นับตั้งแต่ช่วงพักโควิด-19 อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมันแทบไม่ได้ลงเล่น และไม่เคยลงสนามที่สโมสรอาร์เซนอลเลย
ระหว่างการแข่งขัน เมซูต เออซิล (Mesut Özil) มักนั่งบนแท่นอัฒจันทร์เป็นตัวสำรอง เขาดึงซ็อกเก็ตลง และพาดเท้าไปบนพนักเก้าอี้ด้านหน้า ดูคล้ายการผ่อนคลายในวันหยุด ภาพอิริยาบถของเขามักถูกนำไปล้อเลียนกันในโลกโซเชียลมีเดีย และมีผู้เชี่ยวชาญบางคนถึงกับยืนยันว่า นั่นเป็นท่าทีของนักเตะมืออาชีพ (ค่าตัวราว 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์) ที่รายได้ดีแต่ไม่อยากทำอะไร
เมซูต เออซิลยังเป็นนักเตะของเอฟซี อาร์เซนอล แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน เขาลงสนามเตะครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ในเกมการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกเขาก็ไม่ได้ถูกเรียกตัว ว่ากันว่า มิเคล อาร์เตตา (Mikel Arteta) เทรนเนอร์ชาวสเปน เมินเฉยต่อเขา แต่มีอดีตเทรนเนอร์กล่าวถึงเออซิลอย่างชื่นชมออกสื่อว่า เขาเป็นนักฟุตบอลที่คล้ายศิลปิน และมักไม่ค่อยมีที่ยืนในสนาม
คำกล่าวของอดีตเทรนเนอร์นั้นไม่ได้เกินเลย เมซูต เออซิลจัดเป็นนักเตะกองกลางฝีมือยอดเยี่ยมของทศวรรษที่ผ่านมา
เวลาใครพูดถึงเมซูต เออซิลก็มักจะเฉไฉออกนอกสนามฟุตบอลแทบทุกครั้ง บางคนเชื่อว่าเขากำลังตกอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ที่ไม่เกี่ยวกับอะไรความสามารถของเขา และที่แน่ๆ เวลาใครพูดถึงเมซูต เออซิล มักจะพูดถึงอีกบุคคลหนึ่งที่อยู่นอกแวดวงกีฬา นั่นคือ เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน (Recep Tayyip Erdoğan) ประธานาธิบดีประเทศตุรกี
ในเยอรมนี เออซิลเริ่มเสื่อมความนิยมลงไปในทันทีหลังจากปรากฏภาพถ่ายของเขากับประธานาธิบดีตุรกี ตามมาด้วยการตัดสินใจลาออกจากทีมชาติเยอรมันภายหลังการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ในตอนนั้นประธานาธิบดีแอร์โดอันร่วมเป็นสักขีพยานในงานแต่งของเออซิล แต่เบื้องหลังดูไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะปกติแล้วเออซิลแทบไม่เคยสนใจเรื่องการเมือง แต่จู่ๆ เขากลับแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมืองอย่างออกหน้า ไม่ว่าเรื่องชนเผ่าอุยกูร์ในจีน หรือล่าสุดเขาก็พุ่งเป้าโจมตีพรรคการเมืองในอาเซอร์ไบจานกรณีความขัดแย้งกับอาร์เมเนีย
เมื่อปลายปีที่แล้วเออซิลวิจารณ์รัฐบาลจีนที่ปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์อย่างไม่เป็นธรรม เขาประณามการข่มเหงชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในมณฑลซินเจียงของจีนในทวิตเตอร์ เออซิลเขียนข้อความว่า ในจีนมีการเผาคัมภีร์กุรอาน มีการสั่งปิดมัสยิดและโรงเรียนอิสลาม พร้อมกันนั้นเขายังขอให้เพื่อนร่วมศาสนาแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “ชาวมุสลิมนิ่งเงียบ ไม่มีใครได้ยินเสียงของพวกเขา”
หนังสือพิมพ์ Global Times ของจีน ตอบโต้เออซิลว่าเป็นคน ‘สับสนและไร้มารยาท’ ที่ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด อีกทั้งยังตักเตือนไปถึงสโมสรอาร์เซนอลว่า พฤติกรรมของเออซิลอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงได้
…..
เมซูต เออซิล มีชื่อเล่นในแวดวงว่า ‘ซีดานเยอรมัน’ เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1988 ที่เกลเซนเคียร์เชน เมืองใหญ่อันดับ 11 ในรัฐนอร์ธ ไรน์–เวสต์ฟาเลียของเยอรมนี เป็นลูกชายคนสุดท้องในครอบครัวพี่น้องสี่คนของมุสตาฟา และกูลิซาร์ เออซิล (Mustafa & Gulizar Özil) พื้นเพเดิมของครอบครัวรุ่นปู่ย่าเป็นผู้อพยพจากตุรกีเข้าไปหางานทำในเยอรมนีเมื่อปี 1967
เมซูตใช้ชีวิตวัยเด็กท่ามกลางความยากจนข้นแค้น เหตุเพราะเขาเกิดในช่วงที่โลกอุตสาหกรรมในเยอรมนีกำลังตกต่ำ มีจำนวนคนว่างงานสูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ พ่อแม่ของเขาต้องสู้งานหนักเพื่อจุนเจือครอบครัว แม้จะมีความเป็นอยู่ยากลำบาก แต่เมซูตก็ยังเชื่อมั่นว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จในชีวิตให้ได้ และทุกสิ่งอย่างที่เขาเลือกดูเหมือนจะไปได้ดี ตั้งแต่การเรียนจนถึงความพยายามที่จะเล่นฟุตบอล พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เขาเลือกการเล่นฟุตบอลเป็นหนทางในการหลุดพ้นจากความยากจนนั่นเอง
นอกจากฟุตบอลแล้ว เออซิลยังชอบเล่นหมากรุก ระหว่างที่ยังเรียนอยู่เขาเป็นสมาชิกของทั้งสองสโมสร อีกทั้งเขายังชอบวิชาคณิตศาสตร์ ความชอบในหมากรุกและคณิตศาสตร์ช่วยให้เขาสามารถคิดและเล่นฟุตบอลได้ดี นักวิจารณ์ฟุตบอลเคยกล่าวถึงเออซิลบ่อยครั้งว่า เวลาที่ลงเล่นในสนามเขามักเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่ค่อยเห็น
…..
ปี 2017 ขณะยังสังกัดอยู่ในทีมชาติเยอรมนี เมซูต เออซิลมีผลงานหนังสือ Die Magie des Spiels: Und was du brauchst, um deine Träume zu verwirklichen (ความมหัศจรรย์ของเกม: และสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง) เล่าถึงชีวิตและความสำเร็จของเขา “ผมคิดเป็นเยอรมัน แต่มีความรู้สึกเป็นเติร์ก” ก่อนจะกลายเป็นประเด็นขัดแย้ง ‘เยอรมัน–เติร์ก’ ในปีถัดมา เมื่อทีมชาติเยอรมันพ่ายแพ้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซีย
ครั้งนั้นมีการกล่าวโทษและซัดทอดความผิดกันในโซเชียลมีเดีย ทำให้เออซิลรู้สึกกดดันและเปรยถึงการลาออกจากทีมชาติ “ผมเป็นเยอรมันเวลาที่เราเล่นชนะ แต่ผมจะกลายเป็นผู้อพยพทันทีที่เราเล่นแพ้” เขาเคยทวีตบอกความรู้สึก ก่อนหน้านั้นเคยมีแฟนบอลชาวเยอรมันตะโกนด่าเขาในสนาม ไม่มีใครในทีมออกตัวรับหน้าแทนเขา ทั้งหมดนั้นมาจากภาพข่าวที่เผยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับประธานาธิบดีแอร์โดอัน ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ในตุรกี
และนับตั้งแต่นั้นมา โยอาคิม เลิฟ (Joachim Löw) ผู้จัดการทีมชาติเองก็ไม่ปริปากพูดคุยกับเออซิล หรือมองเขาเป็นอากาศธาตุ สื่อในเยอรมนีมองเห็นปัญหาของทีม พร้อมรายงานว่า “เมซูต เออซิล นักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่ร่วมสร้างทีมชาติเยอรมัน ยามนี้กำลังถูกประเทศนี้ลืมเลือน ราวกับว่าไม่เคยมีเออซิลอยู่ในทีมชาติมาก่อน”
หลังจากเมซูต เออซิลผละออกจากทีมชาติก็เริ่มมีประเด็นการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติตามมา แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่เคยมีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันระหว่างผู้จัดการทีมหรือเพื่อนร่วมทีม ส่วนเออซิลนั้นก็แสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีของตุรกีอย่างเปิดเผย
…..
ข้อความทวิตเตอร์ของเมซูต เออซิลที่สื่อถึงการข่มเหงชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว มีเสียงตอบรับจากกระทรวงต่างประเทศของจีน “ผมไม่รู้ว่าคุณเออซิลเคยเดินทางไปที่ซินเจียงด้วยตัวเองหรือยัง แต่ดูเหมือนเขาน่าจะได้ยินข่าวปลอม จึงตัดสินอะไรแบบนั้น” โฆษกของรัฐบาลจีนยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลจีนมีความยินดีอย่างยิ่งถ้าเออซิลได้ไปถ่ายภาพด้วยตนเองที่นั่น “หากเขามีสามัญสำนึก สามารถแยกแยะความถูกผิดได้อย่างชัดเจน และยึดมั่นในหลักการของความเที่ยงธรรมและยุติธรรม เขาอาจจะเห็นซินเจียงที่แตกต่างจากที่พูด”
ต่อจากคำตอบก็มีมาตรการตอบโต้ด้านการกีฬา สมาคมฟุตบอลของจีน (CFA) ออกมาแถลงการณ์ว่า เมซูต เออซิลไม่เพียงแต่ทำร้ายจิตใจแฟนคลับชาวจีนเท่านั้น หากยังทำร้ายจิตใจประชาชนชาวจีนด้วย สถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐจึงเห็นควรที่จะถอดโปรแกรมการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันระหว่างทีมอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ซิตีออกจากโปรแกรม ซึ่งเป็นโปรแกรมเด่นของคืนวันเสาร์ในประเทศจีน แต่ถ่ายทอดเฉพาะนัดลงสนามระหว่างท็อตเทนแฮมกับโวล์เฟอร์แฮมตันแทน
เจตนารมณ์ของจีนก็คือ พยายามลดทอนภาพของเมซูต เออซิลออกจากชีวิตประจำวันของชาวจีน รวมถึงชื่อของเขา บนโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มยอดฮิตในจีนอย่าง Weibo และ Douyin (โต่วอิน หรือ TikTok) รัฐได้สั่งปิดบัญชีของแฟนคลับเออซิลไปหมดแล้ว หรือแม้แต่เกมคอมพิวเตอร์ Pro Evolution Soccer 2020 ก็มีการเลือนภาพเออซิลออกไป
…..
ไม่เพียงแต่ในประเทศจีน แม้แต่ในสโมสรของตัวเอง เมซูต เออซิลก็กำลังถูกแบน ล่าสุดที่สนามอาร์เซนอลในลอนดอน เขาไม่ได้ลงเล่น แต่ก็ยังกลายเป็นข่าวพาดหัวสื่อได้ที่ข้างสนาม เมื่อไปต่อปากต่อคำกับพิธีกรรายการทีวีในทวิตเตอร์
“Let’s gooooooo… #COYG #YaGunnerYa” เออซิลทวีตส่งกำลังใจให้กับทีมตนเอง แต่ดูเหมือนไม่สบอารมณ์เพียร์ส มอร์แกน (Piers Morgan) พิธีกรรายการทีวีและแฟนอาร์เซนอลวัย 55 ถึงกับต้องทวีตตอบโต้ “ผมก็หวังว่าคุณจะ(ไป)เหมือนกัน เมซูต มันจะดีทั้งตัวคุณและอาร์เซนอล” และไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขายังเปิดเผยรายได้หลักแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ของเออซิลทั้งๆ ที่ไม่ได้ถูกเรียกตัวลงสนาม หรือทำอะไรเลย
สัญญาที่เออซิลเซ็นกับสโมสรอาร์เซนอลจะหมดอายุปลายเดือนมิถุนายน 2021 แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเขายังต้องทนต่อบรรยากาศอึมครึม และไม่รู้ว่าเส้นทางอาชีพค้าแข้งในอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ แชมป์โลกปี 2014 วัย 32 ปี เพิ่งเผยให้ผู้ติดตามเขาในโลกโซเชียลมีเดียรู้ว่า เขากำลังลงทุนในธุรกิจแฟชั่น ภายใต้ชื่อแบรนด์ M10Streetwear “เป็นแฟชั่นเสื้อผ้าแนวลำลอง สวมใส่สบาย และมีสไตล์ ที่ออกแบบมาสำหรับชีวิตประจำวัน”
และน่าจะราคาไม่แพง
อ้างอิง:
https://www.fr.de/sport/fussball/mesut-oezil-geschichte-eines-sitzenbleibers-13826232.html
https://lifebogger.com/de/Mesut-ozil-Kindheit-Geschichte-Plus-Unz%C3%A4hlige-Biographie-Fakten/
Tags: Mesut Özil, เมซูต เออซิล