‘เมืองแห่งดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์’
นี่เป็นคำขวัญของจังหวัดอุบลราชธานี (คำขวัญเดิมยังไม่มีท่อนที่ว่า ‘ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์) คำว่า ‘แม่น้ำสองสี’ ในคำขวัญนี้หมายถึงการไหลรวมมาบรรจบกัน ณ บริเวณ ดอนด่านปากแม่น้ำมูล บ้านเวินบึก ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียมของแม่น้ำมูนและแม่น้ำโขง โดยแม่น้ำโขงนั้นจะมีสีขุ่นโคลนเต็มไปด้วยตะกอน ในขณะที่แม่น้ำมูนนั้นจะใสกว่า โดยมีคำเรียกว่า ‘โขงสีปูน มูนสีคราม’
แต่ปัจจุบันนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อเพจ ‘Mekong Voice เสียงจากลำน้ำโขง’ เปิดภาพแม่น้ำโขงที่กลายเป็นลำน้ำใสแจ๋ว เริ่มต้นจากภาพของ วีรยุทธ ไมตรี ซึ่งได้บันทึกภาพแม่น้ำโขงที่อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งใสราวกับคริสตัล ตามมาด้วย ภาพของ พิสิษฐ์ ยอดพีรกิจ ซึ่งถ่ายในวันที่ 1 ธันวาคม ที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี (ซึ่งนำภาพนี้มาจากคอมเมนต์ในเพจ อีจัน) ปรากฏแม่น้ำโขงสีครามสวยงาม ราวกับท้องทะเล พร้อมทั้งเขียนอธิบายความว่า “นี่ไม่ใช่ความสวยงามแต่คือความวิบัติ” พร้อมอธิบายต่อว่า “การที่น้ำในแม่น้ำโขงสีครามเพราะน้ำใสราวกระจกและสะท้อนแสงจากท้องฟ้า เนื่องจากตะกอนถูกกักไว้เหนือเขื่อน และทำให้น้ำท้ายเขื่อนไม่มีตะกอน สายน้ำที่ไม่มีตะกอน คือสายน้ำที่ไม่มีชีวิต”
ความสวยงามของแม่น้ำโขงอันเกิดจากน้ำใสแจ๋ว ไม่มีตะกอนโคลนเหมือนดังเช่นในอดีตนั้น ในแง่ภาพถ่ายคือความตื่นตาตื่นใจ แต่ในแง่ความสมบูรณ์ทางธรรมชาตินั้น การที่แม่น้ำไม่มีตะกอนซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของสายน้ำ ถือเป็นสัญญาณอันตรายของแม่น้ำโขง
ข้อมูลจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุว่า ตะกอนเป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำ และระบบนิเวศของแม่น้ำ การสูญเสียตะกอนในแม่น้ำจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความอุดมสมบูรณ์ของแม่น้ำ ธรณีสัณฐานริมตลิ่งตลอดทั้งลำน้ำ รวมไปถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งมีความสำคัญทางระบบนิเวศและความเป็นอยู่ของผู้คน เพราะตะกอนแม่น้ำจะคอยเติมผืนดินให้กับแผ่นดินเกิดใหม่ที่ปากแม่น้ำ ซึ่งหากไม่มีตะกอนแม่น้ำ เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นก็จะเกิดการกัดเซาะทำให้ริมตลิ่งและดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำหายไปในที่สุด
นอกจากนี้รายงานของกรีนนิวส์ ยังชี้ว่า ปรากฏการณ์ที่แม่น้ำโขงเปลี่ยนสีเป็นสีครามใสแจ๋วนี้ เรียกว่า ‘น้ำหิว’ หรือการที่น้ำที่ปราศจากตะกอนจะกัดเซาะพาเอาตะกอนออกจากตลิ่งและท้องน้ำเพื่อคืนสมดุลตะกอน ซึ่งจะนำไปสู่การพังทลายของตลิ่งตลอดลำน้ำโขงในที่สุด อันเป็นน้ำที่เพิ่งปล่อยออกมาจากเขื่อนในประเทศจีน เพื่อยกระดับน้ำในแม่น้ำโขง ให้เรือสินค้าจีนสามารถเดินเรือค้าขายในแม่น้ำโขงได้ในช่วงฤดูแล้ง
ตรงกับรายงานการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของตะกอนแม่น้ำโขงจากการคาดการณ์ผลกระทบของเขื่อนในแม่น้ำโขง โดยคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ที่ระบุไว้ว่า หากมีการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าเต็มรูปแบบตามที่ได้วางแผนไว้ในลุ่มน้ำโขง จะก่อให้เกิดการลดลงของการพัดพาตะกอนในแม่น้ำอย่างมีนัยสำคัญ
อ้างอิง
https://www.facebook.com/Mekong-Voice-เสียงจากลำน้ำโขง
https://www.seub.or.th/bloging/สถานการณ์/สิ่งแวดล้อม-ต่างประเทศ/จะเกิดอะไรหากแม่โขงไร้/
https://greennews.agency/?p=19806
ขอขอบคุณภาพจาก : วีรยุทธ ไมตรี, พิสิษฐ์ ยอดพีรกิจ