ตั้งแต่ปี 2017 ที่รัฐบาลของจาซินดา อาร์เดิร์น เข้ามาบริหารประเทศนิวซีแลนด์ บรรดาคุณครูได้ประกาศหยุดงานประท้วงมาแล้ว 3 ครั้ง เพื่อเรียกร้องให้เพิ่มค่าตอบแทน ปรับปรุงสภาพการทำงานให้ดีขึ้น และเคารพต่อวิชาชีพครู

วันนี้ (29 พฤษภาคม) ครูนิวซีแลนด์ 50,000 คนทั่วประเทศหยุดงานประท้วงตามมติของสหภาพแรงงาน เพื่อเรียกร้องให้ขึ้นค่าจ้างและลดชั่วโมงการทำงานลง ครั้งนี้นับเป็นการหยุดงานประท้วงที่ใหญ่ที่สุดในแวดวงการศึกษานิวซีแลนด์ จนทำให้โรงเรียนประถมและมัธยมทั่วประเทศต้องหยุด 1 วัน

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สหภาพครูเจรจากับรัฐบาลเพื่อขอเพิ่มค่าจ้างและออกมาตรการลดภาระงาน แต่ก็ยังไม่มีทางออก แถลงการณ์จากประธานสหภาพครูเมื่อต้นเดือนนี้ระบุว่า “ข้อเสนอที่เราได้รับจากรัฐบาลไม่ได้แก้ปัญหาที่วิชาชีพที่เราเผชิญอยู่” ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาก็กล่าวว่า เงินที่เพิ่มขึ้น 620 ล้านปอนด์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เป็นข้อเสนอการเพิ่มค่าจ้างที่มากที่สุดที่ครูได้รับในรอบ 10 ปี และวันนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าปีนี้ไม่มีงบประมาณเพิ่มให้ครูอีกแล้ว

นิวซีแลนด์ประสบปัญหาขาดแคลนครู จนรัฐบาลต้องจ้างครูจากสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียมาเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ยังไม่พอ หลายโรงเรียนครูใหญ่ต้องสอนเอง หรือมีการร้องขอให้ครูที่เกษียณแล้วกลับเข้าทำงานต่อ

รัฐบาลอาเดิร์นที่มาจากพันธมิตรด้านแรงงาน มีความพยายามที่จะทุ่มงบประมาณไปยังด้านสวัสดิการสังคม และเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหามากมาย การผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนี้ เกิดขึ้นเพียงวันเดียวก่อนจะถึงวันที่รัฐบาลจะประกาศงบประมาณ ‘ความเป็นอยู่ที่ดี’ (well being) ที่ถูกนำมาใช้ครั้งแรก โดยเป็นแนวทางที่จะใช้ตัวชี้วัดที่กว้างขึ้น เพื่อนำมาตัดสินใจด้านงบประมาณ ที่จะนำไปสู่การพัฒนามาตรฐานความเป็นอยู่ของชาวนิวซีแลนด์

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน เมื่อวันอังคารที่ 28 พฤษภาคม ก็มีรายงานว่า มีการแฮ็กข้อมูลที่เกี่ยวกับงบประมาณบางส่วน จนทำให้ข้อมูลหลุดรอดออกไปถึงพรรคฝ่ายค้านได้ ตำรวจกำลังสอบสวนว่าพรรคฝ่ายค้านเกี่ยวข้องหรือไม่

ที่มา:

 

ภาพ:  nz.educationhq.com

Tags: , , , , , ,