“ในฤดูใบไม้ผลิปี 2017 โธมัส ไวท์คงปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า จะเป็นอย่างไร หากเขาผสมผสานความหลงใหลในกาแฟ กับความเชื่อเรื่องรัฐเฉพาะคนขาว (white ethnostate) ผลที่ได้จึงเป็นบริษัทเมล็ดกาแฟหัวใจนีโอนาซีในแคนาดา”—บทความจาก Vice.com กล่าวถึงธุรกิจกาแฟของนีโอนาซีนายหนึ่งเอาไว้ทำนองนี้

โธมัส ไวท์ (Thomas White) เป็นเจ้าของร้านกาแฟชื่อ Espresso Joya ที่เคยตั้งอยู่บริเวณธันเดอร์เบย์ เขตอาร์ตซีนในเมืองออนแทริโอ เป็นร้านที่สนับสนุนเมล็ดกาแฟท้องถิ่น และเป็นพื้นที่ให้ศิลปินท้องถิ่นได้จัดแสดงผลงาน ทุกวันในร้านจะเปิดเพลงจากแผ่นเสียงไวนิล จัดอะคูสติกไลฟ์บ่อยครั้ง ไวท์เองเป็นบาริสต้าที่ลงลึกในศาสตร์ของกาแฟตั้งแต่เรื่องเมล็ดจนถึงความพิถีพิถันในการคั่ว หากไม่นับลุคพังก์ๆ ของเขาก็นับว่าดูอบอุ่นตามประสาร้านกาแฟ ยกเว้นเสียแต่ไวท์ระบุ (ผ่านนามแฝงในอินเทอร์เน็ต) ว่าร้านนี้เปิดสำหรับแฟนรายการพอดแคสต์ ‘This Hour Has 88 Minutes’ และใครก็ตามที่ภาคภูมิใจในผิวขาวๆ ของตน

‘This Hour Has 88 Minutes’ คือรายการพอดแคสต์ที่โธมัส ไวท์เป็นผู้จัดอย่างลับๆ (กลุ่มนีโอนาซีใช้หมายเลข 88 เพื่อสื่อถึง Heil Hitler หรือการทักทายแบบนาซี เพราะตัว H เป็นอักษรตัวที่ 8 ในชุดอักษรโรมัน) เนื้อหารายการก็อย่างเช่นทฤษฎีสมคบคิดที่ยกเผ่าพันธุ์ผิวขาวขึ้นสูงกว่าใครอื่น การปฏิเสธการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ว่าไม่เคยเกิดขึ้น เหยียดเพศหญิง เหยียดเกย์ เหยียดผู้อพยพ เหยียดชาวยิว เหยียดมุสลิม เหยียดคนดำ เหยียดเอเชียน ฯลฯ เหยียดทุกอย่างที่ไม่ใช่ผู้ชายเผ่าอารยัน

และจากการขุดคุ้ยหาข้อมูลของทีม Vice ทั้งทีมหลักในแคนาดาและทีมควิเบกจากเมืองมอนทรีออล ทั้งสองทีมค้นพบตรงกันว่า นอกจากเป็นครูสอนศิลปะ เป็นอาสาสมัครดับเพลิง และเปิดร้านกาแฟ ทางตัวตนออนไลน์ โธมัส ไวท์ ยังเป็นตัวตั้งตัวตีของกลุ่มนีโอนาซี และกลุ่มขวาจัด (alt-right) ในแคนาดา เป็นเจ้าของนามแฝง ‘League of the North’ จอมเหยียดเชื้อชาติในอินเทอร์เน็ต รวมถึงนามแฝงอื่นอีกเป็นกระตั้กที่ชี้ชวนให้เหล่านีโอนาซีก่อความรุนแรงอยู่บ่อยๆ เขามักโพสต์ถึงการมีภรรยาเพิ่มเพื่อขยายเผ่าพันธุ์คนขาว พูดถึงปืนไรเฟิลและการสอนลูกชายให้ยิงเป้า Vice ยังเผยอีกว่าธุรกิจกาแฟของเขาเป็นหนึ่งในแผนการขยายเครือข่ายเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งเชื้อสายคนขาว ที่เขาเชื่อว่าสูงส่งและยิ่งใหญ่เหนือเผ่าพันธุ์อื่นๆ

ไวท์ต้องการจัดตั้งชุมชนนีโอนาซีในออนแทริโอ ผ่านการระดมทุนทางร้านกาแฟ ข้อความที่เขาโพสต์ทางอินเทอร์เน็ตยังบ่งบอกว่า ไวท์ไม่ได้ปลื้มวัฒนธรรมกาแฟอย่างที่มันดูเหมือนจะเป็นอยู่— วัฒนธรรมของพวกฮิปสเตอร์หัวเอียงซ้าย พื้นที่ของพวกคนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้า โดยไวท์เรียกพวกเขาเหล่านั้นว่า shitlib normies ที่ถือเป็นคำเหยียดพวกปัญญาชนในสังคมว่าแท้จริงแล้วกากสิ้นดี

ไวท์รักกาแฟและรักเผ่าพันธุ์ เขาจึงต้องการให้พวกพ้องของตัวเองดื่มด่ำกับกาแฟดีๆ ได้โดยไม่ต้องไปข้องแวะกับพวก ‘ตุ๊ดไว้หนวด’ (bearded faggots) ร้านกาแฟของเขาจะเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้เกิดรัฐเฉพาะคนขาวอย่างแท้จริง—เขาระบุอย่างนั้นผ่านฟอรั่มในเว็บไซต์เฉพาะกลุ่มของพวกเขา ร้าน Espresso Joya จึงถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2015 ก่อนจะต้องปิดตัวลงไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 เพราะชาวธันเดอร์ เบย์เริ่มรับรู้ถึงทัศนคตินีโอนาซีของเขาและแสดงการต่อต้าน

แต่ถึงอย่างนั้น ความรักในกาแฟและเผ่าพันธุ์ยังคงแรงกล้า ในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาเขาเปิดเว็บไซต์ขายเมล็ดกาแฟออนไลน์ในชื่อ Rising Sun Coffee Co. ที่ระบุชัดๆ ไปเลยว่าจะบริจาค 5 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายสู่องค์กรคนขาวที่มีเป้าหมายจะ “ปกป้องดูแลเผ่าพันธุ์ตนเอง” ซึ่ง Vice อีกที่เป็นผู้ค้นพบว่าไวท์เป็นเจ้าของ Rising Sun เพราะมีไอพีแอดเดรสเดียวกับแอคเคานต์ League of the North พร้อมจิกกัดเบาๆ ว่าดูออกไม่ยากเพราะก็อปปี้ซ้ำๆ เดิมๆ ที่เขียนขายเมล็ดกาแฟก็ลอกมาจากอีกบริษัทหนึ่งที่เคยขายเมล็ดกาแฟให้ร้าน Joya แล้วค่อยมาเปลี่ยนชื่อสูตรให้ดูเป็นเยอรมันๆ ซึ่งบริษัทนั้นเองก็ยอมรับว่า ถ้ารู้แต่แรกว่าไวท์เป็นนีโอนาซีก็คงไม่ขายเมล็ดให้ตั้งแต่แรก

ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาแล้วก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมสังคมถึงได้เกลียดกลัวนีโอนาซีกันนัก พวกเขาบูชาฮิตเลอร์ ชื่นชมกลุ่มคูคลักซ์แคลน และพฤติกรรมของพวกเขาก็ไม่ใช่แค่เหยียด แต่ยังเป็นทำร้ายและฆ่า เมื่อปี 2010 ที่รัสเซีย แก๊งนีโอนาซีนับร้อยบุกเข้าไปทำร้ายคนในคอนเสิร์ตด้วยท่อนเหล็ก จนมีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต  ปี 2015 อดีตทหารขับรถพุ่งชนผู้หญิงนักรณรงค์ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติจนเสียชีวิต เมื่อต้นปีที่ผ่านมานักศึกษาอเมริกันวัย 19 ฆ่าอดีตเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นเกย์ชาวยิว (วีรกรรมของเขาถูกสรรเสริญเยินยอในเว็บบอร์ดของกลุ่มนีโอนาซี) รวมถึงเหตุความรุนแรงอีกจำนวนมากที่เป็นผลมาจากความเชื่อสุดโต่งของลัทธินี้

การมีอยู่ของรายการ This Hour Has 88 Minutes ซึ่งมีผู้ฟังเป็นหลักหมื่นจึงเป็นเรื่องชวนกลุ้มสำหรับแคนาดา เพราะมันทำให้พบว่าในประเทศมีกลุ่มนีโอนาซีอยู่มากแค่ไหน (รายการยังมีรสร้อนแรงจนถูกแนะนำโดยเว็บไซต์ Daily Stormer ที่เป็นตัวพ่อแห่งวงการนีโอนาซีในอเมริกา) ขณะที่หลายๆ ประเทศอย่างฟินแลนด์ สวีเดน หรือนอร์เวย์ มีการชุมนุมต่อต้านกลุ่มนีโอนาซีที่ก่อความรุนแรงและสร้างความเกลียดชังเป็นวงกว้าง

กลับมาที่ร้านกาแฟของโธมัส ไวท์ ที่ถูกชาวธันเดอร์เบย์ต่อต้านเพราะพฤติกรรมนีโอนาซีในอินเทอร์เน็ต (อันที่จริงจากที่ตามอ่านรีวิวร้านก็มีคนระบุว่าเจ้าของร้านหยาบคายและมีทัศนคติที่น่ากลัว โดยที่ผู้รีวิวยังไม่ทราบถึงความนีโอนาซีของเขาด้วยซ้ำ) บทความของ Vice ก็ได้ฝังกลบอนาคตทางกาแฟของไวท์เป็นที่เรียบร้อย เหตุการณ์นี้มีบางส่วนที่คล้ายคลึงกับเรื่องเมื่อปี 2017 ที่บริษัทไอทีอย่างเช่นทวิตเตอร์ เฟสบุ๊ก หรือสแนปแชท ปิดกั้นข้อความของกลุ่มนีโอนาซีจากแพลตฟอร์มของพวกเขา นำมาซึ่งการพยายามทบทวนและตั้งคำถามเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพ การยอมรับความแตกต่างหลากหลายและสิทธิมนุษยชน

หากมองว่า “แม้แต่สิทธิที่จะดื่มด่ำในกาแฟของพวกเขายังต้องถูกจำกัด” ก็ฟังดูเป็นเรื่องน่าจะขมขื่นสำหรับโธมัส ไวท์ แต่สำหรับชาวธันเดอร์เบย์มันก็น่ากระอักกระอ่วนอยู่ดีที่จะมีธุรกิจของไวท์อยู่ในอาณาบริเวณของพวกเขา เพราะลัทธินีโอนาซีไม่ใช่แค่ความคิดเห็นทางการเมือง แต่ยังเป็นความคิดเชื่อที่นำไปสู่อาชญากรรมนับครั้งไม่ถ้วน ที่น่ากังวลอาจเป็นวิธีโต้กลับที่อาจยิ่งทำให้นีโอนาซีกลายเป็นคลื่นใต้น้ำ ที่ไม่รู้จะปะทุขึ้นมาอีกในวันไหนเสียมากกว่า ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องที่หลายประเทศยังคงต้องจัดการกันไปอีกยาวนาน

 

อ้างอิง

Tags: , , , ,