เรื่องราวของครูสาวชาวอเมริกันเคยกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกในยุค 1990s เหตุเพราะเธอไปมีสัมพันธ์รักกับเด็กนักเรียน จนเกิดคดีฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาว่าเธอขืนใจเด็ก และถูกศาลตัดสินจำคุก
ปี 1996 แมรี เคย์ เลอทัวร์เนอ (Mary Kay LeTourneau) อายุ 34 ปี แต่งงานและมีลูกแล้ว 4 คน นอกจากนั้นเธอยังเป็นครูของ วิลี ฟัวเลา (Vili Fualaau) เด็กนักเรียนเกรดหกอายุ 12 ปี ที่เธอเริ่มไปมีความสัมพันธ์ด้วย กระทั่งเมื่อสตีฟ เลอทัวร์เนอ (Steve LeTourneau) สามีของเธอไปพบจดหมายรักของฟัวเลาเข้าโดยบังเอิญ ความลับของทั้งสองจึงถูกเปิดเผย
เลอทัวร์เนอพบและรู้จักฟัวเลาตั้งแต่ตอนที่เขาเข้ามาเป็นนักเรียนเกรดสองในชั้นของเธอ อีกสี่ปีต่อมาทั้งสองค่อยๆ เริ่มมีความสัมพันธ์กันแบบลึกซึ้ง เริ่มจากช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนที่ทั้งสองเข้าคอร์สในโรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ด้วยกัน มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น
หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกันในวันหนึ่ง ฟัวเลาเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอจูบเธอครั้งแรก ไม่ช้าต่อมาทั้งสองก็มีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรก ในวันที่สามีของเลอทัวร์เนอเดินทางไปต่างเมือง และวันนั้นคือตอนดึกของวันที่ 19 มิถุนายน 1996 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบทั้งสองอยู่ในรถมินิแวนบริเวณใกล้ท่าเรือยอชต์ ขณะที่ตำรวจเข้าไปใกล้รถ เลอทัวร์เนอรีบกระโดดไปที่เบาะนั่งด้านหน้า ส่วนฟัวเลาชี้แจงกับตำรวจว่าเขานอนอยู่ที่เบาะด้านหลัง
ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มี ‘การสัมผัสเนื้อตัว’ กัน อีกทั้งยังบอกชื่อปลอม และโกหกว่าฟัวเลาอายุ 18 ปีแล้ว ครั้งนั้นพวกเขาจึงรอดตัวมาได้
…..
เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย สตีฟ-สามีของเลอทัวร์เนอจึงขอหย่าและขอสิทธิในการเลี้ยงดูลูก จากนั้นเขากับลูกๆ ก็พากันโยกย้ายไปอยู่แอลาสกา แต่ญาติคนหนึ่งของสตีฟแจ้งดำเนินคดีกับเลอทัวร์เนอ ปี 1997 ครูสาวถูกตัดสินข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ต้องโทษจำคุก 6 เดือนพร้อมการบำบัดทางจิต นอกจากนั้นเธอยังถูกห้ามไม่ให้พบเจอหรือเข้าใกล้เด็กนักเรียนชื่อฟัวเลา ที่ระหว่างนั้นเธอเพิ่งตั้งครรภ์ลูกที่เกิดขึ้นจากเขา
แต่หลังจากพ้นโทษไม่นาน เลอทัวร์เนอก็แหกกฎข้อห้าม เธอกับฟัวเลาถูกจับได้ระหว่างมีเพศสัมพันธ์กันบนรถ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ เลอทัวร์เนอต้องโทษจำคุกอีกครั้งเป็นเวลา 7 ปี รวมถึงคำสั่งห้ามติดต่อกับฟัวเลาตลอดชีวิต
ระหว่างต้องขัง เธอให้กำเนิดลูกคนที่สองของฟัวเลา ส่งผลให้เด็กหนุ่มซึ่งอายุยังไม่ครบ 15 ต้องกลายเป็นพ่อลูกสอง
ปี 2004 เลอทัวร์เนอได้รับการปล่อยตัวออกมา สองวันหลังจากนั้น วิลี ฟัวเลาได้ยื่นเรื่องขอถอนคำสั่งห้ามติดต่อ ปี 2005 เลอทัวร์เนอและฟัวเลาจึงจัดพิธีแต่งงานขึ้นในเมืองวูดินวิลล์ ไม่ไกลจากซีแอตเทิล
ปี 2017 ทั้งสองกลายเป็นข่าวดังอีกครั้งเมื่อออกมาแสดงความจำนงจะหย่าร้าง แต่แล้วแผนการหย่าถูกแช่แข็ง เมื่อพวกเขาตัดสินใจพยายามประคองชีวิตคู่ต่อไป เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะลูกๆ ด้วย
วิลี ฟัวเลาเคยพูดเล่าในรายการทีวีโชว์ ถึงความทุกข์ทนกับการทำหน้าที่พ่อของลูกสาวสองคน ขณะที่ตนเองยังเป็นวัยรุ่น ทำให้เขาต้องหยุดเรียนชั้นมัธยมฯ ปลายกลางคัน และบ่อยครั้งต้องหันไปพึ่งสุรายาเมา
“ผมยังแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ทุกวันนี้ผมยังมีชีวิตรอดมาได้” ฟัวเลาบอก “ผมผ่านช่วงเวลามืดมนนั้นมาได้จริงๆ”
ปี 2019 ทั้งสองหย่าร้างกันสำเร็จ แต่ญาติมิตรที่ใกล้ชิดรายงานว่า พวกเขายังคงมีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนต่อไป ยังคงไปมาหาสู่กัน คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และยังช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสองอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
…..
เมื่อก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งปี แมรี เคย์ เลอทัวร์เนอรู้ข่าวร้ายจากหมอว่าเธอเป็นมะเร็งในลำไส้ วิลี ฟัวเลายอมสละเวลามาคอยเฝ้าดูแลเธอในช่วงเวลาที่เหลือในชีวิต เขายอมทิ้งบ้านพักในแคลิฟอร์เนียเพื่อมาอยู่กับเธอ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เธอในวาระสุดท้าย
เลอทัวร์เนอต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานถึงเก้าเดือน เมื่อเริ่มแรกหมอยังเชื่อว่าเธอมีโอกาสรอดชีวิต ทว่าในเดือนมิถุนายนมะเร็งเริ่มกระจาย ห้วงเวลาสุดท้ายเธอต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในวัย 58 ปี
เรื่องราวของทั้งสองมีคนติดตามมากมาย และส่วนใหญ่ตัดสินว่านั่นเป็นความผิด แม้เลอทัวร์เนอและฟัวเลาจะยืนยันหนักแน่นว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นเป็นความปรารถนาร่วมกัน อีกทั้งเมื่อปี 1998 พวกเขายังเคยเขียนเล่าถึงสัมพันธ์รักร่วมกันตีพิมพ์เป็นหนังสือ Un seul crime, l’amour (Only One Crime, Love)
“ผมไม่ใช่เหยื่อ(ในความสัมพันธ์) ผมไม่อายที่จะเป็นพ่อของเด็ก ผมไม่อายที่จะตกหลุมรักกับแมรี เคย์” วิลี ฟัวเลาเคยให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อปี 2013
และในหนังสารคดี Mary Kay LeTourmeau: Autobiography (2018) ฟัวเลายังยืนยันคำเดิมด้วยประโยคที่ว่า “สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องราวของความรักที่แท้จริงของเราสองคน”
อ้างอิง:
https://nypost.com/2020/07/07/mary-kay-letourneau-dead-of-cancer-at-58/
Tags: แมรี เคย์ เลอทัวร์เนอ, Mary Kay LeTourneau