เทศกาลหนังเวนิซครั้งที่ 75 ปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับชัยชนะสูงสุดในสายประกวดหลักของหนังคำวิจารณ์หรูอย่าง Roma ที่กำกับโดย อัลฟองโซ กัวร็อง (Alfonso Cuaron) ขณะที่ภาพยนตร์ไทยเรื่อง กระเบนราหู (Manta Ray) ของผู้กำกับ พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง ได้รับรางวัลหนังยอดเยี่ยมจากสายประกวดรอง (สาย Orizzonti หรือ Horizons) กลายเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่คว้ารางวัลใหญ่กลับมาจากเทศกาลอันทรงเกียรติแห่งนี้ได้สำเร็จ

กระเบนราหู เป็นผลงานกำกับหนังยาวเรื่องแรกของพุทธิพงษ์ หลังจากที่สร้างชื่อมาจากงานกำกับภาพให้กับหนังไทยอิสระวิชวลแรงอย่าง Vanishing Point (2015) กับ มหาสมุทรและสุสาน (2015) อีกทั้งยังมีผลงานกำกับหนังสั้นอีกหลายเรื่องที่ได้ไปออกฉายและชนะรางวัลมาแล้วจากหลายเวทีดังทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ ชิงช้าสวรรค์ (2015) ที่เป็นเสมือนหนังสั้นนำร่องให้กับผลงานหนังยาวเรื่องนี้ของเขา

กระเบนราหูพาคนดูไปยังเมืองชายฝั่งที่ผู้อพยพชาวโรฮิงญาพากันหนีมาตาย เล่าเรื่องของชายหนุ่ม 2 คนที่มาพบเจอกันและสานสัมพันธ์ท่ามกลางสถานการณ์อันตราย คนหนึ่งคือชาวประมงผมทอง อีกคนคือชายปริศนาที่เขาพบนอนบาดเจ็บสลบไสลอยู่ในป่า หนุ่มชาวประมงตัดสินใจนำคนแปลกหน้าที่ไม่พูดไม่จามาพยาบาลรักษาและตั้งชื่อให้ว่า ‘ธงชัย’ แต่เมื่อวันหนึ่งหนุ่มประมงหายตัวไปอย่างลึกลับ ธงชัยก็ค่อยๆ ก้าวเข้ามาสวมรอยแทน

หนังได้รับคำชื่นชมถึงงานภาพที่น่าตื่นตากับกับงานเสียงที่ช่วยสร้างบรรยากาศน่าฉงนฉงาย รวมไปถึงการครุ่นคำนึงถึงประเด็นอัตลักษณ์และความเป็นอื่นผ่านสัญลักษณ์ต่างๆ ได้อย่างทรงพลัง เหนือสิ่งอื่นใด หนังมองมนุษย์ผู้เป็นคนอื่นด้วยความเห็นอกเห็นใจ Richard Kuipers นักวิจารณ์จาก variety.com ชี้ว่า “หัวใจนักมนุษยนิยมเต้นเสียงดัง” ในหนังเรื่องนี้

ผ่านเรื่องราวของชายผู้แตกต่างกันทั้งสอง กระเบนราหูพยายามมอบภาพสะท้อนอันแสนซับซ้อนต่อโศกนาฏกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ถูกกดขี่มากที่สุดกลุ่มหนึ่งในโลกปัจจุบัน ชักชวนให้คนดูคิดถึงความต่าง-ไม่ต่างระหว่างเรากับเขา และทำให้ผู้คนไร้เสียงได้มีพื้นที่อยู่ในโลกของเรื่องเล่า ดังที่พุทธิพงษ์ระบุไว้ในโพสต์หนึ่งของเพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของหนัง (เป็นภาษาอังกฤษ) ว่า “…ผมพยายามบันทึกเสียงของพวกเขา [ผู้อพยพชาวโรฮิงญา] เอาไว้เพราะผมต้องการให้เสียงเหล่านี้ได้พบที่ทางที่จะดำรงอยู่ในหนังของผม”

เส้นทางการทำหนังของพุทธิพงษ์เริ่มเป็นที่จับตาของแวดวงภาพยนตร์โลกไปแล้ว แต่การเดินทางของกระเบนราหูนั้นยังไม่จบ เพราะหลังไปฉายเปิดตัวและคว้ารางวัลจากเวนิซมาเรียบร้อยแล้ว หนังยังมีคิวตระเวณฉายต่อตามเทศกาลหนังชื่อดังอีกหลายที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นโตรอนโต ซานเซบาสเตียน แวนคูเวอร์ และปูซาน (โดยรายหลังนี้เป็นเจ้าภาพให้งานของ Asian Cinema Fund ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้ทุนสนับสนุนหนังเรื่องนี้ด้วย) ส่วนในประเทศไทย แม้ยังไม่มีกำหนดฉายทางการ แต่เชื่อได้ว่าคงไม่นานเกินรอ

อ้างอิง

http://www.labiennale.org/en/news/official-awards-75th-venice-film-festival

http://cineuropa.org/en/newsdetail/359995/

https://www.hollywoodreporter.com/review/manta-ray-kraben-rahu-film-review-venice-2018-1140244

https://variety.com/2018/film/festivals/manta-ray-review-1202929088/

https://www.facebook.com/krabenrahu/photos/a.485740478505313/486488255097202/?type=3&theater