‘The Climb’ ภาพยนตร์ตีแผ่ความบ้าบอระหว่างเพื่อนได้อย่างเหนือชั้น

“เพราะชีวิตของเราจะต้องมีเพื่อนสักคน ที่ยอมรับในความบัดซบของเราได้”

ถ้าพูดถึงมิตรภาพระหว่าง ‘เพื่อน’ ภาพแรกที่นึกถึงคงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวน่าประทับใจในชีวิต แต่หากคุณได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Climb อาจจะสลัดภาพความเป็นเพื่อนบนทุ่งลาเวนเดอร์ที่คุณคิดไว้ออกไปแทบจะหมดสิ้น เพราะหนังเรื่องนี้ใช้ความสัมพันธ์ที่ว่ามาขยี้แล้วขยี้อีก ให้ออกมาเป็นเสียงหัวเราะปนความอบอุ่นละมุนละไม

ก่อนอื่นต้องขอพรีเซนต์ว่า ภาพยนตร์เรื่อง THE Climb ไม่ใช่หนังตลกโปกฮาแต่อย่างใด ภาพยนตร์เรื่องนี้มีดีกรีรางวัลขวัญใจคณะกรรมการจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปี 2019 ติดตัวมาในสาขา ‘Un Certain Regard’ ถึงขนาดที่ว่าหลังฉายภาพยนตร์จบสามารถเรียกเสียงปรบมือนักวิจารณ์ได้แทบทั้งโรง ซึ่งเว็บไซต์จัดเรทคะแนนภาพยนต์อย่าง Rotten Tomatoes มอบความเฟรช ให้ถึง 93 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ IMDB มีคะแนนอยู่ที่ 7.1 เพียงเท่านี้ก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษแบบนานๆ ทีจะเกิดซักครั้งกับหนังประเภทนี้

(ซีนขี่จักรยานตอนเปิดเรื่อง ซึ่งกลายมาเป็นภาพจำของภาพยนตร์ TheClimb)

The Climb เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่าง ไคล์ (ไคล์ มาร์วิน) และ ไมค์ (ไมเคิล แองเจโล่ โควิโน) สองเพื่อนซี้ที่สนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่เด็ก แต่แล้ววันหนึ่งไคล์ก็ได้รับรู้ความจริงจากปากของไมค์ว่า ไมค์ได้มี ‘ซัมติง’ แบบลึกซึ้งหลายต่อหลายครั้งกับคู่หมั้นของไคล์ ก่อนทั้งคู่จะแตกหัก แล้วห่างหายจากชีวิตกันไป จนกระทั่งชะตาชีวิตพัดพาทั้งคู่กลับมาพบกันอีก อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงครั้งเดียวกับการทะเลาะ เลิกคบ คืนดี เพราะยังมีสถานการณ์บัดซบอีกล้นเหลือของสองเพื่อนซี้ ชนิดที่ว่าถ้าเป็นเรื่องจริงขอไม่เผาผีกันเลยจะดีกว่า

มาถึงตรงนี้แล้ว คุณผู้อ่านกำลังคิดว่ามันต้องเป็นหนังตลกแบบชงมุขโบ๊ะบ๊ะ คุณกำลังคิดผิดนะครับ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ความสัมพันธ์อันหวานอมขมกลืนระหว่างเพื่อนมาเป็นเทคนิคขับเคลื่อนความฮา หรือจะเป็นนิสัยความต่างที่เพื่อนคนหนึ่งแสนดีเสียเหลือเกินดุจพ่อพระ ขณะที่อีกคนกลับห่วยแตก นิสัยเสีย แต่เมื่อมาอยู่ในซีนเดียวกันมันจะต้องมีมุขบ้าบอเหนือความคาดหมายมาเซอร์ไพรส์เราตลอด

(ไคล์ มาร์วิน และ ไมเคิล แองเจโล่ โควิโน สองเพื่อนซี้ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้)

อีกสาเหตุที่ทำให้ THE CLIMB ดูเป็นหนังตลกที่มีบทบาทการแสดงดูเป็นธรรมชาติมาก เพราะว่าตัวละครนำทั้งสองคนในภาพยนตร์ คือเพื่อนกันในชีวิตจริงด้วย แถมยังเป็นคนร่วมกันเขียนบทรวมถึงกำกับหนังเรื่องนี้เองอีกต่างหาก (ช็อคสองต่อ!) 

‘ไคล์’ ไคล์ มาร์วิน และ ‘ไมค์’ไมเคิล แองเจโล่ โควิโน อ่านไม่ผิดครับ ผู้กำกับทั้งสองลงทุนใช้ชื่อของตัวเองมาแสดงในเรื่องนี้ ทำให้แต่ละซีนทั้งคู่สื่ออารมณ์ออกมาผ่านสีหน้า แววตาได้สมกับเป็นเพื่อนกันจริงๆ แถมเทคนิคการถ่ายทำยังใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Take ปล่อยไหลไปตามอารมณ์ สร้างความสมูทกันแบบเพลินๆ

สุดท้ายนี้ต้องบอกว่า ไม่อยากให้พลาดชมหนังตลกที่เอาธรรมชาติระหว่างเพื่อนมาใช้ได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเรื่องนี้จริงๆ ยิ่งพาเพื่อนสนิทไปชมด้วย ก็น่าจะสร้างอรรถรสได้เข้าไปอีกขั้น

หรืออาจจะได้ย้อนความทรงจำไปหาเพื่อนสักคนที่ต่อให้น่าเลิกคบแค่ไหน ก็หนีมันไปไม่ได้จริงๆ …