ในโลกที่ทุกคนต่างตามหาความสมบูรณ์แบบ หลีกเลี่ยงความผิดพลาดและความวุ่นวายในชีวิต เพราะมองว่าสิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่ต้องซ่อนให้มิด แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความไม่สมบูรณ์แบบเป็นเหมือนส่วนประกอบเล็กๆ ที่ทำให้ชีวิตมีเรื่องราวมากขึ้น นิทรรศการ I LIKE A BIT OF TROUBLE ชวนให้ทุกคนกลับมามองความผิดพลาดและยุ่งเหยิงใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่การมองเพื่อหลีกเลี่ยง แต่มองเพื่อให้ผู้คนยอมรับและเรียนรู้ถึงความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต

นิทรรศการ I LIKE A BIT OF TROUBLE จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม-27 ธันวาคม 2568 ที่ KICH Ari Space เป็นการหยิบยกความไม่สมบูรณ์แบบและความผิดพลาดของผู้คนมานำเสนอผ่านตัวละครสุนัข ที่มีความขี้เล่นและเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทุกภาพที่จัดแสดงเปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองให้กับความผิดพลาดเล็กๆ ในชีวิต สะท้อนถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้ตัว หรือความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นมาจนไม่สามารถจัดวางให้เป็นระเบียบได้ทั้งหมด

วันนี้ The Momentum มีโอกาสพูดคุยกับ Pnk.ff หรือ ฟรอยด์-แพรนิกา สินคณารักษ์ ศิลปินนักวาดภาพประกอบและ Visual Designer ผู้สร้างสรรค์ผลงานตัวการ์ตูนด้วยลายเส้นน้องหมาหลากหลายพันธุ์ รวมถึงสัตว์อื่นๆ อีกมากมายที่นำมาออกแบบสร้างสีสันไว้ด้วยกัน

ซัพพอร์ตด้วยความรัก สู่การเป็นศิลปินที่สร้างความรัก

การเริ่มวาดรูปลงบนกระดาษใบเสร็จคือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของฟรอยด์ ศิลปินในนาม Pnk.ff ภาพวาดขีดเขียนธรรมดาถูกสนับสนุนจากคุณแม่ที่เคยเป็นดีไซเนอร์ และเก็บสะสมไว้เป็นกล่องๆ เปรียบเสมือนความทรงจำที่เติบโตขึ้น สิ่งนี้กลายเป็นแรงสนับสนุนเงียบๆ ที่ทำให้ตัวเขาเข้าใจว่าการวาดรูปไม่ใช่เรื่องไกลตัว และนำไปสู่เส้นทางงานศิลปะ

ฟรอยด์เล่าว่า ช่วงเรียนปี 1 ในมหาวิทยาลัย มีโอกาสออกงาน Bangkok Illustration Fair ซึ่งเป็นการรวมตัวของศิลปินมากฝีมือในงานเดียว โดยผลงานที่เป็นจุดเปลี่ยนและสร้างชื่อเสียงในขณะนั้น คือ ‘ฝรั่งมาหาเพื่อนที่ไทย’ ในรูปภาพปรากฏความน่ารักของหมาดัลเมเชียนและหมาพันธ์ุไทยนั่งอยู่ข้างกัน เรียกได้ว่างานชิ้นนี้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของฟรอยด์ที่จะออกแบบคาแรกเตอร์หมาในงานต่อๆ ไป 

เหล่าหมาๆ คือแรงบันดาลใจ

เพราะหมาไม่ใช่แค่คาแรกเตอร์ในงาน แต่เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ความเป็นทาสหมาของฟรอยด์ทำให้ตัวเองชอบที่จะสังเกตหมาแต่ละตัว ถึงจุดที่โดดเด่นและแตกต่างกันและนำจุดเด่นเหล่านั้นสร้างสรรค์เป็นคาแรกเตอร์หมาในหลายผลงาน เริ่มจากการจินตนาการถึงหน้าตาของหมาและค่อยๆ เติมแต่งเรื่องราวเข้าไป เพื่อให้คาแรกเตอร์นั้นดูตลกและมีสีสันอย่างที่ต้องการ

“เมื่อก่อนแถวบ้านในซอยมีหมาเยอะมาก ซึ่งเราก็เลี้ยงหมดเลย เลี้ยงเป็นระบบเปิด แต่ว่ามีตัวนึงที่เป็นตัวโปรดชื่อว่า ‘หูตก’ ซึ่งเราก็รักมันมากแล้วก็เอามาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโลโก้ด้วย”

แม้ว่าคนรอบตัวจะบอกว่าลายเส้นของฟรอยด์มีความเฉพาะตัวมาตั้งแต่เด็ก แต่เธอเชื่อว่าสไตล์ไม่ใช่สิ่งตายตัว ลายเส้นอาจเปลี่ยนไปตามวัย ประสบการณ์ชีวิต และสิ่งที่กำลังสนใจอยู่ ณ ขณะนั้น ในการวาดงานแต่ละครั้งจึงเหมือนเป็นการหยิบเอาสิ่งเหล่านี้มาผสมกันโดยไม่รู้ตัวและกลายเป็นผลงานที่โดดเด่นขึ้นมา 

นอกจากนี้ในการทำงานศิลปะ ฟรอยด์จะให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งหลัก คืองานจะต้องสะท้อนตัวตนของเราอย่างชัดเจน ต่อมาคือเราต้องชอบในผลงานของตัวเองก่อน และสุดท้าย ทุกรูปที่วาดต้องสามารถสื่อสารให้เข้าใจได้ง่าย

ยุ่งเหยิง วุ่นวาย ‘I LIKE A BIT OF TROUBLE’ 

ก่อนหน้านี้ Pnk.ff จัดนิทรรศการ Badass that I love ขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันที่ 8 กรกฎาคม-20 สิงหาคม 2566 ซึ่งเป็นคอนเซปต์เกี่ยวกับเหล่าหมาๆ หรือเรียกว่าเป็นการเฉลิมฉลองการมีอยู่ของหมาทุกตัวในมุมกว้าง

เมื่อมีโอกาสจัดนิทรรศการอีกครั้งจึงอยากพาผู้ชมให้เข้ามาใกล้กับตัวเองมากขึ้น ตั้งแต่การคิดคอนเซปต์จนถึงการร่างภาพของสถานการณ์ความผิดพลาดในชีวิตประจำวัน ซึ่งใช้เวลาในการเตรียมตัวกว่า 1 ปีถึงจะออกมาเป็น I LIKE A BIT OF TROUBLE ที่เปิดให้ผู้คนได้เข้ามาเยี่ยมชมศิลปะแห่งความผิดพลาดนี้

“เรารู้สึกว่าอยากให้งานนี้มีความ Personal มากขึ้น อยากใส่ความเป็นตัวเองลงไปมากขึ้น ให้คนมารู้จักเราในมิติที่ลึกมากขึ้น ก็เลยทำ I LIKE A BIT OF TROUBLE ขึ้นมา ซึ่งมาจากประสบการณ์ของฟรอยด์เอง ที่ให้ความรู้สึกเหมือน ‘เกิดแต่กับเรา’ ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์แบบนี้เรารู้สึกดีใจเวลาที่มีคนเข้าใจ แล้วก็รู้สึกว่าคงไม่ใช่แค่เราที่เป็นอย่างนี้ คงมีคนอื่นๆ ที่เคยผิดพลาดมาเหมือนกัน แล้วก็อยากจะถูกโอบกอดไว้เหมือนกัน” 

หากพูดถึงความท้าทายในการเป็นศิลปิน Pnk.ff แล้ว ฟรอยด์เล่าว่า ในการสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นจะต้องสู้กับความคาดหวังของตัวเอง เป็นความคาดหวังว่างานชิ้นนี้จะต้องมีหน้าตาออกมาประมาณไหน และต้องทำออกมาเป็นอย่างที่ตนเองคิดให้ได้

“ถ้าสมมติว่างานนั้นต้องเสร็จจริงๆ ก็จะนั่งวาดออกมาเลย วาดออกมาเยอะๆ เหมือนทำไปก่อน แล้วค่อยมาทำให้มันสวยทีหลังก็ได้ อีกวิธีหนึ่งคือ หยุดสักพักแล้วก็มาคิดกับตัวเองว่า ‘นี่เราทำเพื่อความสนุกไม่ใช่เหรอ’ บางทีไม่ต้องคิดเยอะเกินไปงานอาจออกมาดีกว่าด้วยซ้ำ”

เมื่อพูดคุยถึงจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจของงานนิทรรศการนี้แล้ว เราจึงให้ฟรอยด์เลือกผลงานที่มีความหมายหรือชื่นชอบเป็นพิเศษมา 3 ผลงานในนิทรรศการ I LIKE A BIT OF TROUBLE01 Life Recently

ผลงานแรกในนิทรรศการครั้งที่ 2 ที่ช่วยจุดประกายความคิดจนเกิดเป็นคอนเซปต์ I like a bit of trouble ขึ้นมา รูปนี้วาดและนำเสนอผ่านคาแรกเตอร์เหล่าหมาหลายสายพันธ์ุ ภาพความวุ่นวายของสายจูงนี้เหมือนกับตัวตนของตัวเอง ที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าผลงานนี้แสดงความเป็นตัวตนของฟรอยด์ได้มากที่สุด02 Grab and Gone

ผลงานลำดับต่อมาเป็นภาพของหมาดัชชุน ซึ่งเป็นหมาตัวโปรดของฟรอยด์ นำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานความผิดพลาดทั้งภาพวาดและอาร์ตทอย โดยนำเสนอภาพของหมาดัชชุนที่พยายามจะเป็นสุภาพบุรุษในสายตาของผู้หญิง ด้วยการช่วยถือกระเป๋าและแก้วกาแฟให้ แต่ความพยายามนี้ทำให้แก้วกาแฟในมือทั้ง 2 ข้างหกเลอะเทอะ จนกลายเป็นความผิดพลาดเล็กๆ ที่ทำให้ภาพวาดนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น

03 I forgot my keycard

ภาพสุดท้ายเกี่ยวกับความผิดพลาดในชีวิตประจำวันที่ทุกคนมักเคยเจอ เช่น การลืมกุญแจหรือคีย์การ์ดเอาไว้ในบ้าน ศิลปินนำมาสร้างสรรค์และนำเสนอผ่านคาแรกเตอร์หมาที่ชื่อว่า Lucky ซึ่งแสดงถึงความย้อนแย้งระหว่างชื่อกับสถานการณ์ที่ได้เจอ

จดจำฉันไว้ว่า หมาและความเพี้ยนเล็กๆ คือชีวิต

นิทรรศการ I LIKE A BIT OF TROUBLE จัดขึ้นด้วยเป้าหมายที่เรียบง่ายว่า ‘อยากให้คนขำ’ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดในพื้นที่จัดแสดงหรือในช่องทางโซเชียลมีเดียก็ตาม หากใครสักคนเห็นผลงานเหล่านี้แล้วเผลอหัวเราะหรือนึกถึงใครบางคนขึ้นมา ความรู้สึกนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับความหมายของนิทรรศการ ฟรอยด์กล่าวว่า อยากให้ภาพวาดเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นพลังบวกเล็กๆ ในแต่วันของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นวันที่สดใสหรือวันที่หม่นหมองก็ตาม 

คำวิจารณ์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ และผู้ชมก็มีรสนิยมที่แตกต่างกัน ฟรอยด์กล่าวว่าคำวิจารณ์ที่เคยได้รับในอดีตไม่ได้เป็นบาดแผล แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ได้กลับไปพัฒนาตัวเองมากกว่า คำทักท้วงเล็กๆ น้อยๆ สะท้อนว่าไม่มีงานไหนจะถูกใจทุกคนได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไรหากตัวศิลปินยังชอบผลงานของตัวเองอยู่

“นิทรรศการนี้อยากชวนให้ทุกคนเอาความผิดพลาดของตัวเองมาแขวนไว้ใต้สปอตไลต์ และเปิดมันออกมาอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ได้ทบทวนว่าเราผิดพลาดตรงไหน ผ่านเรื่องราววุ่นวายซุ่มซ่ามอะไรมาบ้าง 1 ปีที่ผ่านมาพาเราไปเจอกับอะไรบ้าง และสุดท้ายอยากให้ทุกคนได้ขอบคุณตัวเอง ที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง”

ฟรอยด์ทิ้งท้ายว่า หากพูดถึงมุมมองของผู้ชมที่มองเข้ามา อยากให้ทุกคนจดจำ Pnk.ff ในฐานะศิลปินที่รักหมา รักความตลกเฮฮา และความเพี้ยนของชีวิต เพราะฉะนั้นชื่อ I LIKE A BIT OF TROUBLE จึงไม่ใช่แค่ชื่อนิทรรศการ แต่เป็นเหมือนพื้นที่ปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้ามายอมรับในด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบ ความยุ่งเหยิง และความวุ่นวายของชีวิต เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความผิดพลาดเล็กๆ อย่างไม่รู้สึกผิด เพราะในท้ายที่สุด ความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านี้เองที่ทำให้ชีวิตในแต่ละวันมีสีสัน มีเรื่องเล่า และสะท้อนความเป็นมนุษย์คนหนึ่งอย่างแท้จริง

Fact Box

นิทรรศการ I LIKE A BIT OF TROUBLE จัดแสดงที่ KICH Ari space ชั้น 3 Tempo Bar Ari ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม-27 ธันวาคม 2568 เปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 12.00-19.00 น. 

Tags: , , , ,