ใกล้ถึงวันสุดท้ายของปี พ.ศ. 2559 หรือเอาตามปฏิทินกีฬาที่คนเข้าใจง่ายคือ 2016 แล้วนะครับ
ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่วงการกีฬามีอะไรเกิดขึ้นมากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันรายการระดับนานาชาติอย่าง โอลิมปิก ฤดูร้อน ที่ประเทศบราซิล, ฟุตบอลยูโร ที่ประเทศฝรั่งเศส หรือฟุตบอลฉลองครบ 100 ปี แดนลาตินอย่าง โคปาอเมริกา เซนเตนารีโอ ขณะที่ทางแถบบ้านเราก็มีการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ
ไม่นับการแข่งขันกีฬาอาชีพทั้ง กอล์ฟ, เทนนิส, บาสเก็ตบอล, อเมริกันฟุตบอล, รถแข่ง ที่มี ‘โมเมนต์’ เกิดขึ้นมากมาย
เราลองมาย้อนดูกันสักหน่อยไหมว่า ตลอดปีที่ผ่านมาในโลกกีฬามีเหตุการณ์อะไรที่น่าจดจำบ้าง?
เลสเตอร์ ซิตี้ กับ ‘เทพนิยายจิ้งจอก’
ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลฟุตบอล เป็นช่วงที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกไม่ว่าจะมีทีมรักทีมไหน ต่างก็เอาใจช่วยสโมสรแห่งหนึ่งอย่างเต็มที่ ทีมนั้นคือ ‘จิ้งจอก’ เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ก่อนเริ่มฤดูกาลถูกมองว่าจะเป็นทีมที่ต้องสู้เพื่อหนีการตกชั้น แต่พวกเขากลับสร้างสิ่งที่เหลือเชื่อเกินกว่าจะใช้คำใดมาบรรยายได้หมด เมื่อสามารถต่อสู้จนคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-16 มาครองได้
‘เทพนิยาย’ อาจเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความมหัศจรรย์ของเลสเตอร์ ซึ่งเป็นตำนานที่ไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะมีทีมที่ทำได้เช่นพวกเขาอีก หรือมันอาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้
‘โรนัลโด’ และแชมป์ฟุตบอลยูโรของโปรตุเกส
ฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นรายการที่คนต่างจับตามองว่าเจ้าภาพ ‘เลส์ เบลอส์’ จะสามารถคว้าแชมป์บนแผ่นดินตัวเองได้หรือไม่ หลังทำสำเร็จใน 2 ครั้งหลังสุด กับฟุตบอลยูโร ปี 1984 และฟุตบอลโลก ปี 1998 มาแล้ว
ทีมฝรั่งเศส ถึงจะมีกระท่อนกระแท่นบ้าง แต่โดยรวมเล่นได้ค่อนข้างแข็งแกร่งและดีขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งคู่ต่อกรของพวกเขาคือ โปรตุเกส ทีมที่ไม่ชนะใครในเวลานั้นเลย จนมาชนะเวลส์ ในรอบรองชนะเลิศเป็นเกมแรก ทำให้มีการคาดกันว่าสงสัยสถิติของ เลส์ เบลอส์ น่าจะยืนยาวต่อไป
ในเกมรอบชิงชนะเลิศ ทุกอย่างยิ่งเลวร้ายลงไปอีกสำหรับโปรตุเกส เมื่อ โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีมได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกมจากการเข้าปะทะของ ดิมิทรี ปาเยต จอมทัพฝรั่งเศส ถึงแม้จะพยายามฝืนเล่นแล้วแต่ก็ไม่ไหว สุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 25 และหลั่งน้ำตาต่อโชคชะตาที่โหดร้าย
แต่เกมกลับมาดราม่า เมื่อโปรตุเกสสามารถต้านทานฝรั่งเศสเอาไว้ได้ทุกกระบวนท่า โดยมีโรนัลโดยืนช่วยกระตุ้นเพื่อนข้างสนามจนหมดเวลาปกติ และเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ เอแดร์ กองหน้าตัวสำรองทำประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ชนิดที่แฟนฝรั่งเศสไม่มีใครอยากเชื่อสายตาตัวเอง
แชมป์นี้เป็นแชมป์รายการแรก และเป็นการลบฝันร้ายของโปรตุเกสที่เคยพลาดแชมป์บนแผ่นดินตัวเอง เมื่อโดนกรีซทำแบบเดียวกันในฟุตบอลยูโร 2004 ด้วย
‘เมสซี’ ประกาศอำลาทีมชาติ
อีกหนึ่ง ‘โมเมนต์’ ในเกมลูกหนังที่ช็อกความรู้สึกคนทั้งโลกคือ การประกาศอำลาทีมชาติอาร์เจนตินา ของ ลิโอเนล เมสซี ราชาลูกหนังโลก หลังจากที่ยิงพลาดในการดวลจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลโคปาอเมริกา เซนเตนารีโอ ซึ่งเป็นรายการที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่เมสซีพาทีมเข้าชิงได้ แต่ทำให้ทีมเป็นแชมป์ไม่ได้ ซึ่งก็เจ็บปวดอยู่แล้ว ไม่นับความเจ็บปวดที่สะสมมาหลายปีจากปัญหากับแฟนบอลและสื่อที่ไม่เคยยอมรับในตัวเขา
หลังจบการแข่งขัน เมสซีให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า เขาขอยุติบทบาทกับทีมชาติเอาไว้แค่นี้ จนทำให้คนอาร์เจนตินาอึ้งทั้งแผ่นดิน ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ต้องเกลี้ยกล่อมขอให้เปลี่ยนใจด้วยตัวเอง
สุดท้าย เมสซีก็เปลี่ยนใจกลับมารับใช้ชาติเหมือนเดิม
มือหนึ่งที่ชื่อ ‘แอนดี เมอร์เรย์’
สำหรับคนคนหนึ่งที่ถูกมองว่าเป็นได้แค่ ‘พระรองตลอดกาล’ อย่าง แอนดี เมอร์เรย์ การขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของโลกนั้นเป็นเรื่องที่ยากจนแทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีคู่แข่งที่กำลังอยู่ในฟอร์มแห่งชีวิตอย่าง โนวัค ยอโควิช และจอมเก๋าอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดาล ก็ยังยืนขวางทางอยู่
แต่แล้วเมื่อเขาสามารถพิชิตแชมป์ ‘วิมเบิลดัน’ สมัยที่ 2 ได้ในช่วงต้นเดือน ก.ค. ประกอบกับคู่แข่งทั้งสาม ไม่ว่าจะ ยอโควิช, เฟเดอเรอร์ และนาดาล ประสบปัญหาทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของเขาที่ฟอร์มการเล่นและความมั่นใจเริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังได้ยอดโค้ชคู่บุญอย่าง อิวาน เรนเดิล กลับมาช่วยอีกครั้ง
ในที่สุดสถานการณ์ก็มาถึงจุดที่เมอร์เรย์สามารถแซงหน้ายอโควิชขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกได้สำเร็จ หลังคว้าแชมป์ปารีส มาสเตอร์ส ก่อนจะย้ำสถานะตัวเองในการแข่งขันรายการสุดท้าย เอทีพี เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ด้วยการสยบคู่ปรับที่แข่งกันมาทั้งชีวิตอย่างยอโควิชลงได้ในรอบชิงชนะเลิศ
เรื่องราวความพยายามแบบไม่มีถอยของเมอร์เรย์ เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับทุกคน
ตำนานอมตะของ ‘ไมเคิล เฟลป์ส’ และ ‘ยูเซน โบลต์’
ถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่กรุงรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล จะไม่ได้เป็นการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบมากนัก เพราะเต็มไปด้วยปัญหาการจัดการแข่งขัน และมาตรฐานการตัดสินที่มีเครื่องหมายคำถามในหลายเรื่อง ไม่นับกรณีอื้อฉาวของคดีการใช้ ‘ยาโด๊ป’ ที่เป็นมลทินของวงการกีฬาตลอดรอบปีนี้ แต่ใน ‘รีโอ 2016’ โลกได้จารึก 2 ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาทั้งคู่เกิดมาเพื่อ ‘เป็นหนึ่งไม่มีสอง’ โดยคนแรกคือ ‘มนุษย์สายฟ้า’ ยูเซน โบลต์ สุดยอดนักวิ่งชาวจาเมกา ที่สร้างตำนาน ‘Triple-Triple’ หรือการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกสมัยละ 3 เหรียญ 3 สมัยติดต่อกัน และเป็นรายการสำคัญคือ วิ่ง 100 เมตรชาย, 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4×100 เมตร
อีกคนคือฉลามยักษ์ ไมเคิล เฟลป์ส ที่ทำลายสถิติตลอดกาลที่ยืนยงมากว่า 2,000 ปี (ใช่ครับอ่านไม่ผิด!) ของลีโอนิดาส แห่งโรดส์ (Leonidas of Rhodes) ในช่วง 152 ปีก่อนคริสตกาล โดยโอลิมปิกครั้งนี้เฟลป์สคว้ามาได้อีก 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ทำให้ผลงานรวมของเขาคว้าเหรียญทองไป 23 เหรียญจากการแข่งขันโอลิมปิก 4 สมัย (16 ปี!) เป็นนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองมากที่สุดตลอดกาล
ตำนานนี้จะลุกโชนไม่มีวันดับดังเพลิงนิรันดร์ของโอลิมปิก
จิตวิญญาณของเกมกีฬาอันงดงามใน ‘โอลิมปิก’
นอกจากการแข่งขันที่เข้มข้นแล้ว ในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมายังมีเรื่องราวที่น่าประทับใจเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวของ 2 นักวิ่งสาว แอบบี ดากอสติโน ชาวสหรัฐอเมริกา และ นิคกี แฮมบลิน ชาวนิวซีแลนด์ ที่ลงแข่งขันวิ่ง 5,000 เมตรหญิง ซึ่งในการแข่ง 4 รอบสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อแฮมบลินเสียหลักล้มทำให้ดากอสติโนที่วิ่งตามหลังมาล้มตามไปด้วย แต่ดากอสติโนได้ลุกขึ้นพยุงแฮมบลินจนกลับมาวิ่งต่อได้
แต่หลังจากนั้นไม่นานคราวนี้เป็นดากอสติโนที่ล้มลงอีกครั้ง ซึ่งเป็นอาการบาดเจ็บจากครั้งก่อน คราวนี้แฮมบลินที่วิ่งนำอยู่ได้หันกลับมาช่วยและพยุงเพื่อนนักวิ่งสาวและวิ่งประคองกันไปจนถึงเส้นชัย ซึ่งในเวลาต่อมาดากอสติโนเผยว่า ตอนนั้นแฮมบลินได้พยายามให้กำลังใจเธอและบอกว่าจะวิ่งไปด้วยกันจนเข้าเส้นชัย
ภาพของน้ำใจนักกีฬาที่งดงาม ทำให้ทั้งสองได้รับรางวัล ‘แฟร์เพลย์’ ของการแข่งขัน และทำให้คนทั้งโลกมีความสุขกับภาพที่เห็น
นอกเหนือจากเรื่องของทั้งสอง ก็ยังมีภาพของสองนักกีฬาไตรกรีฬาพี่น้องทีมสหราชอาณาจักร โดย โจนาธาน บราวน์ลี กำลังจะวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 แต่เกิดหมดแรงและจะหมดสติ ก่อนที่ อลิสแตร์ บราวน์ลี พี่ชายที่วิ่งตามมาจะเห็นเหตุการณ์ ได้วิ่งเข้าไปกอดน้องไว้และพยุงจนถึงเส้นชัย และผลักให้น้องชายเข้าเส้นชัยก่อน
ปิดตำนาน ‘โคบี ไบรอันต์’
เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา วงการบาสเก็ตบอลสหรัฐฯ ต้องบอกลาสุดยอดการ์ดที่ถือว่ามีฝีไม้ลายมือใกล้เคียง ไมเคิล “แอร์” จอร์แดน มากที่สุดอย่าง โคบี ไบรอันต์ ที่ตัดสินใจยุติเส้นทางนักยัดห่วง 20 ปีของเขา หลังร่างกายส่งสัญญาณว่าถึงเวลาที่เขาควรต้องไป
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โคบีเป็นหนึ่งในสุดยอดนักบาสเก็ตบอลของ ‘เอ็นบีเอ’ และของโลก ได้แหวนแชมป์เอ็นบีเอมาแล้ว 5 สมัย ติดทีมออลสตาร์ 18 สมัย เคยทำแต้มถึง 81 แต้มในเกมเดียว (นัดพบ โตรอนโต แรปเตอร์ส เมื่อปี 2006 เป็นสถิติตลอดกาลอันดับ 3) ถึงจะไม่ใช่ทุกคนที่จะรักนักกีฬาจอมโว ขี้โอ่ และเต็มไปด้วยอัตตาคนนี้ แต่เมื่อถึงวันที่เขาจะไป ไม่ว่าใครต่างก็อาลัยทั้งสิ้น
ในวัน ‘Mamba Day’ (ฉายาของเขา) ทุกคนต่างต้องการมาที่ สเตเปิลเซนเตอร์ เพื่อบอกรักและบอกลากัน โดยมีราคาค่าตั๋วเข้าชมเกมพุ่งสูงถึง 350,000 บาท ซึ่งโคบีก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เมื่อเขางัดฟอร์มสุดยอด ทำไปคนเดียว 60 คะแนน ช่วยให้ แอลเอ เลเกอร์ส แซงชนะ ยูท่าห์ แจ๊ซ สุดมัน 101-96 และปิดฉากเส้นทางของสุดยอดนักบาสคนหนึ่งของโลกอย่างมีสไตล์
แชมป์โลกและการบอกลาของ ‘รอสเบิร์ก’
เรื่อง ‘ดราม่า’ กับการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง หรือ ‘ฟอร์มูล่า วัน’ ไม่ใช่ของแปลก แต่สำหรับปีนี้การขับเคี่ยวกันระหว่าง 2 นักขับจากทีมเมอร์เซเดส อย่าง ลูอิส แฮมิลตัน เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัยหลังสุด กับ นิโค รอสเบิร์ก นักขับชาวเยอรมัน กลายเป็น ‘หนังชีวิต’ ที่เข้มข้นยิ่งกว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องไหน
โดยตลอดทั้งปี 2016 ในการแข่งขัน 21 สนาม ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันอย่างถึงพริกถึงขิง หรืออาจจะพูดได้ว่าถึงเลือดถึงเนื้อเลยทีเดียว ไม่มีใครยอมใครแม้แต่น้อย มีการงัดทุกกลเม็ดมาใช้ ไม่ว่าจะขาวสะอาดหรือสกปรก ถ้ามันจะทำให้ได้เปรียบ ก็พร้อมจะทำทุกอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อที่ ‘เพื่อนรัก’ ที่เคยสนิทกันมากเป็นระยะเวลากว่า 12 ปี และเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาตลอดจะเป็นกันได้ถึงขนาดนี้ (ซึ่งความจริงทั้งสองมีปัญหาต่อกันมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่แค่เพิ่งมีในปีนี้)
สุดท้ายแล้ว รอสเบิร์กสามารถคว้าแชมป์โลกไปครองได้ในปีนี้ ซึ่งหลังการคว้าแชมป์เขาได้ประกาศอำลาวงการทันที ด้วยเหตุผลว่าเขาพอแล้วกับการแข่งขัน ซึ่งมันหนักหนาสาหัสเกินกว่าจะรับไหวได้อีกแล้ว โดยเฉพาะช่วงหลายเดือนหลังกับแฮมิลตันที่รวดร้าวมาก และได้ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างกับการแข่งขันในปีนี้แล้ว
‘เมย์ & เม’ สองสาวไทยผู้พิชิตโลก
รอบปีที่ผ่านมาในวงการกีฬาไทย มีเรื่องทำให้หัวใจพองโตเยอะ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จของทัพนักกีฬาในโอลิมปิกที่ครั้งนี้ได้เหรียญติดมือกลับมาถึง 6 เหรียญ หรือแม้แต่เรื่องนักเตะตัวท็อปของเราอย่าง เมสซีเจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ และพ่อมดฟุตซอล ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่ได้โอกาสไปค้าแข้งต่างประเทศที่ญี่ปุ่น และอิหร่าน ตามลำดับ
แต่คนที่ไปถึงเวทีระดับโลกจริงๆ คือ 2 นักกีฬาสาว น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันขวัญใจมหาชน และขวัญใจอีกคนที่มาแรงแซงทุกคนในช่วงท้ายปีคือ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ที่กลายเป็น Rising Star ของการแข่งขันกอล์ฟหญิง LPGA Tour ในปีนี้
น้องเมย์-รัชนก สร้างความสุขให้คนไทยก่อนในช่วงต้นปีเมื่อสามารถคว้าแชมป์ติดต่อกันได้ 3 รายการ โดยเฉพาะรายการที่สิงคโปร์ เมื่อเดือน เม.ย. ที่สามารถ เอาชนะ ซุน หยู นักตบลูกขนไก่ชาวจีน คว้าแชมป์ได้ และทำให้ขึ้นไปเป็นมือหนึ่งของโลกได้สำเร็จ เป็นนักแบดมินตันสาวไทยคนแรกที่สามารถทำได้ เป็นความสำเร็จอีกขั้นของเธอ หลังจากที่เคยได้แชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยติด และได้แชมป์โลกหญิงเดี่ยวที่อายุน้อยที่สุดเมื่อปี 2013
แม้ในช่วงปลายปี ผลงานของรัชนกจะดร็อปลง พร้อมกับปัญหาอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวนไม่เลิก จนทำให้ตกมาอยู่ที่มืออันดับ 3 เมื่อจบปี แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย น้องเมย์ยังมีโอกาสจะกลับไปไต่อันดับได้อีกไม่ยาก
เช่นกันกับ โปรเม-เอรียา ที่ทำผลงานสุดยอดในช่วงครึ่งปีหลัง โดยหลังจากที่ได้แชมป์ LPGA รายการ Yokohama Tire Classic เป็นแชมป์รายการแรกในชีวิตที่ญี่ปุ่น หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมาหยุดโปรสาวชาวไทยได้อีก และที่สุดยอดคือสามารถคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้ด้วยในรายการ Ricoh Women’s British Open และปิดท้ายปีด้วยการเป็นมือ 4 ของโลก และคว้านักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 2016 ของ LPGA ด้วย
ในแวดวงกอล์ฟเขาว่ากันว่าปีหน้าจะเป็นปีทองของเธอ และอาจจะรวมถึงพี่สาวอย่าง โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล ด้วย!
การเดินทางครั้งสุดท้ายของ ‘ชาเปโคเอนเซ่’
ไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของพวกเขา
เมื่อ 22.15 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นในประเทศโคลอมเบีย เครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเที่ยวบิน LMI2933 ของสายการบิน LaMia ตกในหุบเขาใกล้เมืองเมเดลิน ในประเทศโคลอมเบีย โดยเครื่องบินลำดังกล่าวมีนักฟุตบอลของทีมชาเปโคเอนเซ่ สโมสรเล็กๆ ที่สร้างตำนานด้วยการเข้าชิงชนะเลิศรายการโคปา ซูดาเมริกานา ฟุตบอลถ้วยลำดับที่ 2 ของทวีปอเมริกาใต้ กับแอตเลติโก นาซิอองนาล เดินทางมาด้วย
71 คนจากไป เหลือเพียง 6 คนที่รอดชีวิต และกลายเป็นโศกนาฏกรรมกีฬาครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปีนี้ที่ทำให้คนทั้งโลกต้องหลั่งน้ำตา โดยเฉพาะเมื่อทราบเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์ของทีมเล็กๆ ที่สร้างด้วยรักและพยายามทำตามความฝันแต่กลับต้องพบจุดจบแบบนี้
วันเวลาผ่านไป คราบน้ำตาอาจจะแห้งลง และเริ่มมีข่าวของผู้รอดชีวิตที่พร้อมจะสานต่อปณิธานของเพื่อน พี่ และน้องในทีมที่จากไป เริ่มสัมผัสได้ถึงความหวังอีกครั้ง แต่เรื่องราวแสนเศร้าของชาเปโคเอนเซ่ จะถูกจดจำไว้ในใจของคนบนโลกไปตลอดกาล
DID YOU KNOW?
- ปีนี้ยังเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการฟุตบอล คือมีการเลือกตั้งประธานฟีฟ่า และประธานยูฟ่า สององค์กรเสาหลักขึ้นใหม่ โดยฟีฟ่าได้ จานนี อินฟานติโน เป็นประมุขลูกหนัง ส่วนยูฟ่าพลิกล็อกได้ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ชาวสโลวีเนียนขึ้นเป็นผู้นำแทน มิเชล พลาตินี ที่ลาออกจากตำแหน่งเพื่อสู้คดีทุจริต
- ในไทยก็มีการเปลี่ยนแปลงในสมาคมกีฬาหลายแห่ง โดยเฉพาะสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฯ คนใหม่ นำมาสู่การปฏิรูปวงการฟุตบอลไทยในทุกระดับ
- ปีนี้ยังมีปรากฏการณ์ใหม่ในวงการลูกหนังไทยคือ การย้ายข้ามฟากของนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ เมื่อ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ย้ายไปร่วมทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรคู่ปรับด้วยเงินค่าตัวกว่า 30 ล้านบาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก เพราะไม่น่าเป็นไปได้ แต่สุดท้ายก็เป็นวิถีมืออาชีพที่แฟนบอลไทยจะต้องทำใจยอมรับ
- คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ที่นำมาโดย เลอบรอน เจมส์ ล้างอาถรรพ์ของเมืองได้สำเร็จ เมื่อทีมสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาพิชิต โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส แชมป์เก่าได้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเอ็นบีเอ แบบสุดระทึก 4-3 ทั้งที่ตามหลัง 3-1
- ในวงการอเมริกันฟุตบอลก็มีตำนานที่อำลาวงการเช่นกันคือ เพย์ตัน แมนนิง สุดยอดควอเตอร์แบ็กในประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล ที่เลิกเล่นทันทีหลังนำ เดนเวอร์ บรองโกส์ พิชิต แคโรไลนา แพนเธอร์ส ลงได้ในศึกซูเปอร์โบว์ล เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พิชิตซูเปอร์โบว์ลได้ 2 สมัยกับ 2 ทีม
- คอเนอร์ แม็คเกรเกรอ กลายเป็น ‘นักสู้’ หมายเลขหนึ่งของโลกในเวลานี้ หลังน็อก เอ็ดดี อัลวาเรซ คว้าเข็มขัดแชมป์โลก 2 รุ่นของ UFC มาครองได้เป็นคนแรก โดยปีนี้ถือเป็นปีทองของแม็คเกรเกอร์ นักสู้อัลทิเมตไฟติ้งชาวไอริช
- ภาพกีฬาน่ารักอีกภาพในความทรงจำของแฟนกีฬาของปีนี้คือ ภาพที่นักเตะเยาวชนทีมบาร์เซโลนา รุ่นอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าไปปลอบใจคู่แข่งอย่าง โอมิยะ อาร์ดิยา จากญี่ปุ่น