ถึงเสียงหัวใจจะลดจังหวะการเต้นที่เร็วและแรงลงมาบ้างแล้ว แต่ความรู้สึกตื่นเต้นที่ยากจะหาคำอธิบายได้นั้นยังคงอยู่
ผมเชื่อว่าใครที่ได้นั่งชม ‘ซูเปอร์โบว์ล’ เกมนัดชิงดำของศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ระหว่าง แอตแลนตา ฟอลคอนส์ และ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา (6 ก.พ.) คงจะรู้สึกไม่แตกต่างกันเท่าไร
การต่อสู้ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ควอเตอร์ที่สนามเอ็นอาร์จี ในเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งมีผู้ชมเข้าชมมากกว่า 71,000 คน เต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้น เราได้ชมการต่อสู้ทางเกมกลยุทธ์ที่ล้ำลึกของโค้ชทั้งสองฝ่ายทั้ง ไคล์ ชานาแฮน (Kyle Chanahan) แห่งฟอลคอนส์ และ บิลล์ เบลิชิก (Bill Belichick) ยอดโค้ชผู้นำเพเทรียตส์เข้าชิงแชมป์ถึง 7 สมัย
นอกจากนี้เรายังได้เห็นการต่อสู้ของ ‘มือหนึ่ง’ อย่าง แมตต์ ไรอัน (Matt Ryan) แห่งฟอลคอนส์ เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ในฤดูกาลปกติ กับ ทอม เบรดี (Tom Brady) สุดยอดควอเตอร์แบ็กในตำนาน
และเหนืออื่นใด เราได้เห็นการต่อสู้จนกลับมาคว้าชัยชนะได้อย่างน่ามหัศจรรย์ราวกับมีใครสักคนบนฟ้าที่เขียนชะตาเอาไว้ให้เป็นแบบนี้
เป็นเกมที่อยู่เหนือคำบรรยายจริงๆ ครับ แต่มันไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้น่าจดจำ
ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 51 มีอะไรมากกว่านั้นมากมายนัก
มากจนทำให้เราคงจะจดจำวันนี้ได้ตลอดชีวิตที่เหลือ
Magic Moment ของเกมกีฬา
เดิมที ‘ซูเปอร์โบว์ล’ ได้รับการขนานนามว่าเป็นแมตช์กีฬาที่สุดยอดที่สุด ซึ่งมาจากการที่เป็นเกมที่มีผู้ชมทั่วโลกติดตามชมการถ่ายทอดสดมากที่สุด โดยในปีนี้มีการถ่ายทอดสดมากถึง 170 ประเทศ มีผู้ชมมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก มีการใช้กล้องถ่ายทอดสดมากถึง 100 ตัว (70 ตัวสำหรับการถ่ายทอดสดเกม) และมีอะไรที่เป็น ‘ที่สุด’ อีกมากมายครับ
แต่ซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้เป็นเกมที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุดของที่สุด’
ไม่เคยมีซูเปอร์โบว์ลครั้งไหนที่ดีเท่าครั้งนี้ ยิ่งใหญ่เท่านี้ และมหัศจรรย์เท่านี้ครับ
การต่อสู้ของ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ถึง 25 แต้ม (28-3) ในช่วงควอเตอร์ที่ 3 ของการแข่งขัน – โดยที่ในช่วงจบควอเตอร์ที่ 2 พวกเขาทำไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว ตามหลัง 21-0 เป็นการต่อสู้ที่สุดจะพรรณนามาก
แฟนอเมริกันฟุตบอลทั่วโลก หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้ชื่นชอบอเมริกันฟุตบอลอะไรนัก (ผมเองก็เป็นจำพวกนี้) ต่างประทับใจกับการต่อสู้ของเหล่า ‘นักรบกู้ชาติ’ ที่วันนี้พวกเขากู้ชีพตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ
จากที่ทำท่าจะแพ้ขาดลอย โดยเฉพาะหลังจากที่พวกเขาพลาดในการบุกครั้งแรกในควอเตอร์ที่ 4 ที่แม้แต่ช่องกีฬา ESPN ยังวิเคราะห์โอกาสชนะของฟอลคอนส์สูงถึง 99.6% จนแม้แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีความสนิทสนมกับ ‘บ็อบ’ โรเบิร์ต คราฟต์ (Bob Robert Kraft) เจ้าของทีมเพเทรียตส์ และ ทอม เบรดี ยังตัดสินใจออกจากงานปาร์ตี้ซูเปอร์โบว์ลไปกลางคัน
เหล่าผู้เล่นเพเทรียตส์ค่อยๆ ดึงตัวเองกลับมาสู่เกมด้วยสมอง และหัวใจ
ช่วง 17 นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน คือช่วงเวลา magic moment ที่สะกดผู้ชมทั้งโลก ไม่ว่าจะสำหรับคนที่ติดตามชมตั้งแต่แรก หรือคนที่อดไม่ไหวเปิดมาชม เพราะมีกระแสพูดถึงมากมายในโลกโซเชียลมีเดียที่ต่อให้ไม่ได้เป็นแฟนอเมริกันฟุตบอลทีมไหนเลยก็อดเอาใจช่วยเพเทรียตส์ด้วยไม่ได้
ยิ่งทีมเพเทรียตส์ที่เข้าชิงมาแล้ว 7 ครั้ง ตีตื้นขึ้นมาได้มากเท่าไร หัวใจคนดูก็ยิ่งเต้นระรัวไปมากเท่านั้น จนสุดท้ายกลับมาไล่ตามทัน 28-28 ได้ในช่วงควอเตอร์สุดท้าย และท้ายที่สุดฟอลคอนส์ที่พังทลายทั้งร่างกายและจิตใจก็ต้านไม่ไหว
เมื่อ เจมส์ ไวต์ (James White) ทำทัชดาวน์ในเพลย์สุดท้ายของการต่อเวลาครั้งแรกในประวัติศาสตร์ช่วยให้เพเทรียตส์กลับมาชนะ 34-28
นั่นคือวินาทีที่เราทุกคนได้เห็นความมหัศจรรย์ของเกมกีฬาด้วยสองตาของเราเอง
การโบยบินจากฟากฟ้าของ ‘เลดี้ กาก้า’
อย่างไรก็ดี ซูเปอร์โบว์ลไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของการแข่งขันในสนามเท่านั้น
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่เป็นที่กล่าวขานถึงคือ การแสดงในช่วงพักครึ่งเวลา หรือ Half-Time Show ซึ่งมีการยกย่องกันว่าจะเป็นการแสดงที่สุดยอดที่สุดของสหรัฐอเมริกาในปีนั้นๆ และคนที่จะขึ้นแสดงได้ต้องเป็นสุดยอดศิลปินเท่านั้น
ในอดีตเราได้เห็น ไมเคิล แจ็กสัน, U2, ไดอานา รอสส์, เจเน็ต แจ็กสัน (ที่แสดงร่วมกับจัสติน ทิมเบอร์เลก จนเกิดช็อตหลุดประวัติศาสตร์), บียอนเซ่ (และการกลับมารวมตัวกันของ Destiny’s Child), บรูโน มาร์ส และเมื่อปีกลายกับ เคที เพอร์รี
ปีนี้เป็นคราวของ ‘คุณแม่’ อย่าง เลดี้ กาก้า ที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีนี้บ้าง
และการขึ้นเวทีของเธอก็กลายเป็น Talk of the Town ทันทีโดยไม่ตั้งใจ เพราะเธอคือคนที่แสดงตัวอย่างชัดเจนว่าให้การสนับสนุน ฮิลลารี คลินตัน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และเธอ ‘ไม่เอา’ โดนัลด์ ทรัมป์
ผู้คนจับตามองว่าเธอจะกล่าวอะไรที่พาดพิงถึงประธานาธิบดีผู้อื้อฉาวคนนี้หรือไม่?
คำตอบคือ ‘ไม่’ – ในวงเล็บว่าก้ำกึ่งระหว่าง ‘ไม่ใช่’ และ ‘ไม่เชิง’
ที่บอกเช่นนั้นเพราะ เลดี้ กาก้า เปิดตัวบนยอดหลังคาสนามเอ็นอาร์จี (ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าวลือเป๊ะ!) ด้วยเพลง God Bless America และ This Land Is Your Land ซึ่งถูกนำไปตีความว่าเป็นการแสดงจุดยืนเล็กๆ ของเธอที่มีต่อประธานาธิบดีทรัมป์
แต่หลังจากจบเพลงนี้โดยที่มีฉากหลังเป็นดวงดาวประกายระยิบระยับสีแดงและน้ำเงิน ซึ่งไม่ได้เป็นแสงดาวจริงๆ และไม่ใช่คอมพิวเตอร์กราฟิก แต่เป็น ‘โดรน’ กว่า 300 เครื่อง ที่แปลงตัวเป็นดวงดาวระยิบระยับพร่างพราว
ทันใดนั้นกาก้าก็กระโดดลงมาสู่สนาม! เป็นการโบยบินลงมาขับขานบทเพลงฮิตของเธอมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Poker Face, Born This Way, Telephone เรื่อยมาจนถึงเพลงใหม่ในอัลบั้มล่าสุดของเธอ Joanne
ช่วงเวลาการแสดง 12 นาที ของเธอทรงพลังสมราคาหนึ่งใน ‘ไอคอน’ ผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกดนตรี และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดของซูเปอร์โบว์ล
เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้เราจดจำซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้ได้ไม่ลืม
โฆษณาซูเปอร์โบว์ลที่เจ๋งที่สุด
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นที่พูดถึงและมีการจับตามองเสมอในซูเปอร์โบว์ลทุกครั้งคือ เรื่องของโฆษณาในช่วงพักครึ่ง
โฆษณาในการแข่งขันซูเปอร์โบว์ลนั้นเป็น ‘วินาทีทอง’ ของจริงครับ เพราะมีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยตามข้อมูลจาก The New York Times โฆษณา 30 วินาทีในปีนี้มีมูลค่าถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นวินาทีละ 166,666 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยวินาทีละ 5.8 ล้านบาท
ด้วยความที่มูลค่ามันสูงขนาดนี้ โฆษณาที่จะปรากฏบนหน้าจอในซูเปอร์โบว์ลได้ก็ต้องถือเป็น ‘ที่สุด’ ด้วยเช่นกัน และมันก็กลายเป็นเรื่องที่แฟนๆ อเมริกันฟุตบอล เรื่อยไปจนถึงนักการตลาด นักโฆษณา ต่างจับตามองว่าในปีนี้พวกเขาจะได้เห็นอะไรบ้างในช่วงพักครึ่ง
โดยเฉพาะตัวอย่างภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์อย่าง The Fate of the Furious, Logan, Pirates of the Carribean, Transformers: The Last Knight ที่ทำให้ผู้ที่รอชม ‘ฟิน’ ไปตามๆ กัน
แต่ที่พิเศษกว่าทุกปีคือด้วยสถานการณ์ความขัดแย้งในสหรัฐฯ จากการต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ปีนี้ทุกคนจับตามองว่าจะมีโฆษณาแฝงการเมืองหรือไม่ในซูเปอร์โบว์ล
โดยที่ Fox (ผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด) และ NFL ต่างพยายามเลี่ยงไม่ให้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเดี๋ยวจะยุ่งเปล่าๆ
ทว่าสุดท้ายแล้วก็มีโฆษณาบางตัวที่แสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับนโยบายและการวางตัวของผู้นำประเทศอย่างทรัมป์
Coca-Cola หยิบเอาโฆษณาชุดเก่าที่เคยออกอากาศในปี 2014 กลับมาฉายใหม่อีกครั้งในชุด America The Beautiful
“วันนี้คนนับล้านต่างร่วมกันเชียร์ด้วยกัน เพราะการอยู่ร่วมกันนั้นงดงาม”
Airbnb บริการห้องพักให้เช่าชื่อดังในยุคนี้มากับโฆณษาชุด We Accept ที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าพวกเขาพร้อมต้อนรับ ‘ทุกคน’ ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน รวมถึงชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศ ที่ทรัมป์สั่งห้ามเข้าสหรัฐอเมริกา และเหล่าผู้อพยพทุกคน
“เราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ไม่ว่าคุณมาจากไหน ไม่ว่าคุณจะรักใคร ไม่ว่าคุณจะบูชาใคร เราทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน” นี่คือข้อความบนโฆษณาของ Airbnb ก่อนจะปิดท้ายว่า “โลกจะยิ่งสวยงามมากขึ้น หากเรายอมรับซึ่งกันและกัน”
การแสดงจุดยืนนี้ทรงพลังครับ และได้รับการแซ่ซ้องจากคนทั้งโลก
นอกจากนี้ยังเป็นการย้ำว่า ‘ซูเปอร์โบว์ล’ นั้นเป็นมากกว่าแค่เกมกีฬาธรรมดาๆ ซูเปอร์โบว์ลสามารถทำหน้าที่เป็น ‘กระบอกเสียง’ ของคนสหรัฐอเมริกา (และคนทั้งโลก) ก็ยังได้
และทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้น่าจดจำครับ
เหมือนที่ ทอม เบรดี กล่าวหลังคว้าแหวนซูเปอร์โบว์ลวงที่ 5 ของตัวเอง
“We’re all going to remember this for the rest of our lives”
เราทุกคนจะจดจำเกมนัดนี้ไปตลอดชีวิตของเรา
FACT BOX:
- ตามประวัติศาสตร์ซูเปอร์โบว์ลเริ่มต้นครั้งแรกในปี 1967 โดยครั้งนั้น แคนซัสซิตี้ ชีฟส์ ทีมจาก AFL ลีกระดับที่ 2 ขอแข่งกับทีมกรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส แชมป์จาก NFL ซึ่งผลปรากฏว่าแพ็กเกอร์สเอาชนะได้ในการแข่งครั้งแรก
- ทอม เบรดี และ บิลล์ เบลิชิก คือ ‘คู่บุญ’ ของกันและกัน เมื่อร่วมกันพาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลได้ถึง 5 ครั้ง จากการเข้าชิง 7 ครั้ง และเบรดี ซึ่งเป็นควอเตอร์แบ็กคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แหวนแชมป์ 5 วง ยังไม่มีความคิดที่จะเลิกเล่น
- นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ เป็นทีมที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศมากที่สุด 9 ครั้ง แต่ทีมที่ได้แชมป์มากที่สุดคือ พิตส์เบิร์ก สตีลเลอร์ส ที่ได้แชมป์ 6 สมัย
- หนึ่งเรื่องเศร้าในวันที่งดงามคือ อาถรรพ์ผู้เล่นทรงคุณค่า MVP ที่จะไม่ได้แชมป์ซูเปอร์โบว์ลที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1999 ยังคงไม่เสื่อม เมื่อ แมตต์ ไรอัน ที่เล่นมาตลอดทั้งฤดูกาล และเล่นได้ยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งแรกของเกมก็ยังตกเป็นฝ่ายปราชัยแบบยากจะยอมรับ
- โฆษณาซูเปอร์โบว์ลในปี 1967 ระยะเวลา 30 วินาที มีราคา 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ
- แหวนซูเปอร์โบว์ลมีมูลค่าวงละ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ที่แพงเพราะมีทองและเพชรประดับด้วย) โดยจัดทำขึ้น 150 วงสำหรับทีมแชมป์ และยังมีแหวนสำหรับรองแชมป์อีก 150 วงด้วย
- โทรฟีแชมป์ซูเปอร์โบว์ลชื่อ วินซ์ ลอมบาร์ดี ซึ่งตั้งตามตำนานนักอเมริกันฟุตบอลระดับ ‘Hall of Fame’ และยังเป็นโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ที่นำกรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล