูนี้เกิดขึ้นจากการที่พ่อครัวในร้านมีทั้งคนมอญ คนไทยใหญ่ ก็เลยเอายำถั่วใส่ใบชาที่เป็นอาหารพื้นบ้าน มาปรับด้วยการใส่วัตถุดิบเพิ่มเติมอย่าง Garlic Yougurt มาเป็น Based ของยำถั่ว จากนั้นใส่ใบชาลงไป ให้รสชาติเปรี้ยวและมันเด่นนำ เสิร์ฟพร้อมกับปลาทอดที่ตัดรสชาติได้เป็นอย่างดี

ต่อมาคือ Grilled Corn (ราคา 220 บาท) เมนูนี้ Mad Moa Asok ดัดแปลงมาจากอาหารเม็กซิกัน ด้วยการนำข้าวโพดย่างเอามาแกะออกจากฝัก แล้วผสมชีสและพริกดองที่ทำเองขึ้นมา ให้รสชาติเผ็ด เปรี้ยว หวาน ที่ถึงเครื่อง ครบรส 

สำหรับ Mad Moa Fried Chicken (ราคา 220 บาท) คือเมนูไก่ทอดกรอบที่ขายที่มากที่สุดในตอนนี้ของร้าน ซึ่งตัวไก่ทอดมีการผสมผงคลุกเอง มีการใช้ผงปาปริก้าผสมกับพริกพม่า ราดด้วยซอสพริก น้ำมันพริก ที่ทางร้านทำเองทั้งหมด จนสามารถสร้างรสชาติในแบบเฉพาะตัวของ Mad Moa Asok ได้

อีกเมนูที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือ Mad Moa Grilled Squid (ราคา 240 บาท) เมนูปลาหมึกย่าง ที่ตีความใหม่ ด้วยการมาทานกับซอสซึ่งผสมกับโยเกิร์ต สมุนไพร และพริกญี่ปุ่น แล้วราดซอสด้วยไข่เค็ม ก็จะได้รสชาติที่แตกต่างจากคำว่า ปลาหมึกไข่เค็มที่คุ้นเคยกัน จะมีความกึ่งไทย-กึ่งสากลอยู่

ต่อกันที่ Beef Cheeks Stew (ราคา 380 บาท) เมนูนี้เกิดขึ้นจากความที่ภาวีชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น จึงอยากนำรสชาติแบบนี้มาพลิกวิธีนำเสนอ เลยนำเนื้อส่วนแก้มวัวที่มีรสสัมผัสนิ่ม นุ่มลิ้น มาทำเป็นสตูว์เนื้อ เสิร์ฟพร้อมมันบด  

และ Riso Corn Bacon (320 บาท) ที่ถือเป็นเมนูที่ขายดีที่สุดตลอดกาล ถ้ามองผ่านๆ จะเหมือน ริซอตโต้ (Risotto) ที่มีส่วนผสมของข้าว แต่ทางร้านใช้ Riso ที่เป็นแป้งพาสต้าที่ปั้นเป็นรูปเมล็ดข้าว ซึ่งเนื้อสัมผัสมันนุ่มเด้งกำลังดี ไม่เละจนเกินไป จากนั้นจึงใส่เบคอน ข้าวโพด และมิโซะลงไป ซึ่งจะได้รสชาติที่อูมามิขึ้นมา 

ภาวีเล่าว่าความสนุกของการทำร้าน Twisted Comfort Food คือการที่ไม่ได้หยุดนิ่งในการรังสรรค์ อาหาร-เครื่องดื่ม ที่สามารถพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อย ไม่มีข้อจำกัด กับการหยิบวัฒนธรรมจากหลายท้องที่ซึ่งดีมากอยู่แล้วมาผสมกัน และพลิกวิธีการนำเสนอใหม่ๆ

“แต่แน่นอนว่ามันก็มีความท้าทายเช่นกันว่า มันจะเข้ากันไหม อาหารที่ออกมาจะได้รสชาติที่ถูกใจเราหรือไม่ แต่มันก็เป็นประสบการณ์ทำให้ผมรู้สึกสนุกกับการทำร้านอาหารอยู่เสมอ” ภาวีกล่าว

สำหรับสไตล์การตกแต่งของร้านที่มีความโดดเด่น สะดุดตา ตั้งแต่ก้าวเข้ามาได้ร้าน ภาวีเล่าว่าทั้งหมดเกิดขึ้นจากรสนิยมและความชื่นชอบของตนแทบทั้งสิ้น

“คือผมเป็นคนชอบธรรมชาติ ชอบงานคราฟต์ ที่มนุษย์ทำขึ้นมา ก็เลยจะชอบสะสมพวกผ้า พวกไม้ พวกงานศิลปะ ที่มันมีเรื่องราว ผ่านมือของผู้คนในแต่ละท้องที่ พอมาอยู่ร่วมกันก็จะให้ความรู้สึก Tropical ร้านสไตล์ฮาวายนิดหนึ่ง แต่โดยรวมผมอยากสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นกันเอง เหมือนเป็นบ้านหลังหนึ่งของเพื่อน”

สำหรับสไตล์การตกแต่งของร้านที่มีความโดดเด่น สะดุดตา ตั้งแต่ก้าวเข้ามาได้ร้าน ภาวีเล่าว่าทั้งหมดเกิดขึ้นจากรสนิยมและความชื่นชอบของตนแทบทั้งสิ้น

“คือผมเป็นคนชอบธรรมชาติ ชอบงานคราฟต์ ที่มนุษย์ทำขึ้นมา ก็เลยจะชอบสะสมพวกผ้า พวกไม้ พวกงานศิลปะ ที่มันมีเรื่องราว ผ่านมือของผู้คนในแต่ละท้องที่ พอมาอยู่ร่วมกันก็จะให้ความรู้สึก Tropical ร้านสไตล์ฮาวายนิดหนึ่ง แต่โดยรวมผมอยากสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นกันเอง เหมือนเป็นบ้านหลังหนึ่งของเพื่อน”

ร้าน Mad Moa Asok เปิดทุกวันจันทร์–เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.facebook.com/MadMoaAsok

Fact Box

ร้าน Mad Moa Asok เปิดทุกวันจันทร์–เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/MadMoaAsok

Tags: , , , ,