หลังจากใช้เวลากว่า 3 ปี ในการปรับโครงสร้างองค์กรปรับโครงสร้างเพื่อจดทะเบียนเตรียมเข้าตลาดหุ้นเซ็นทรัล รีเทล ได้ประกาศความพร้อมและวิสัยทัศน์ ‘New Central New Retail’ โดยรวมธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี มาอยู่ภายใต้การบริหารของเซ็นทรัล รีเทล พร้อมเชื่อมต่อประสบการณ์ช้อปปิงออนไลน์และออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ รองรับพฤติกรรมคนช้อปปิงยุคปัจจุบัน

ทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร เซ็นทรัล รีเทล ได้ฉายภาพธุรกิจเซ็นทรัล รีเทลตลอด 72 ปีที่ผ่านมาว่าเซ็นทรัลเป็นผู้ริเริ่มทำห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทย จากร้านค้าเล็กๆ บนถนนเจริญกรุงในปี 1947 หลังจากนั้นก็พัฒนาและขยายอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ วังบูรพาในปี 1956 สีลมในปี 1968 ชิดลมในปี 1974 และ 1982 ที่ลาดพร้าว

ขณะที่ยังขยายธุรกิจไปอีกมายมาย ไม่ใช่แค่ห้างเซ็นทรัล ยังมีท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไทวัสดุ, โรบินสัน, พาวเวอร์ บาย เป็นต้น พร้อมกับเปิดห้างเซ็นทรัลยังต่างจังหวัดที่เชียงใหม่ในปี 1992 และหลังจากนั้นสิบปีที่ผ่านมาก็ยังมีการขยายไปต่างประเทศ เริ่มต้นที่อิตาลีในปี 2011 ที่เข้าซื้อห้างลา รีนาเชนเต (La Rinascente)  และในปี 2015 บุกตลาดเวียดนาม จนขึ้นเป็นร้านค้าปลีกอันดับสองของประเทศ

“อนาคตของเซ็นทรัล รีเทล จะถูกขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจแบบใหม่และเทคโนโลยีที่เข้ามา เราต้องปรับตัวเองไปสู่การเป็นห้างค้าปลีกแบบใหม่ จากออฟไลน์สู่ออนไลน์ มีช่องทางการจัดจำหน่ายแบบ Omnichannel ผสานช่องทางการซื้อสินค้าหลากหลายรูปแบบ ผ่านร้านค้า ออนไลน์ สมาร์ตโฟน เป็นต้น”

“ที่สำคัญเรายังเตรียมตัวเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทมหาชน ตามรอยเซ็นทารา ธุรกิจโรงแรมของกลุ่มเซ็นทรัล และ CPN ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปก่อนหน้านี้”

ด้าน ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล พูดถึงการปรับโครงสร้างองค์กร เตรียมความพร้อมในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นหัวใจสำคัญของเซ็นทรัลที่ทำให้สามารถทำธุรกิจประสบความสำเร็จมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

“3 ปีที่ผ่านมา เราปรับโครงสร้าง ปรับปรุง ขยายธุรกิจ ดึงผู้บริหารมืออาชีพทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามา พร้อมกับสร้างแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่จะเป็นการเตรียมพร้อมสู่การเข้าตลาดหุ้น”

“โดยที่เราไม่ละเลยเรื่องการสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เราอยากให้เซ็นทรัลเป็นศูนย์กลางชีวิตของทั้งลูกค้า พนักงาน ชุมชนรอบข้าง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน”

ญนน์เปิดเผยว่าการปรับโครงสร้างของเซ็นทรัล รีเทล ก็เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่ที่ต้องมีความหลากหลายและยืดหยุ่น ผ่านกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ Multi Market คือการมีธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ Multi Format คือการมีช่องทางหลายรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และ Multi-category มีสินค้าครอบคลุมทุกประเภท

“อีโคซิสเต็มของเซ็นทรัล รีเทล เราพร้อมมากๆ แล้ว เรามีความหลากหลาย ยืดหยุ่นที่พร้อมจะปรับตัว มีความสามารถที่จะขยายธุรกิจออกไปยังต่างประเทศ สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้”

สำหรับสาเหตุสำคัญที่ต้องเข้าตลาดหุ้น ทางผู้บริหารเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า เพื่อโอกาสการขยายธุรกิจ เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส

ทั้งนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมยื่นแบบไฟลิ่ง (การยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าจะยื่นได้ภายในปีนี้

Tags: