วันที่ 22 มีนาคม 2562 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน กรุงเทพมหานคร

ในวันดังกล่าว เป็นการหาเสียงครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ซึ่งจะเกิดขึ้นในอีก 2 วันข้างหน้า พรรคอนาคตใหม่และพรรคเพื่อไทย ใช้พื้นที่ของสนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ขับเคี่ยวกันปราศรัยใหญ่ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐใช้พื้นที่สนามกีฬาเทพหัสดิน เป็นเวทีปราศรัยเช่นเดียวกัน พร้อมกับเปิดตัวพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีหาเสียงเป็นครั้งแรก หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไฟเขียวให้ผู้ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีขึ้นเวทีหาเสียงได้ แม้จะไม่ได้สังกัดพรรค

นั่นทำให้การ ‘ไลฟ์สด’ ทุกเวทีปราศรัยวันนั้นคึกคักเป็นอย่างมาก โดยนอกเหนือจากการปราศรัยใหญ่ของแต่ละพรรคแล้ว ยังมีการจับจ้องไปยังเหตุการณ์ที่โรงแรมโรสวูด ฮ่องกง ซึ่งมีงานแต่งงานของ แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งในโอกาสนี้ มีแขกคนสำคัญอย่าง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จฯ ไปร่วมงานด้วย

เวลา 19.17 น. พลเอกประยุทธ์ได้ปรากฏตัวบนเวที ท่ามกลางเสียงร้องต้อนรับและดอกไม้แทนกำลังใจจากประชาชน ก่อนร่วมร้องเพลงหยุดตรงนี้ที่เธอ ของ ‘ฟอร์ด’ – สบชัย ไกรยูรเสน กับประชาชนก่อนจะทำการปราศัย โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 7 นาที

ในการปราศรัย พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าจะนำพาประชาชนทั้ง 77 จังหวัดไปข้างหน้าเพื่อให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม โดยตนดำรงตำแหน่งมา 5 ปี รู้ดีว่าอะไรคือปัญหาและอุปสรรค ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ถางเส้นทางให้โล่งมาพอสมควรแล้ว “จากนี้จึงขอให้ ‘พวกเรา’ ช่วยถางทางตรงนี้ให้โล่ง ให้สามารถเดินทางไปในทุกที่ได้ และเพื่อให้เกิดความสงบสุขเป็นสิ่งสำคัญ โดยต่อจากนี้ไปเราต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง เราจะต้องนำหัวใจความรักความสามัคคีกลับคืนมา เราต้องรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์”

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ยังได้กล่าวขอบคุณคนไทยทั้งประเทศว่า “ขอบคุณทุกคนในกำลังใจและความรักที่ให้กับผมมา ผมจะตอบสนองไปให้ไม่น้อยกว่าที่ให้ผมมา ผมให้ได้ทั้งชีวิตและจิตใจ ผมจะยอมตายเพื่อแผ่นดินผืนนี้ แผ่นดินที่ให้ผมเกิด ให้ผมมีที่กินอยู่หลับนอนและมีอาชีพ ผมต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ เพื่อลูกหลานในอนาคต จะไปกับผมไหม ประเทศไทยจะไม่ล้มอีกต่อไป” และพร้อมจะจับมือคนไทย 68 ล้านคนเดินไปด้วยกัน นำความรัก ความสามัคคี กลับคืนมา

โดยงานดังกล่าวถือเป็นการปราศรัยครั้งแรกของพลเอกประยุทธ์ หลังจากที่พรรคพลังประชารัฐมีแผนจะให้ขึ้นปราศรัยก่อนหน้า แต่กลับเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะในแง่กฎหมายว่า พลเอกประยุทธ์ยังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอยู่หรือไม่ จากการดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (15)

แต่สุดท้าย วันที่ 18 กันยายน 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ถือว่าเป็น ‘เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ’ ​​โดยศาลวินิจฉัยว่า ตำแหน่งหัวหน้า คสช. มาจากการยึดอำนาจการปกครองประเทศ การแต่งตั้งหัวหน้า คสช. เป็นผลสืบเนื่องมาจากการยึดอำนาจ และเป็นการใช้อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ อีกทั้งไม่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของหน่วยงานใด และมีอำนาจหน้าที่เป็นการเฉพาะชั่วคราวในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

 

 

 

 

 

Tags: