เมื่อคืนวานนี้ (2 พ.ย. 59) เวลาประมาณ 21:30 น. ได้เกิดเหตุความไม่สงบขึ้นหลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา จนเป็นเหตุให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจำนวนไม่น้อย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ระบุว่าเหตุการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดขึ้นทั้งหมด 19 เหตุการณ์ ทั้ง ‘บึ้ม-ยิง-เผา’ จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 1 นาย พนักงาน รปภ.จำนวน 2 ราย  และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 5 ราย ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 นาย ประชาชนจำนวน 3 ราย

โดยระบุเพิ่มเติมว่า รายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ได้แก่ พลฯ นพพร แก้วเพชร เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ปัตตานี 23 ร้อย ร.1514, นายสัญญา สมานการดี และนายดลมาเลก หลีเต๊ะ พนักงานรักษาความปลอดภัย ศูนย์บริการอีซูซุ อ.จะนะ ม.5 บ.ทุ่งใหญ่

ล่าสุด คมชัดลึก รายงานว่า เมื่อเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) เวลา 07.00 น. ได้เกิดเหตุระเบิดซ้ำสองอีก 1 ลูก ที่บริเวณประตูทางเข้าศูนย์บริการอีซูซุหาดใหญ่ สาขาจะนะ ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่ โดยระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สแบบหน่วงเวลา คาดว่าคนร้ายนำไปวางไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้หลังจากที่เข้าไปยิงพนักงานรักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 2 คน และเผาศูนย์บริการและรถยนต์เสียหายบางส่วน เพื่อหมายสังหารเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

19 เหตุการณ์ความรุนแรงในคืนผวา ปัตตานีเดือดสุด!

ล่าสุดจากรายงานของ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันนี้ (3 พ.ย.) เมื่อเวลา 10:56 น. ได้สรุปรวม 19 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดปัตตานีมากที่สุด โดยมีรายละเอียด ดังนี้

จังหวัดปัตตานี รวม 4 อำเภอ จำนวน 12 เหตุการณ์

อ.ยะหริ่ง จำนวน 3 เหตุการณ์

1. คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการ จนท.ทหารพราน ร้อย ร.4205 ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดพื้นที่ ม.5 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง

2. เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าพื้นที่ ม.5 ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง ทำให้ไฟฟ้าดับ

3. เผายางรถยนต์บนถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ม.1 ต.บาโลย อ.ยะหริ่ง

อ.สายบุรี จำนวน 3 เหตุการณ์

1. คนร้ายใช้ปืนยิงป้อม จนท.ตำรวจ ในพื้นที่ ม.1 ต.กะลาพอ อ.สายบุรี ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

2. เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 4 ต้น เหตุเกิดในพื้นที่ ม.6 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี

3. เผายางรถยนต์บนถนนพื้นที่ ม.2 ต.ละหาร อ.สายบุรี

อ.เมืองปัตตานี จำนวน 3 เหตุการณ์

1. ยิงหม้อแปลงไฟฟ้าได้รับความเสียหายในพื้นที่ ม.3 ต.บานา อ.เมือง

2. ยิงหม้อแปลงไฟฟ้าในพื้นที่ ม.2 ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี ได้รับความเสียหาย

3. คนร้ายใช้ปืนยิงใส่ฐานปฏิบัติการ จนท.ทหาร ฉก.ปัตตานี 23 ร้อย ร.1514 เป็นเหตุให้ พลฯ นพพร แก้วเพชร เสียชีวิต

อ.หนองจิก จำนวน 3 เหตุการณ์

1. ยิงหม้อแปลงไฟฟ้าในพื้นที่ ม.6 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก ได้รับความเสียหาย

2. เกิดเหตุระเบิดบริเวณร้านสะดวกซื้อ (7-11) ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.พื้นที่ ม.7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เป็นเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้รับความเสียหาย

3. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ฝั่งขาเข้าจังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้ จนท. ตร. สภ.หนองจิก ได้รับบาดเจ็บ แน่นหน้าอก หูอื้อ จำนวน 2 นาย

จังหวัดสงขลา รวม 2 อำเภอ จำนวน 6 เหตุการณ์

อ.เทพา จำนวน 3 เหตุการณ์

1. เกิดเหตุระเบิดบริเวณตู้ ATM ตรงข้ามสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สี่แยกพระพุทธ ม.2 ต.เทพา อ.เทพา ฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย

2. เกิดเหตุระเบิดพื้นที่สามแยก บ.ตูหยง ม.2 ต.ปากบาง อ.เทพา

3. เกิดเหตุระเบิดพื้นที่หน้าที่ทำการ อบต.ปากบาง ม.1ต.ปากบาง อ.เทพา

อ.จะนะ จำนวน 3เหตุการณ์

1. คนร้ายใช้ปืนยิงพนักงานรักษาความปลอดภัยศูนย์อีซูซุ อ.จะนะ ม.5 บ.ทุ่งใหญ่ อ.จะนะ เสียชีวิต จำนวน 2 ราย จากนั้นได้จุดไฟวางเพลิงอาคารสำนักงานจำหน่ายรถยนต์อีซูซุ

2. ระเบิดเสาไฟฟ้าริมถนนเพชรเกษม (ฝั่งขาขึ้นไป อ.หาดใหญ่) พื้นที่ ม.5 ต.บ้านนา อ.จะนะ ทำให้เสาไฟฟ้าล้มขวางถนน จำนวน 2 ต้น

3. จ.นราธิวาส เกิดเหตุระเบิดบริเวณทางเข้าที่ทำการ อบต.กาเยาะมาตี พื้นที่ ม.3 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

จังหวัดนราธิวาส จำนวน 1 เหตุการณ์

อ.บาเจาะ

เกิดเหตุระเบิดบริเวณทางเข้าที่ทำการ อบต.กาเยาะมาตี พื้นที่ ม.3 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ด้าน ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ระบุเพิ่มเติมว่า จ.นราธิวาส มีเหตุเผายางรถยนต์บริเวณสะพานกอตอ ก่อนถึงปะลุกาสาเมาะ บนเส้นทางขาเข้าตัวเมืองนราธิวาส ส่งผลให้รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้

คาดคนร้ายที่สังหาร พลทหารฯ ขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้า เวฟ

ท่ามกลางความวุ่นวาย และยากจะระบุตัวคนร้าย ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ยิงป้อมปฏิบัติการ ปล.ที่ 2 ร.1514 ปัตตานี 23 จนเป็นเหตุให้ พลฯ นพพล แก้วเพชร เสียชีวิตนั้น คนร้ายมีจำนวน 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง และขาว อย่างละ 1 คัน แต่ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และขนาดของอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

เชื่ออาจเป็นการสร้างสถานการณ์ ขัดขวางการเจรจาเพื่อสันติภาพ

เว็บไซต์ข่าวสด ระบุว่า พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน. หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค 4 (กองทัพภาคที่ 4 รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด) เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์

สอดคล้องกับรายงานของ ผู้จัดการออนไลน์ ที่ระบุว่า หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้สั่งการให้ตำรวจทั้ง 15 โรงพัก ใน 12 อำเภอ วางกำลังคุมเข้ม พร้อมสนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าควบคุมพื้นที่เป้าหมายอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันเหตุต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าคนร้ายพยายามตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อสร้างสถานการณ์

ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการขัดขวางและท้าทายการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเกิดขึ้นวันเดียวกับที่ ‘ครม.ส่วนหน้า’ หรือคณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่แบบเต็มคณะ 13 คนเป็นครั้งแรก พร้อมมอบนโยบายและเปิดวงหารือกับผู้นำศาสนาที่ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย กองพลทหารราบที่ 15 อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

รัฐบาลประณามผู้ก่อความไม่สงบ

มติชนออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงเหตุความปั่นป่วนที่เกิดขึ้น ที่กองบัญชาการกองทัพบกวันนี้ (3 พ.ย.) ว่าในขณะที่สังคมยังอยู่ในสภาวะเศร้าโศกเสียใจ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังจงใจใช้ความรุนแรงแบบนี้ ถือเป็นการกระทำไร้มนุษยธรรม ได้กระทำผิดต่อกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง โดยสาเหตุนั้นเป็นความพยายามก่อกวนและมุ่งทำลายสาธารณูปโภค เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ได้รับความเดือดร้อน

“ในขณะนี้ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ จชต. ให้มีความเจริญทางเศรษฐกิจ มีสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และช่วยเหลือสนับสนุน ร่วมกันสอดส่องดูแลมิให้สิ่งที่ไม่ดีงามบังเกิดขึ้น เพื่อร่วมกันสรรสร้างสังคมในพื้นที่ จชต. ให้เกิดสันติสุขโดยเร็ว”

ข่าวกรองยะลาได้รับแจ้ง อาจมีการก่อเหตุเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 10 จุด

หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น หน่วยข่าวกรองในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้แจ้งเตือนเฝ้าระวังพื้นที่ตัวเมืองเข้มงวด หลังพบความเคลื่อนไหวกลุ่มแนวร่วมก่อเหตุรุนแรงเตรียมตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ สั่งกระจายกำลังเต็มที่เฝ้าระวังจุดเสี่ยงทั้งหมด

ไทยรัฐออนไลน์ ระบุว่า หน่วยข่าวกรองในจังหวัดยะลา ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่า พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสั่งการแนวร่วมในพื้นที่ตลาดเก่าใกล้มัสยิด โดยจะก่อเหตุในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 10 จุด ส่วนใหญ่เป็นโรงแรม ร้านอาหารอีสาน ปั๊มน้ำมันในเขตเมืองยะลา ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 พ.ย.นี้

ด้านเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครรักษาดินแดนในพื้นที่ เตรียมพร้อมเต็มกำลังเฝ้าระวังจุดเสี่ยง และได้ประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมพร้อม หากเกิดไฟฟ้าดับทั่วเมืองในค่ำวันนี้เป็นต้นไป

พล.ต.สมพล ปานกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้สั่งการให้ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ จัดกำลังพลออกลาดตระเวนทั้งถนนและเดินเท้าในป่าเขา เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่เกิดขึ้นอย่างเข้มงวด และเพิ่มความถี่การตั้งด่านตรวจในเส้นทางย่อยในเขตเทศบาลนครยะลา และด่านตรวจถาวรที่จะเข้ามายังตัวเมืองยะลา โดยให้มีการตรวจสอบรถยนต์ จักรยานยนต์ และบุคคลแปลกหน้าอย่างละเอียด ไม่มีการยกเว้นแม้แต่รถยนต์ของราชการ…

สำหรับความคืบหน้าและรายละเอียดเชิงลึก The Momentum จะรายงานให้ทราบต่อไป

โปรดติดตาม

Photo: Surapan Boonthamon, Reuters/profile