ผลการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรออกมาแล้ว แม้พรรคอนุรักษ์นิยมจะได้ที่นั่งในสภามากที่สุดตามคาด คือ 318 ที่นั่ง เอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่างพรรคแรงงานซึ่งไล่กวดตามมาที่ 261 ที่นั่ง แต่คะแนนที่หนึ่งไม่ได้หมายความว่า เทเรซ่า เมย์ เป็นผู้ชนะในเกมนี้ ในทางตรงกันข้าม กลับยิ่งทำให้การเมืองสหราชอาณาจักรปั่นป่วนเพราะไม่มีพรรคใดเลยที่ได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่งทำให้ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ หรือที่เรียกว่า Hung Parliament

 

แก่นหลักของการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การลงคะแนนเพื่อหาตัวแทน 650 ที่นั่งในสภาเวสต์มินเตอร์ แต่ความหมายที่ซ่อนอยู่คือการขอแรงสนับสนุนให้เทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษ์นิยม (ทอรี่) เดินหน้าเจรจา Brexit ให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป

เมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว (2016) เทเรซ่า เมย์ต้องเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแบบฉุกเฉิน หลังจากผลประชามติออกมาเสียงข้างมากให้ Brexit ทำให้ เดวิด คาเมรอน ผู้ซึ่งไม่ได้อยากให้ประเทศออกจากสหภาพยุโรป ตัดสินใจแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก หวยจึงมาลงที่เทเรซ่า เมย์ ต้องมารับงานหิน จัดทำข้อเสนอ ปรับนโยบาย เตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อเจรจาหาข้อตกลงสำหรับการถอนสมาชิกภาพ แน่นอนว่างานนี้ไม่ง่าย เมย์ยังเจออุปสรรคล้นหลาม และนั่นอาจเป็นเหตุหนึ่งให้เธอประกาศเลือกตั้งแบบฉุกเฉินก่อนกำหนดสามปี เพื่อย้ำเสียงสนับสนุนให้เธอในฐานะผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมเดินหน้าเจรจา Brexit ที่จะเริ่มต้นขึ้นในอีก 11 วันข้างหน้า หรือ 19 มิถุนายนที่จะถึงนี้

 

ช่วงแรกที่เริ่มประกาศเลือกตั้ง พรรคอนุรักษ์นิยมนำพรรคแรงงานไปถึง 20 จุด ใครต่อใครต่างคาดการณ์ว่า เมย์น่าจะได้คะแนนเสียงข้างมากแบบถล่มทลาย แต่สัญญาณค่อยๆ เริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้นเพราะสัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ผลโพลล์ชี้ว่า ช่องว่างความต่างของคะแนนค่อยๆ แคบลงเหลือเพียงไม่กี่จุด

Photo: REUTERS/Kevin Coombs

แม้วาระสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกี่ยวกับเรื่อง Brexit โดยตรง แต่เพียงระยะเวลาไม่ถึงสองเดือนก่อนเลือกตั้ง ก็เกิดเหตุจลาจล ทั้งระเบิดกลางงานคอนเสิร์ตในแมนเชสเตอร์ และเหตุขับรถไล่และแทงคนเดินถนนกลางกรุงลอนดอน ความรู้สึกของผู้ลงคะแนนเสียงคงไม่ได้มองการลงคะแนนครั้งนี้เป็นแค่เรื่อง Brexit แต่เพียงอย่างเดียว

ต้องไม่ลืมว่า ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแบบกระทันหัน เทเรซ่า เมย์ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย (Home Secretary) ที่มีหน้าที่โดยตรงรับมือการก่อการร้ายมานานหกปี เธออาจโชคร้ายเพราะสถานการณ์ทั่วโลกก็ไม่ได้ดีขึ้น แถมเหตุเหล่านี้ เกิดขึ้นภายใต้มาตรการรัดเข็มขัดที่พรรคอนุรักษ์นิยมตัดลดงบประมาณตำรวจลงด้วย ทั้งหมดนี้ สั่นคลอนต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์

ความเสี่ยงของเกมนี้ไม่ได้อยู่เพียงแค่ว่าพรรคไหนจะชนะเลือกตั้ง สำหรับเทเรซ่า เมย์ แล้ว การประกาศเลือกตั้งแบบด่วนครั้งนี้อาจจะกลายเป็นการขุดหลุมให้ตัวเอง เพราะแม้ทอรี่จะกวาดที่นั่งสูงสุด แต่ก็ได้ที่นั่งน้อยลงจากการเลือกตั้งรอบที่แล้ว ซึ่งมันกลายเป็นตัววัดผลสำคัญที่เตือนภัยถึงความเชื่อมั่นในตัวเทเรซ่า เมย์ที่ลดลง และอาจได้เวลาที่เธอต้องพิจารณาตัวเอง

 

ที่ทางของพรรคต่างๆ ในสหราชอาณาจักร

แคมเปญหลักที่ทอรี่ประกาศในรอบนี้ เน้นหนักที่บทบาทนำของเทเรซ่า เมย์ ว่ามีความแกร่งจริง สามารถท้าชนในการเจรจาออกจากสหภาพยุโรปได้ แต่ยิ่งย้ำความเข้มแข็งเท่าไร ความน่าเชื่อถือและความนิยมกลับค่อยๆ ลดลง แม้แคมเปญเลือกตั้งของเธอย้ำนักย้ำหนาว่า เธอเข้มแข็งและมั่นคง (strong and stable) แต่คนไม่ค่อยเชื่อน้ำยา มองว่าเธออ่อนแอและสั่นคลอน (weak and wobbly) มากกว่า นอกจากนี้ ท่ามกลางบรรยากาศความหวาดกลัวต่อภัยก่อการร้าย เทเรซ่า เมย์ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องยืนยันว่าจะปกป้องความมั่นคงของประเทศต่อไปด้วยการโจมตีกฎหมายสิทธิมนุษยชนที่ผูกพันกับสหภาพยุโรป ซึ่งก็ยิ่งทำให้อะไรๆ ดูแย่ลงไปอีก

Photo: REUTERS/Marko Djurica

ด้านเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงานที่ถูกตีกรอบว่าเป็นซ้ายสุดโต่ง มีศัตรูรอบด้าน ทั้งจากนักการเมืองพรรคคู่แข่ง นักการเมืองภายในพรรค และสื่อมวลชน การเลือกตั้งครั้งนี้สามารถขยายฐานและได้เสียงสนับสนุนโดยเฉพาะคนรุ่นหนุ่มสาว ทำคะแนนที่ทุกฝ่ายช็อค เพราะพรรคแรงงานได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อคราวปี 2015 ถึง 29 ที่นั่ง

เวลานี้ แม้พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งมี 318 ที่นั่งยืนกรานจะตั้งรัฐบาล โดยไปจับมือกับพรรค DUP (Democratic Unionist Party หรือ สหภาพประชาธิปไตย) ซึ่งมี 10 ที่นั่ง ทำให้ได้เสียงรวมเกินกึ่งหนึ่งในสภา แต่เพราะพรรคแรงงานสามารถแย่งโควต้าในสภาได้จำนวนมาก แม้ไม่ได้ที่นั่งมากที่สุด แต่หากสามารถรวมพลังกับพรรคที่เหลือ เข้าขวางการเดินหน้านโยบายต่างๆ ก็จะทำให้รัฐบาลเทเรซ่า เมย์ลำบากได้

 

สำหรับเทเรซ่า เมย์ ซึ่งพรรคของเธอได้คะแนนลดลง 12 ที่นั่ง ส่งสัญญาณว่าความนิยมของทอรี่ภายใต้การนำของเทเรซ่า เมย์ ลดน้อยลงกว่าที่ผ่านมา อนาคตของสหราชอาณาจักรที่ต้องเร่งเข้าสู่การเจรจา Brexit ในอีก 11 วัน ภายหลังการเลือกตั้งที่มาพร้อมสัญญาณความมั่นใจที่ถดถอยลงต่อผู้นำ คงไม่ราบรื่นนักทั้งเกมการเมืองในประเทศและระหว่างประเทศ

Photo: REUTERS/Neil Hall

Cover Photo: REUTERS/Stefan Wermuth