หักปากกาเซียน! เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยคะแนน 306 ต่อ 232 เสียง (อ้างอิง: cnn.com วันที่ 9 พ.ย. 59) ทั้งที่ก่อนหน้านี้สำนักข่าว CNN ประเมินว่า ฮิลลารีมีแนวโน้มว่าจะเป็น ‘ผู้ชนะ’ ด้วยคะแนนที่คาดว่ามีอยู่ในมือถึง 268 เสียง (แค่ได้อีกเพียง 2 เสียง ก็จะครบ 270 เสียงจาก 538 เสียง และได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ) ขณะที่ทรัมป์มีเพียง 204 เสียงเท่านั้น

แต่เมื่อการเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้น ดูเหมือนทุกอย่างจะกลับตาลปัตร คะแนนเสียงของฮิลลารีกลับได้น้อยกว่าที่มีการประเมิน ส่วนคะแนนเสียงสนับสนุนทรัมป์กลับพุ่งสูงแซงฮิลลารีเกือบทุกโค้งตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการนับคะแนน

ขณะที่รัฐสนามรบ (Battleground States หรือ Swing States) เช่น นอร์ทแคโรไลนา แอริโซนา และโดยเฉพาะรัฐฟลอริดาที่เป็น ‘รัฐชิงดำ’ ซึ่งเป็นรัฐที่มีฐานคะแนนเสียงสูงอันดับต้นๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินชัยชนะในครั้งนี้ ทรัมป์กลับคว้าชัยได้เกือบทุกรัฐ

คำถามคือเกิดอะไรขึ้นกับผลโพลที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้าวันเลือกตั้ง ฮิลลารีพลาดในสนามไหน และชัยชนะในรัฐใดบ้างที่พาทรัมป์ลอยลำสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา

The Momentum สรุปภาพรวมผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในเชิงสถิติมาให้ดูกัน โดยเทียบกับผลประเมินล่าสุดก่อนหน้าและหลังวันเลือกตั้ง

ตัวเต็งก่อนหน้าวันเลือกตั้ง: ฮิลลารี 268 – ทรัมป์ 204

มีการประเมินจากสำนักข่าว CNN ว่า สนามเลือกตั้ง 51 สนามใน 50 รัฐ และวอชิงตัน ดี.ซี. ฮิลลารีมีแนวโน้มว่าจะนำโด่งและเป็นผู้คว้าชัยในรัฐที่เป็นฐานเสียงสำคัญหรือ Solid Democrat และรัฐที่มีโอกาสจะชนะทั้งหมด 268 เสียง ขณะที่ทรัมป์มีเพียง 204 เสียงเท่านั้น นั่นหมายความว่า ทั้งคู่ต้องไปวัดกันที่รัฐสนามรบ ซึ่งฮิลลารีดูมีภาษีดีกว่า เพราะขาดอีกเพียง 2 เสียง เธอก็จะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ขณะที่ทรัมป์ หนทางเดียวคือต้องชนะรัฐสนามรบให้ได้เกือบทุกรัฐ บอกตรงๆ ว่า หืดขึ้นคอ!

Photo: cnn.com

เกิดอะไรขึ้นในวันเลือกตั้ง: ฮิลลารี 232 – ทรัมป์ 306

ดูเหมือนผลประเมินก่อนหน้าจะผิดพลาดไปมาก หรือไม่ทรัมป์และประชาชนที่สนับสนุนเขาจะทำได้ดีกว่าที่คาด เพราะคะแนนของทรัมป์นำฮิลลารีขาดลอย จากการคว้าชัยในรัฐที่เป็นฐานเสียง และชนะบางรัฐที่เชื่อว่าเป็นของฮิลลารี ได้แก่ มิชิแกน (16) เพนซิลเวเนีย (20) วิสคอนซิน (10) และที่สำคัญที่สุดคือการได้รับชัยชนะในรัฐสนามรบสำคัญๆ ที่ฐานคะแนนสูง ไม่ว่ารัฐชิงดำอย่าง ฟลอริดา (29) แอริโซนา (11) นอร์ทแคโรไลนา (15) หรือแม้กระทั่งรัฐเล็กๆ อย่างเนแบรสกา-ซีดี (1)

ขณะที่ฮิลลารี นอกจากจะพลาดท่าปราชัยใน 3 รัฐที่เป็นฐานเสียงของตัวเองแล้ว ยังเอาชนะทรัมป์ในรัฐสนามรบได้เพียง 2 รัฐ (แถมเป็นรัฐที่ไม่ได้ส่งผลอะไรกับชัยชนะมากนัก) จากทั้งหมด 6 รัฐ คือ เนวาดา (6) และนิวแฮมป์เชียร์ (4) เท่านั้น

Photo: cnn.com

ทรัมป์ชนะเพราะผู้ชาย คนสูงวัย ผิวขาว เรียนน้อย และรวย?

ขณะที่ Exit Polls (คะแนนเสียงที่มีการจัดทำขึ้นในช่วงการเลือกตั้ง โดยนำข้อมูลจากการสุ่มสอบถามผู้ที่เพิ่งออกจากคูหาเลือกตั้ง) ในเว็บไซต์ cnn.com เผยสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้ลงคะแนนเสียงดังนี้

Photo: washingtonpost.com

ผู้ชาย 53% เลือกทรัมป์ ผู้หญิง 54% ตัดสินใจเลือกฮิลลารี

Photo: washingtonpost.com

กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปี จำนวน 55% และ 30-44 ปี จำนวน 50% เลือกฮิลลารี ส่วนคนวัยกลางคนจนถึงคนสูงอายุ ที่มีอายุระหว่าง 45-64 ปี จำนวน 53% และ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 53% เลือกทรัมป์

 

Photo: washingtonpost.com

เชื้อชาติโดยจำแนกตามสีผิวพบว่า คนผิวขาว 58% เลือกทรัมป์ ขณะที่คนที่ไม่ใช่ผิวขาว (non-white) มากถึง 74% เทใจให้ฮิลลารี

Photo: washingtonpost.com

ระดับการศึกษา กลุ่มคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี (College Graduate) 49% และคนที่จบสูงกว่าปริญญาตรี (Postgraduate) 58% เลือกฮิลลารี ขณะที่คนที่เรียบจบระดับไฮสคูลหรือต่ำกว่า (High School or Less) 51% และระดับวิทยาลัยบางแห่ง (Some College) 52% ตัดสินใจเลือกทรัมป์

Photo: cnn.com

ดูเหมือนว่าคนที่รวยกว่าจะเลือกทรัมป์ กลุ่มคน 4 กลุ่มจากทั้งหมด 6 กลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ 50k-250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือมากกว่า ต่างเทใจให้ทรัมป์ ขณะที่กลุ่มคนที่เลือกฮิลลารีเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย คือต่ำกว่า 30,000-49,000 ดอลลาร์สหรัฐ

คนเทใจให้ทรัมป์ช่วงท้ายๆ และความกลัวของกองเชียร์ฮิลลารี

จากข้อมูลใน Exit Polls ดังกล่าว มีข้อมูลบางอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจจะเป็นประเด็นที่ทำให้ฮิลลารีพลาดเก้าอี้ประธานาธิบดี คือคำถามในโพลที่ระบุว่า คุณตัดสินใจเลือกออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อไหร่?

Photo: cnn.com

ดูเหมือนคนที่อยู่ฝั่งฮิลลารีส่วนใหญ่ 52% จะตัดสินใจตั้งแต่ก่อนเดือนกันยายน ส่วนฝั่งทรัมป์ แม้คน 45% จะเลือกเทใจให้เขาตั้งแต่ก่อนกันยายน แต่ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะตัดสินใจในช่วงหลังจากนั้น คือช่วงกันยายน ตุลาคม ก่อนเลือกตั้งหนึ่งสัปดาห์ และไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่ากรณีเอฟบีไอรื้อฟื้นคดีอีเมลของฮิลลารีน่าจะมีผลไม่มากก็น้อย

ส่วนคำถามหนึ่งท่ามกลางคำถามมากมายที่ชวนสะดุดตาก็คือ…

คุณรู้สึกอย่างไรถ้าทรัมป์ชนะ?

Photo: cnn.com

 

97% ของคนที่รู้สึกตื่นเต้น (excited) และ 96% ของคนที่รู้สึกดี (optimistic) คือคนที่เชียร์ทรัมป์

ขณะที่ 54% ของคนที่รู้สึกกังวล (concerned) เป็นคนที่เชียร์ฮิลลารี

และกว่า 92% ของคนที่รู้สึกกลัว (scared) ถ้าสหรัฐฯ จะมีประธานาธิบดีชื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ คือคนที่เชียร์ฮิลลารี

ส่วนจะกลัวแค่ไหน ข่าวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหลังจากคะแนนทรัมป์เริ่มนำขาด และหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) น่าจะพอบอกได้ว่า คนอเมริกันที่เลือกฮิลลารี น่าจะกลัวไม่น้อย…

ดูผล Exit Polls ทั้งหมดได้ที่ http://edition.cnn.com/election/results/exit-polls/national/president