เมื่อเวลา 9.52 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2559 นายอับดุล ราซัก (Abdul Razak) นักเรียนวัย 18 ปี ได้ขับรถเข้ามาในบริเวณมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอสเตต และไล่แทงผู้คนที่เดินอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุ นายอลัน โฮรุจิโก (Alan Horujiko) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ยิงนายราซัก 3 นัดจนเสียชีวิต ขณะที่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ 11 คน
เจค็อบ บาวเวอร์ (Jacob Bower) นักศึกษามหาวิทยาลัยผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าให้ CNN ฟังว่า “เขาดึงมีดออกมาและเริ่มวิ่งไล่แทงคนบริเวณนั้น” อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครโดนแทงจากเหตุการณ์นี้ “โชคดีว่าคนแถวนั้นเยอะมาก จนเขาไม่สามารถมุ่งเป้าใครได้”
ระหว่างที่นายราซักก่อเหตุ เขาไม่ได้ตะโกนหรือพูดอะไรออกมา “เขาเงียบมาก แม้กระทั่งตอนโดนตำรวจยิงก็ตาม” บาวเวอร์กล่าวกับ CNN “ตำรวจที่ยิงเขาจนเสียชีวิตนั้นช่วยชีวิตคนแถวนั้นไปได้เยอะ”
ยังระบุไม่ได้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้คือการก่อการร้ายหรือไม่
ล่าสุดทางการกำลังสืบสวนหาแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ของ อับดุล ราซัก ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือเกี่ยวข้องกับชุมชนโซมาเลียหรือไม่
คนในชุมชนโซมาเลียได้เล่าถึงราซักว่า เขาเป็นเด็กดี และเพิ่งจะจบการศึกษาจากวิทยาลัย และกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในเทอมหน้า
ทางการได้สืบสวนในเฟซบุ๊กของเขาเพื่อเสาะหาถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักพัก เพราะในเฟซบุ๊กของเขามีแต่ข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ชาวมุสลิมถูกโจมตี
ราซักย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯ เมื่อปี 2014 พร้อมกับครอบครัว และได้รับวีซ่าตลอดชีพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ครอบครัวของเขาเคยอยู่ที่ปากีสถาน ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่โซมาเลีย และเดินทางมาสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
การฝึกซ้อมรับมือกับเหตุร้ายของมหาวิทยาลัย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชมเชยการฝึกซ้อมในการรับมือกับเหตุร้ายและสัญญาณเตือนภัยของมหาวิทยาลัย ที่ทำให้ทุกคนสามารถอยู่ในความสงบได้ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการ
โดยเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยได้ทวิตข้อความทันทีที่เกิดเหตุว่า “ขณะนี้กำลังเกิดเหตุโจมตีที่ Watts Hall 19th” ซึ่งทำให้นักเรียนที่อยู่ภายในอาคารรีบเอาเก้าอี้มากั้นประตู เพื่อไม่ให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาภายในอาคารได้ ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ ได้หลบเข้าภายในอาคาร จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง