เพียงไม่กี่วันหลังเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์จรดปากกาเซ็นคำสั่งฝ่ายบริหารเริ่มขั้นตอนวางแผนสร้าง ‘กำแพง’ เพื่อป้องกันชาวเม็กซิกันอพยพเข้าแผ่นดินอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย ตามที่เคยปราศรัยหาเสียงเอาไว้ จนพานให้นึกถึงประโยคหนึ่งที่ทรัมป์กล่าวในสุนทรพจน์สาบานตน

“เวลาของการเปลืองน้ำลายสิ้นสุดลง บัดนี้และโมงยามแห่งการลงมือทำได้มาถึงแล้ว”

ทรัมป์ครองชัยชนะเลือกตั้งมาได้ ปัจจัยหนึ่งมาจากการปักหลักหนุนให้คนในประเทศมีงาน และมุมมองที่เห็นชาวเม็กซิกันที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย เป็นกลุ่มคนที่แย่งงานไปจากอเมริกันชน

ในปี 2557 มีคนเม็กซิกันที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ที่ 5.8 ล้านคน และครองสัดส่วนสูงถึง 52 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้อพยพผิดกฎหมายทั้งหมดในสหรัฐฯ

จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจ หากทรัมป์จะลงมือสร้าง ‘กำแพง’ ที่ชายแดนเม็กซิโก ตามสัญญาที่เคยให้ไว้เมื่อครั้งหาเสียง

Photo: Mike Blake, Reuters/profile

 

กำแพงในฝันของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

กำแพงที่ โดนัลด์ ทรัมป์ วาดฝัน มีความยาวตั้งแต่รัฐเท็กซัส นิวเม็กซิโก แอริโซนา จบที่แคลิฟอร์เนีย สูง 40 ฟุต ยาว 1,302 ไมล์ งบประมาณโครงการคาดว่าอยู่ที่ 10,000 ล้านเหรียญฯ หรือไมล์ละ 7.4 ล้านเหรียญฯ ขณะที่ฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องประเมินว่าอาจสูงกว่าที่ทรัมป์ตั้งไว้

รายงานที่เผยแพร่ใน MIT Technology Review คำนวณว่า ค่าใช้จ่ายอาจพุ่งแตะ 27,000-40,000 ล้านเหรียญฯ ซ้ำร้ายราคากำแพงที่เอ่ยถึงก็ยังไม่รวมค่าที่ดิน ค่าบำรุงซ่อมแซม ค่าดำเนินการวางแผนและซื้อที่ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปี และกระบวนการสร้างอีก 2 ปี

นอกจากนี้ ในคำสั่งยังระบุให้จ้างตำรวจตระเวนชายแดนเพิ่ม 5,000 ตำแหน่ง และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอีก 10,000 ตำแหน่ง เพื่อช่วยเสริมศักยภาพการตรวจตราควบคุมชายแดนด้วย

เบื้องต้นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องใช้งบที่ผ่านการอนุมัติโดยสภาคองเกรสโปะแผนไปก่อน แต่เงินไม่ใช่ปัญหาที่อเมริกาต้องกังวล ด้วยเหตุที่ผู้นำรายนี้ลั่นวาจาไว้ว่า เม็กซิโกจะต้องเป็นคนจ่ายเงินทุกแดง

ขณะที่ เอนริเก เปนา นีเอโต ประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโก ประกาศจุดยืนว่าจะไม่จ่ายเงินค่าสร้างกำแพงเด็ดขาด จากนั้นทรัมป์ก็ทวิตว่า “หากเม็กซิโกไม่เต็มใจจ่ายค่ากำแพง ก็ยกเลิกนัดพบปะเสียดีกว่า”

ไม่นานต่อมา นีเอโตก็ออกประกาศล้มแผนเยือนอเมริกาในวันที่ 31 มกราคมนี้

Photo: Carlos Jasso, Reuters/profile and Carlo Allegri, Reuters/profile

 

ถ้าเม็กซิโกไม่จ่าย สหรัฐฯ จะเอาเงินมาจากไหน?

ฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการที่จะใช้การเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก 20 เปอร์เซ็นต์

“ซึ่งจะทำเงิน 10,000 ล้านเหรียญฯ ต่อปี และเพียงกลไกนี้อย่างเดียวก็สามารถจ่ายค่าสร้างกำแพงได้สบายๆ”

ข้อมูลเมื่อปี 2558 ชี้ว่าอเมริกานำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก 303,000 ล้านเหรียญฯ ต่อปี หากเก็บภาษีจริง จะทำให้อเมริกามีเงินเพิ่มราวๆ 60,000 ล้านเหรียญฯ

อย่างไรก็ตาม แผนเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกอาจละเมิดต่อกฎการตกลงทางการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ที่ลดภาษีศุลกากรสินค้าต่างๆ ให้เป็นศูนย์เกือบหมด เพื่อกระตุ้นการค้าขายระหว่างอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก

NAFTA ข้อตกลงการค้าสุดห่วยในสายตาทรัมป์

ปัจจุบันการค้าระหว่างอเมริกาและเม็กซิโกสร้างมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเหรียญฯ ต่อวัน สร้างงานให้ชาวอเมริกัน 6 ล้านตำแหน่ง และงานมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์จากงานทั้งหมดในอเมริกามีความเชื่อมโยงต่อการค้าบริเวณชายแดน แต่ทรัมป์มองว่าทั้งหมดนี้เป็น ‘ข้อตกลงการค้าที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์’ เนื่องจากทำให้อเมริกาสูญเสียงานภาคการผลิต และทรัมป์ได้พยายามที่จะเสนอเจรจาเปลี่ยนแปลงข้อตกลงกับฝ่ายต่างๆ

แม้อเมริกาอาจสูญเสียงานการผลิตภายใต้กฎเกณฑ์ตามข้อตกลงที่ทำให้หลายบริษัทลงทุนตั้งโรงผลิตในประเทศที่ค่าจ้างถูกกว่าอย่างเม็กซิโก แต่สินค้าต่างๆ ที่ถูกส่งกลับเข้ามาในอเมริกาก็มีราคาถูกเช่นกัน หากทรัมป์ตัดสินถอนตัวออกจาก NAFTA อาจนำไปสู่ผลกระทบต่องานหลายล้านตำแหน่งที่เชื่อมโยงและมีผลมาจากองค์กรเศรษฐกิจนี้ รวมทั้งราคาสินค้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นเพราะมีภาษีที่สูงขึ้น (อย่างที่โฆษกทำเนียบขาวเพิ่งประกาศไว้ว่า 20 เปอร์เซ็นต์) เข้ามาพัวพันการนำเข้าและส่งออก

 

Photo: Jose Luis Gonzalez, Reuters/profile

 

ปัญหาใหญ่ไม่พ้นเรื่องเงิน

ถึงตอนนี้เงินที่ใช้ในการสร้างกำแพงกลายเป็นปัญหาหลักที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ควรให้คำตอบในเร็ววัน หากการเจรจาข้อตกลงใน NAFTA ต้องพังลง คู่กรณีต้องหันมาใช้กฎองค์กรการค้าโลกที่จะเพิ่มภาษีศุลกากรที่เฉลี่ย 3 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทรัมป์ไม่สามารถผลักให้สูงขึ้นกว่านี้ได้จริง

ขณะที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกมีความประสงค์ในการเจรจา แต่ธงที่ทรัมป์ตั้งไว้อาจบีบให้เม็กซิโกเหลือช่องทางไม่มาก จนอาจนำไปสู่การตัดสินใจฉีกข้อตกลงทิ้ง ซึ่งราคาที่ต้องจ่ายนี้ หลายฝ่ายในเม็กซิโกยอมรับได้ และเริ่มมีกระแสหนุนทางเลือกนี้มากขึ้น

ย้อนกลับไปที่รากเหง้าของปัญหาที่นำมาสู่การสร้างกำแพง แท้จริงแล้วไม่ใช่แค่เพียงการกันคนข้ามมาจากพรมแดนเม็กซิโก แต่เป็นเรื่องตำแหน่งงานที่อเมริกันชนถูกผู้อพยพแย่งชิง จนทรัมป์ประกาศว่า จะส่งตัวคนต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมดในประเทศที่มีราว 11 ล้านคนกลับประเทศ

ขณะที่อดีตคู่แข่งในพรรครีพับลิกันอย่างเท็ด ครูซ, เจบ บุช และมาร์โก รูบิโอ อ้างอิงสถิติว่า คนต่างด้าวผิดกฎหมายราว 40 เปอร์เซ็นต์เป็น ‘โรบินฮู้ด’ คือนั่งเครื่องบินเข้าอเมริกาโดยมีวีซ่าที่ถูกกฎหมาย ก่อนจะอยู่เกินกำหนดตามที่ระบุไว้

ตามข้อมูลของ American Action Forum ระบุว่า หากทรัมป์จะส่งตัวคนต่างด้าวผิดกฎหมายทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในสองปี จะต้องจัดจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่าตัว ไม่นับรวมพาหนะในการส่งตัวกลับอีกนับหมื่นๆ เที่ยว เฉพาะค่าใช้จ่ายในการค้นหา จับกุมตัว และส่งกลับก็ตกประมาณ 619,000 ล้านเหรียญฯ ซึ่งรัฐบาลต้องหาเงินเพิ่มเพื่อรองรับแผนนี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายกำแพงเมืองอเมริกันของทรัมป์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องชาวอเมริกันในด้านความปลอดภัย และรักษางานให้คนในประเทศ

แต่ต้องยอมรับว่า การจะทำ ‘กำแพง’ ให้เกิดขึ้นจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

คงต้องติดตามกันต่อว่า ทรัมป์จะทำกำแพงแห่งความฝันของเขาให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่

อ้างอิง:

http://www.bbc.com/news/world-us-canada-37243269

http://edition.cnn.com/2017/01/26/politics/donald-trump-mexico-import-tax-border-wall/index.html?adkey=bn

https://www.technologyreview.com/s/602494/bad-math-props-up-trumps-border-wall

https://www.americanactionforum.org/wp-content/uploads/2016/03/2016_Immigration_Update.pdf

http://www.as-coa.org/articles/get-facts-five-reasons-why-us-mexico-border-critical-economy

http://www.pewhispanic.org/2015/11/19/more-mexicans-leaving-than-coming-to-the-u-s/

http://www.pewresearch.org/fact-tank/2016/11/03/5-facts-about-illegal-immigration-in-the-u-s/

https://www.nytimes.com/2017/01/24/world/americas/trump-mexico-nafta.html?_r=0

http://www.politifact.com/virginia/statements/2015/dec/28/ted-cruz/cruz-says-40-percent-illegal-immigrants-have-overs

 

Tags: , ,