ปัญหาอัตราการเกิดของประชากรลดลงนั้นช่างเป็นปัญหาที่รบกวนใจของทุกประเทศ ปีที่แล้ว (2016) เป็นครั้งแรกที่อัตราคนเสียชีวิตของคนสเปนแซงหน้าอัตราประชากรที่เกิดใหม่ นอกจากนี้สเปนยังเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการเกิดของประชากรต่ำที่สุด และนี่คือปัญหาที่รอไม่ได้ จนรัฐบาลสเปนตัดสินใจให้มีตำแหน่งใหม่คือ ‘กรรมาธิการด้านเพศสัมพันธ์’ (Sex Tsar, Sex Commissioner) เป็นครั้งแรก โดยแต่งตั้งให้ เอเดลไมรา บาร์เรียรา (Edelmira Barreira) สมาชิกวุฒิสภาหญิงดำรงตำแหน่งนี้ เพื่อกระตุ้นให้ประชากรผลิตทายาทให้มากกว่านี้!

สเปนไม่ใช่ประเทศแรกที่ต้องออก ‘นโยบายระดับชาติ’ ให้คนมีลูกมากขึ้น เพราะ 2-3 ปีก่อนหน้านี้ หลายประเทศในยุโรปจนถึงเอเชียต่างต้องพยายามคิดนโยบายสร้างสรรค์ ที่จะสามารถกระตุ้นให้คู่รักฟีเจอริงกันมากขึ้น ตั้งแต่สั่งปิดไฟออฟฟิศทั่วประเทศ ไปจนถึงสั่งให้ทำการบ้านเป็นค่ำคืนแห่งชาติ

และปัญหาไม่ยอมทำการบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ

อัตราการเกิดที่ลดลงนั้นทำให้เกิดความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ
และจะส่งผลกระทบต่อระบบสวัสดิการของรัฐอย่างมาก

Photo: pixabay.com

ผู้หญิงสเปนมีลูกน้อยกว่าเกณฑ์ที่สหภาพยุโรปกำหนด

โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงสเปนอายุระหว่าง 18-49 ปี มีลูก 1.3 คน ซึ่งนับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสหประชาชาติที่ตั้งไว้ที่ 1.58 คน ขณะที่ผู้หญิงอเมริกันมีลูกโดยเฉลี่ยแล้ว 1.82 คน

ปัญหาอัตราการเกิดของประชากรที่ลดลงเป็นปัญหาของทุกประเทศในยุโรป แต่ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่ผู้คนมีชีวิตชีวาและชอบชีวิตที่มีสีสันอย่างสเปนนั้น จะเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดของประชากรต่ำที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว จนทำให้สเปนตัดสินใจแต่งตั้งตำแหน่งกรรมาธิการด้านเพศสัมพันธ์ โดยปัจจุบันเอเดลไมรา บาร์เรียรา เป็นสมาชิกวุฒิสภาของสเปน และจบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของสเปนแสดงความกังวลว่า “อัตราการเกิดที่ลดลงนั้นทำให้เกิดความไม่สมดุลทางเศรษฐกิจ และจะส่งผลกระทบต่อระบบสวัสดิการของรัฐอย่างมาก”

ขณะนี้สเปนมอบหมายให้นักประชากรศาสตร์ในประเทศคิดค้นกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลทางประชากร และเสนอต่อนายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราฮอย (Mariano Rajoy) ของสเปน ซึ่งนโยบายในการกระตุ้นให้คนผลิตทายาทนั้นจะไม่ได้วาบหวามตามชื่อตำแหน่งใหม่ แต่จะเป็นการกระตุ้นเชิงเทคนิคมากกว่า

พวกเธอเหนื่อยจนไม่ได้ช่วยสร้างครอบครัว และยิ่งถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา ก็อาจจะแย่ยิ่งกว่าเดิม

Photo: flickr.com

ผู้หญิงยุคใหม่เหนื่อยที่จะทำการบ้าน

สมัยนี้บทบาทของผู้หญิงไม่ได้แตกต่างจากผู้ชาย คือพวกเธอต้องทำงานหาเงินนอกบ้านเช่นกัน ทำให้พวกเธอเลื่อนเวลาที่จะมีลูกไปเรื่อยๆ อีกทั้งค่าเลี้ยงดูลูกที่แพงหูฉี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้พวกเธอตัดสินใจไม่มีลูก ซึ่งสาเหตุข้างต้นนั้นถือว่าเป็นสาเหตุที่ทุกประเทศเผชิญเหมือนกันหมด แต่ ราฟาเอล ปูยอล (Rafael Puyol) ศาสตราจารย์ประจำ IE Business School ในกรุงแมดริดระบุว่า  สาเหตุหลักที่อัตราการเกิดของสเปนลดลงนั้นคือ ผู้หญิงเหนื่อยล้าเกินกว่าที่จะทำการบ้าน! “พวกเธอเหนื่อยจนไม่ได้ช่วยสร้างครอบครัว และยิ่งถ้าเกิดมีลูกขึ้นมา ก็อาจจะแย่ยิ่งกว่าเดิม” โดยปูยอลเสนอว่า รัฐบาลสเปนควรจะจ้างประชาชนให้หยุดงาน 1 ชั่วโมง เพื่อกลับไปฟีเจอริงที่บ้าน! เช่นเดียวกับที่ก่อนหน้านี้สมาชิกสภาของสวีเดนเคยเสนอนโยบายนี้ต่อรัฐบาล

นโยบายกระตุ้นให้คนร่วมรักของประเทศต่างๆ

สงสัยคนสมัยนี้พอหมดวัยเรียนแล้วก็ไม่อยากทำการบ้านกันแล้วหรืออย่างไร? หลายประเทศทั่วโลกต้องออกนโยบายกระตุ้นให้คู่แต่งงานมีอะไรกันมากขึ้นเพื่อประเทศชาติ อย่างเช่นเดนมาร์กที่ถึงกับออกนโยบายรณรงค์ในปี 2014 ว่า “จงทำเพื่อเดนมาร์ก” (Do It for Denmark) โดยกระตุ้นให้คู่แต่งงานออกไปมีช่วงเวลาโรแมนติกด้วยกันในช่วงวันหยุด และถึงขั้นทำเป็นโฆษณาเผยแพร่ไปถึงทีวีของทุกบ้าน

ขณะที่เกาหลีใต้ในปี 2010 ก็ออกนโยบายที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือ ‘ปิดไฟออฟฟิศทันทีหลังทุ่มครึ่ง’ (Shut Off at 7:30 PM) โดยบังคับให้ทุกออฟฟิศปิดไฟและเลิกทำงานหลังหนึ่งทุ่มครึ่งเดือนละครั้ง เพื่อกระตุ้นให้คนออกจากที่ทำงานเร็วขึ้น และกลับไปบ้านหาสามีหรือภรรยาของตนเอง โดยปล่อยให้พวกเขาไปหากิจกรรมอะไรทำกันเองในความมืด

หรือประเทศแห่งคนบ้างานอย่างสิงคโปร์ก็จำเป็นต้องออกนโยบาย ‘ค่ำคืนแห่งชาติ’ (National Night) เพื่อให้คู่แต่งงานอยู่บ้าน และ “Make a baby, baby” กันถ้วนหน้า

อ้างอิง:

Tags: , ,