ไม่ว่าจะเป็นเพราะ ตูน-บอดี้สแลม หรือไม่ก็ตาม เราต้องยอมรับว่าการวิ่งมาราธอนคือกิจกรรมสุดเทรนดี้ใน พ.ศ.นี้ รายการวิ่งชื่อดังระดับโลกขาย BIB หมดภายในชั่วพริบตาไม่ต่างจากบัตรคอนเสิร์ต แต่เทรนด์นี้ดีอยู่อย่าง คือต้องทำจริง ต้องเอาตัวเข้าแลก มันจึงเป็นเรื่องน่ายินดีน้อยเสียเมื่อไรที่วันนี้คนจำนวนมากพากันออกวิ่ง ยอมหน้ามันย่อง เหงื่อท่วมตัว ยอมให้ตัวเองห่างไกลจากคำว่าบูติกที่สุดตั้งแต่เกิดมา และในที่สุดพวกเขาก็ได้สัมผัสกับพลังงานที่แท้จริงในตัวเอง และจากนั้นชีวิตพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงตลอดไป

ตัดภาพไปกลางมหาสมุทรแอตแลนติก เลยชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาไป 150 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของเกาะชื่อ ‘กราน คานาเรีย’ ซึ่งอยู่ในเขตปกครองของสเปน ทุกปีบนเกาะนี้มีรายการวิ่งมาราธอนชื่อ Sky Gran Canaria แต่ตอนเมษายนปี 2017 เป็นปีแรกที่เหล่านักวิ่งชาวยุโรปใต้ได้มีโอกาสต้อนรับคู่รักนักวิ่งชาวไทย

“ก็มีแต่คนถามว่ายูมาได้ไง” มนต์ วัฒนศิริโรจน์ เล่าพร้อมยิ้มกว้างว่ามันเป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ เขาและแฟนสาวแค่อยากหาที่เที่ยวและได้วิ่งด้วย จนมาเจอรายการวิ่งบนเกาะนี้

ส่วนแผนเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานอันลือลั่นไปทั้งเกาะนั้น เขาคิดไว้ล่วงหน้าประมาณหนึ่ง จัดแจงหาแหวน แอบพกมันเดินทางไกล แล้วก็หย่อนไว้ในกระเป๋ากางเกง คอยจับมันเป็นระยะตลอดเวลาที่วิ่งเทรลขึ้นเขาลงห้วยไปกับเธอบนเกาะแปลกหน้า ทั้งคู่เข้าเส้นชัยเกือบรั้งท้าย รายการทีวีของสเปนมาขอสัมภาษณ์ในฐานะนักวิ่งจากแดนไกล แฟนสาวยังหอบเหนื่อย จึงให้มนต์สัมภาษณ์คนเดียว

พอสัมภาษณ์เสร็จมนต์ก็ขอให้ช่างกล้องช่วยถ่ายเขาต่ออีกสักครู่ ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าลง แฟนสาวตาเหลือก “ดาวเขาตกใจ นั่งทำไม จะทำท่าอะไรอีก (หัวเราะ)” ก่อนที่จะกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจที่เรียกเสียงปรบมือจากองทัพนักวิ่งชาวสเปนได้ท้วมท้น

มนต์ วัฒนศิริโรจน์ แบ่งชีวิตเป็นสองด้านที่แตกต่างทว่าไม่แยกขาด ด้านหนึ่งเขาคือวิชวลดีไซเนอร์งานชุก เคยผ่านประสบการณ์ทำงานกับบริษัทระดับโลกที่ซาน ฟรานซิสโก เขาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ออกแบบแสงสี และโมชั่นกราฟิกทั้งหลายในทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการ

มนต์ตั้งบริษัทเล็กๆ ของตัวเองเมื่อแปดปีก่อนในนาม Swerb และ Zeight ปัจจุบันพอร์ทงานของมนต์เติบโตหลากหลาย บริษัทของเขากลายเป็นเหมือนแหล่งปลุกปั้นนักออกแบบวิชวลหน้าใหม่ให้กับวงการ และเขายังเป็นคนแรกๆ ที่ทำลายกรอบว่าการออกแบบแสงสีเสียงนั้นมีไว้รองรับคอนเสิร์ตหรืองานปาร์ตี้อย่างเดียว เขาร่วมงานกับดุจดาว วัฒนปกรณ์ คู่หมั้น ผู้เป็นศิลปินนักแสดงและนักเคลื่อนไหวบำบัด และทั้งคู่ก็ได้พาศาสตร์ของการออกแบบแสงข้ามฝั่งมาเป็นศิลป์

ส่วนอีกด้านหนึ่งของมนต์นั้นวิ่งอยู่เสมอ ในเมือง ในป่า บนเขา กลางแสงแดด มนต์ไม่เรียกสิ่งนี้ว่ากิจกรรมนอกเวลา เพราะสำหรับเขา งานและวิ่งมีความสำคัญเท่ากัน เป็นอีกด้านหนึ่งที่เสริมส่งกันและกัน

อธิบายสักนิดว่าการเป็น Visual Designer คือทำอะไรบ้าง

คือออกแบบทุกอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งที่มองเห็นได้ในงานนั้นๆ มันค่อนข้างกว้างครับ ถ้าลงดีเทลไปอีกนิดก็จะมีโมชั่นดีไซน์ มีวิชวลอาร์ต ซึ่งครอบคลุมไปถึงพวก light installation (การจัดวางไฟ) พวกโมชั่นกราฟิกในเอ็มวีก็ยังทำอยู่ และมีวิดีโออาร์ต ซึ่งอันนี้เป็นไลน์ใหม่เข้ามา ตอนนี้ที่มนต์ทำวิดีโอให้อยู่ก็มี Vespa แล้วก็ Adidas เป็นหลัก

 

พูดถึงงาน Light Installtion คนมักจะนึกถึงคอนเสิร์ต งานปาร์ตี้ แต่คุณได้นำมาใช้ในงานศิลปะด้วย

ใช่ครับ จริงๆ มันทำได้หลายอย่างนะครับที่ไม่ได้เกี่ยวกับงานปาร์ตี้ อย่างเพอร์ฟอร์แมนซ์ อาร์ต ที่ผมทำกับดุจดาว เป็นการใช้ไฟกับการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างความรู้สึก ไฟจะเหมือนเป็นนักแสดงคนหนึ่ง ดาวอยู่จังหวะไหน ไฟก็ response สิ่งที่ดาวกระทำ เราต้องมีการแชร์ความคิดกัน ตกลงไดเรกชั่นกันก่อน และเวลาแสดงจริงก็ต้อง improvise คนบังคับไฟต้องรู้ว่าดาวจะล้ม ดาวจะหายใจ มันต้องไปด้วยกัน ดาวเขาสนใจการทำงานของแสงกับการเล่าเรื่องครับ ความ abstract ในการเซตไฟมันจะเชื่อมโยงกับคอนเทนต์ที่ศิลปินกำลังจะสื่อสาร พูดง่ายๆ คือให้ไฟทำงานเป็นเหมือนภาษาหนึ่งครับ

 

คุณตั้งบริษัทมา 8 ปีแล้ว ยังมีพนักงานรุ่นแรกเหลือไหม

ไม่มีเหลือแล้วครับ รุ่นแรกสุดเขาก็ไปทำอะไรของเขาที่อื่น แต่มนต์บอกทุกคนไว้ว่า ถ้าอยากจะไปทำอะไรของตัวเอง มีความมั่นใจแล้วให้มาบอก จะดีใจมาก เพราะแปลว่าเขาแข็งแรงพอที่จะเดินตาม career path ของตัวเอง ตอนสัมภาษณ์ครั้งแรก มนต์จะบอกเขาชัดเจนว่า อย่างน้อยพี่ขอส่วนตัวว่าอยากให้อยู่ประมาณสองปี ความที่โปรเจ็กต์แต่ละโปรเจ็กต์มันมีระยะเวลา ไม่ได้อยู่แค่อาทิตย์เดียวเสร็จ ก็อยากให้มันวางแผนทำงานกันข้ามปีได้

 

การหาคนทำงานด้านนี้ยากไหม

หาคนไม่ยาก แต่หาคนที่มี commitment ยาก ต้องมีความอดทน ให้เวลากับการทำงานสักพักจนมันเข้าที่ คนแบบนี้หายาก คนทุกวันนี้มักจะรู้สึกว่างานมันไม่ได้ดังใจเขาสักที แต่ เฮ้ย มันยังไม่ถึงสองเดือนเลย เปลี่ยนใจแล้วเหรอ เอาง่ายๆ มนต์ว่าคนหนึ่งทำโปรเจ็กต์อะไรก็ตาม มันต้องมีจังหวะ struggle ถ้ามันไม่ struggle แสดงว่ามันยังไม่ท้าทายเรา ถ้าเริ่มทำปั๊บแล้วทุกอย่างง่ายไปหมดจนจบ โอเค คุณอาจจะโชคดี แต่อีกแง่คือคุณก็จะไม่ได้รู้อะไรใหม่ๆ เลย

การดิ้นรนในงานประเภทของมนต์ได้แก่อะไรบ้าง

เช่น ขายไอเดียลูกค้าให้ผ่าน เรามีไอเดียเจ๋งๆ เยอะมากในโลกนี้ แต่จะ struggle อย่างไรให้มันถูกทาร์เก็ต ให้คนเอาไป execute ได้จริง ส่วนมากมีปัจจัยเรื่องงบและเรื่องความชอบของคนอื่นเป็นข้อจำกัด ทำให้เหมือนโดนกดลงไปอีก รู้สึกท้อแท้ รู้สึกว่าคิดอย่างไรก็ไม่ถูกใจสักที แต่มนต์อยากบอกว่าอย่าเพิ่งท้อแท้สิ ลองคิด out of box คิดอ้อมอีกทางหนึ่ง แต่ให้กลับมาอยู่ที่เป้าหมายเดิมนะ ได้ไหม หรือเราจะ explore อย่างอื่นไปเลย ล้มกระดานแล้วเอาใหม่

ซึ่งไอ้จังหวะล้มกระดานเอาใหม่นี่แหละ ที่มนต์ว่าน้องๆ สมัยนี้ไม่ค่อยเลือกทำ เพราะสำหรับเขามันดูเสียเวลา มันเหมือนต้องทำทั้งหมดใหม่ แต่บางทีโมเมนต์นี้สำคัญ มันโอเคที่จะผิดพลาด และมันโอเคที่จะเริ่มใหม่ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เราข้ามไปให้ได้

 

ทราบมาว่าคุณไม่เชื่อในการทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่เชื่อในการแบ่งเวลาให้งานกับชีวิตส่วนตัวเท่ากัน ตอนนี้ยังเชื่อเหมือนเดิมไหม

ตอนนี้ยิ่งเชื่อมากขึ้นด้วยครับ มนต์เชื่อว่าทุกคนต้องมีบาลานซ์ ออฟฟิศมนต์เลิกงานหกโมงทุกคนครับ ทุ่มหนึ่งนี่คือเลตแล้ว และทุกคนได้โอที บางทีงานเซ็ตอัพต้องออกไปทำงาน after hour หรือ เสาร์-อาทิตย์ มนต์ก็ให้เขาพิเศษ คือมนต์ไม่ได้มีโบนัสอะไรให้เขา มนต์ทำบริษัทแบบใช้ความรู้สึกตัวเองว่าอะไรคือแฟร์ไม่แฟร์ เราซื้อเวลาเขามา เขาเสียเวลาตรงนี้ไป เขาควรจะได้ตอบแทน ก็คิดง่ายๆ แค่นี้แหละครับ

การทำงานแบบนี้เคยกลัวไหมว่าเดี๋ยวงานหาย

แรกๆ คุณอาจจะรู้สึกว่า เฮ้ย ทำงานแค่นี้น้อยไปหรือเปล่า เฮ้ย เราจะไม่ทันคนอื่นไหม แต่จริงๆ มนต์พิสูจน์แล้วครับว่า ถ้าเรารักษางานกับชีวิตด้านอื่นให้ไปด้วยกันได้ มันจะเสริมส่งกันและกัน อาจจะทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างมนต์วิ่ง สุขภาพดีขึ้น ทำงานเครียดมา เราก็ได้ไปเอาออกด้วยการวิ่ง มันทำให้เคลียร์ คิดอะไรได้เร็วขึ้น และทำงานมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ได้จมอยู่กับสิ่งหนึ่งจนมันตัน เคยไหมครับเวลาเราทำงานเยอะๆ แล้วคิดไม่ออก แต่พอเราไปวิ่ง หรือไปขับรถไกลๆ หรือไปทำอะไรสักอย่างที่หลุดออกไปจากตรงนั้นเลย มันกลับทำให้อยู่ดีๆ ก็นึกทางออกขึ้นได้ว่า เออทำไมเราไม่ทำอย่างนี้ล่ะ

 

เล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าเริ่มต้นเข้าสู่วงการวิ่งได้อย่างไร

มนต์เริ่มจากมีปัญหาชีวิตช่วงต้นปี 2016 ครับ แล้วก็เครียด อยู่เฉยๆ แล้วฟุ้งซ่าน ตอนนั้นมนต์ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อจะให้ลืม เพื่อจะไม่คิดเรื่องอื่น โฟกัสไปที่งาน แต่มันไม่ไหวแล้ว รู้สึกว่าร่างกายเหมือนจะป่วยเมื่อไรก็ได้ตลอดเวลา ถึงจุดหนึ่งก็คิดว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่น่าจะเวิร์ก เลยมีความรู้สึกว่าออกกำลังกายดีกว่า เดิมมนต์เคยเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่ช่วงหนึ่งหยุดไป มันเป็นช่วงที่เราพยายามสร้างตัวตน พูดง่ายๆ คือพยายามจะเป็น somebody แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ทำไปทำไม คนเรามันจะมีจุดเปลี่ยน แล้วมนต์ก็เปลี่ยนตรงนั้นพอดี เออ ทำสิ่งที่เราชอบเถอะ เพราะนี่คือตัวเรา เรารักตัวเองดีกว่า ก็เลยเลือกวิ่ง เริ่มจากวิ่งจากออฟฟิศกลับบ้าน พอวิ่งผ่านรถติดก็จะแซงรถไป แล้วก็มีความรู้สึกสะใจเล็กๆ พวกนายอยู่ในรถกันทำไมวะ (หัวเราะ)

 

ทำไมถึงเลือกการวิ่ง

มันคือสิ่งที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก หารองเท้าคู่หนึ่งที่ใส่แล้วไม่เจ็บ กับเสื้อผ้าง่ายๆ แล้วก็แค่วิ่งไปเรื่อยๆ เริ่มจากสองสามกิโลฯ เอาแค่ให้ได้เหงื่อแค่นั้นเอง จากนั้นมนต์ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ผ่านไปเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เออ เราหลับสบาย เริ่มมีคนทักว่าผอมลง แค่เดือนเดียวเอง

 

วิ่งแล้วมันลืมทุกข์หรืออย่างไร

ใช่ครับ ขณะที่วิ่งมันลืม เพราะเราต้องโฟกัสกับพื้น กับหลายอย่าง เฮ้ยเราวิ่งกี่กิโลฯ แล้ว มนต์เป็นคนชอบศึกษาเพิ่มเติมด้วย ก็จะรู้ว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร และควรจัดการกับตัวเองอย่างไร มันทำให้เราโฟกัสอย่างอื่น ไม่จมดิ่งไปกับเรื่องเครียดในชีวิต การวิ่งทำให้เราเกิดภาวะที่เรียกว่า Natural High ความอยากวิ่งมันเลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วปกติเวลาวิ่งเราก็จะตั้งเป้าหมาย เช่น วันนี้เราจะวิ่งให้ถึงสวนลุม แล้วจะวิ่งกลับ ทำอย่างนี้ไปสักอาทิตย์หนึ่ง ก็จะเพิ่มระยะ เราจะวิ่งไปถึงสวนลุมนะ แล้วเราจะวิ่งสวนลุมรอบหนึ่ง แล้วค่อยวิ่งกลับ มันก็จะค่อยๆ ขยับทีละนิดแบบนี้ พอพิชิตเป้าหมายได้แต่ละครั้ง มันก็รู้สึกดี ถ้ายังไม่ได้ก็จะมีแรงฮึดว่าจะต้องทำให้ได้ เป็นการเอาชนะตัวเอง ซึ่งพอทำได้แล้วมันรู้สึกดีมากครับ

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก มนต์ วัฒนศิริโรจน์

จากวิ่งแถวออฟฟิศมาวิ่งตามรายการต่างๆ ได้อย่างไร

2-3 เดือนหลังจากเริ่มวิ่ง มนต์โชคดีรู้จักกรุ๊ปอย่าง Mikkeller เป็นกรุ๊ปวิ่งที่มีเป้าหมายว่าวิ่งเสร็จแล้วกินเบียร์แก้วหนึ่ง หรือมากกว่านั้นก็ได้ (หัวเราะ) เขาจะมีเบียร์พิเศษสำหรับนักวิ่งครับ พอมีเพื่อน มีคอมมิวนิตีมันก็สนุก ถ้าใครอยากจะเริ่มวิ่งแล้วไม่รู้จะผลักดันตัวเองยังไง แนะนำให้หากรุ๊ปครับ แล้วไม่ต้องกลัวว่าเขาจะวิ่งกันเร็วหรือเขาจะมองคนใหม่อย่างไร คือทุกกรุ๊ปใจดีมาก มนต์พูดเลย ทุกคนมีน้ำใจซึ่งกันและกัน มนต์มาเจอแล้วรู้สึกเลยว่า เออ ทำไมเราไม่อยู่ในสังคมแบบนี้ทุกวันวะ ทำไมต้องเป็นเฉพาะงานวิ่งคนเราถึงใจดีต่อกัน อย่างมนต์วิ่งเทรล ถ้าคนหนึ่งหกล้มขึ้นมา จะมี 10 คนมาช่วย แบบเอายาไหม นวดไหม บางคนเลยไปแล้ววิ่งย้อนกลับมาดูแลก็มี

 

แล้วรู้ตัวตอนไหนว่าเรามาเต็มแล้วนะ

ประมาณปลายๆ ปี 2016 ครับ เริ่มรู้ว่าร่างกายเราอยู่ในสภาพที่ฟิตที่สุดเท่าที่เราเคย มนต์รู้สึกแบบนี้ครั้งสุดท้ายคือเมื่อตอนอยู่มหา’ลัย แล้วก็มาตอนนี้ พอร่างกายฟิต Impact มันเยอะมาก ความรู้สึกดีอย่างหนึ่งมาจากจิตใต้สำนึก คือเราจะรับรู้ว่าเราได้ดูแลตัวเอง ไม่รู้ว่าเป็นทุกคนไหม แต่มนต์ว่าคนส่วนใหญ่จะกังวลลึกๆ ตลอดเวลาว่าร่างกายเราโอเคไหม เราควรต้องทำอะไรสักอย่างกับตัวเองหรือเปล่าวะ มันต้องสักที แต่สักทีมันไม่เกิดขึ้นสักที พอมันเกิดขึ้น เราก็ได้จัดการกับความกังวลที่อยู่ในใจเรา อาจจะยังไม่ฟิตขนาดนั้น แต่อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ แค่นี้ก็รู้สึกดีกับตัวเองแล้วครับ

 

ทุกวันนี้แบ่งเวลาให้การวิ่งกับการทำงานอย่างไร

ครึ่งๆ ครับ โปรแกรมของมนต์พยายามจะวิ่งให้ได้อาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างต่ำ คือกลางอาทิตย์ครั้งหนึ่ง แล้วก็เสาร์-อาทิตย์ วิ่ง Road runner ในเมืองมนต์ก็ชอบ แต่ที่ชอบมากกว่าคือการวิ่ง Trail ซึ่งมนต์กับแฟนชอบเหมือนกัน คือเสาร์อาทิตย์เราชอบออกต่างจังหวัด เพราะเราทำงานในเมืองมาห้าวันแล้ว เสาร์อาทิตย์เลยชอบไปเจอฟ้ากว้าง ที่โล่ง ต้นไม้ ภูเขา การวิ่งเทรลมันสนุกเพราะได้วิ่งกับธรรมชาติ ขึ้นเขาลงห้วย สมบุกสมบันดี

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก มนต์ วัฒนศิริโรจน์

คุณกับคู่หมั้นวิ่งอยู่แล้วทั้งคู่ หรือใครชวนใคร

ตอนเจอกัน ดาววิ่งอยู่แล้วครับ มนต์ก็วิ่งอยู่แล้ว แต่ตอนคุยกันครั้งแรกเราไม่ได้คิดถึงเรื่องวิ่งเลยครับ (หัวเราะ) แต่มนต์รู้ว่าดาวน่าจะสุขภาพดี เพราะว่าเขาเป็นนักแสดงด้วย ต้องซ้อมค่อนข้างหนัก เขาต้องเฟิร์ม แต่การวิ่งของดาวจะเป็นลักษณะวิ่งเอาสมาธิ เป็นการ healing คุยกับตัวเอง

 

วิ่งเอาสมาธิเป็นอย่างไร วิ่งคนเดียวหรือ

ใช่ฮะ และเขาไม่ได้วิ่งเร็วเลย เขาวิ่งช้ามาก แต่การวิ่งช้ามากทำให้เขาเบิร์นดีกว่า ในการวิ่งคือยิ่งช้ายิ่งเบิร์นนะครับ Endurance เขาสูง ได้ความทนทาน คือสามารถวิ่งได้เรื่อยๆ เหมือนทำสมาธิให้ได้นานหลายชั่วโมง ส่วนมนต์อยู่ในลูปของการวิ่งลงรายการอยู่บ้างแล้วตอนนั้น ซึ่งตอนแรกดาวเขาก็ยังไม่สนใจแบบนั้น แต่ในขณะเดียวกันเขาเป็นคนที่ชอบชาเลนจ์ใหม่ๆ ชอบลอง เออก็วิ่งมาแล้ว 5 กิโลฯ 7 กิโลฯ ทำไมจะลงรายการ 10 กิโลฯ ไม่ได้ เขาก็ลงมั่ง แล้วมันก็ได้ข้ามเส้นนั้น ข้ามขีดจำกัด คนที่ได้ข้ามเส้นมาจะมีความรู้สึกว่า เออ มันก็ไม่ได้ยากเนาะ แล้วมันก็สนุกด้วย พอเป็น 10 กิโลฯ ปั๊บ เขาถนัดมากขึ้น ก็เริ่มเพิ่มระยะ จากมินิมาราธอน เป็นมาราธอน

 

จนมาถึงวันนี้ที่คุณทั้งคู่ไปวิ่งกันถึงเบอร์ลินมาราธอนมาแล้ว ทำไมถึงต้องเบอร์ลิน

เมืองเบอร์ลินถือเป็น destination ของนักวิ่งครับ ชาวเบอร์ลินมองนักวิ่งเป็นเหมือนฮีโร่ของเมือง อาจจะด้วยความที่ Adidas มาจากเบอร์ลินก็ได้ เขาเลยมีคอมมิวนิตีแข็งแรงมากที่สนับสนุน เราไปวิ่งที่โน่นเราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ถ้าคุณวิ่งมาถึงจุดหนึ่ง จะรู้สึกเหมือนมนต์นะครับว่านักวิ่งเหมือนเป็นเพื่อนข้ามโลกกัน ความรู้สึกของมนต์ คนที่เมืองไทยจริงๆ ก็ใจเดียวกันครับ มีน้ำใจช่วยเหลือ แต่ด้วยความที่ทางโน้นเขาซัพพอร์ตชัดเจนกว่า พร้อมกว่า เมืองไทยอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่อินกับสิ่งที่เราทำ ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะครับ

ปกติรายการวิ่งที่นี่ถึงต้องจัดกันในช่วงเช้ามากๆ เพราะสายปั๊บจะมีปัญหากับชาวบ้าน ทำให้รถติดและอีกหลายอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าอยู่ในสังคมนักวิ่งของไทย กิจกรรมทุกอย่างจะเกิดขึ้นก่อนคนทั่วไปตื่นครับ วันอาทิตย์คนทั่วไปตื่นสิบโมง คนวิ่งจะออกวิ่งกันตั้งแต่ตีสามตีสี่ แอคทีฟสุดๆ กินข้าวทำกิจกรรมกัน พอเจ็ดโมงนี่เก็บของกลับบ้านกันแล้ว คนอื่นเขาก็ยังไม่ตื่น (หัวเราะ) มนต์ว่ามันเป็นไปตามสภาวะในแต่ละเมือง ที่เบอร์ลินมันดัง เพราะเมืองเขาอุทิศทั้งวีกให้กับมาราธอนไปเลย ทุกร้านสนับสนุนกิจกรรมนี้ ทุกบ้าน เราไปไหนเขาก็ถามว่าวิ่งมาราธอนเหรอ แล้วก็เชียร์หรือมอบของพิเศษให้บ้าง

 

การเป็นคู่รักที่วิ่งหรือออกกำลังกายด้วยกัน มันช่วยไหมให้ความสัมพันธ์ราบรื่นขึ้น

ช่วยมากครับ เพราะการที่เรามีโมเมนต์ที่ลุยไปด้วยกัน โดยเฉพาะการวิ่ง มันเหมือนกับเราทำสมาธิทั้งคู่ แล้วเราอยู่ด้วยกันตรงนั้น เวลามนต์ชวนดาววิ่งเทรลระยะไกล แรกๆ ต้องขึ้นเขา หรือไปทำอะไรในที่ที่เขาไม่เคยทำมาก่อน มนต์จะวิ่งไปด้วยกันกับดาว ไม่ว่าเขาจะหยุดหรือว่าเขาจะเดิน มนต์ก็จะอยู่ตรงนั้นเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งเขาก็จะไล่มนต์ให้วิ่งไปก่อนเลย เขาเกรงใจครับ เพราะว่าเขารู้ว่ามนต์ทำได้เร็วกว่านี้เยอะ แต่มนต์ก็บอกว่า เฮ้ย เรามาด้วยกัน เราทำตรงนี้ด้วยความสนุกไปด้วยกัน เอนจอยธรรมชาติ ชมนกชมไม้ มนต์โอเค พอมันมีช่วงเวลาอย่างนั้นเราก็ได้คุยกัน ได้ explore โลกไปด้วยกัน รวมถึง explore ตัวเองด้วยว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร มันเป็นอย่างไร สนุกไหม เหนื่อยเนอะ

 

แล้วได้เห็นข้อเสียของกันและกันไหม

เห็นครับ พอคนเราผ่านจุดที่ไม่เคยผ่าน เราจะได้รู้จักตัวเองในด้านใหม่กันทุกคน แล้วถ้าเราผ่านจุดนั้นไปได้ เราก็จะเดินต่อไปด้วยกันได้แบบมั่นคงขึ้น มันจะมั่นใจ และสบายใจ

 

ก้าวผ่านจุดที่ไม่เคยผ่าน คืออะไร

อย่างช่วงแรกๆ ที่ดาววิ่ง คือดาวเขาเป็นคนไม่ยอมแพ้ ทำอะไรต้องสำเร็จ ด้วยความที่เขาเป็นคนอึด แต่การวิ่งเทรลมันเหนื่อยมาก เจอความลำบากสารพัด จนมีครั้งหนึ่งมันทำให้เขาโมโห และตั้งคำถามว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ ทำไมฉันต้องทำสิ่งเหล่านี้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้มีใครบังคับ เป็นการตัดสินใจร่วมกัน แต่ในนาทีนั้นมันเหนื่อย เวลาเหนื่อยมากบางทีเราจะคิดไม่เป็นเหตุเป็นผล มนต์เข้าใจ แล้วพอเราไปต่อ แล้วเราก็ทำสำเร็จ เข้าเส้นชัย ความรู้สึกเหล่านั้นก็หายไปหมดเกลี้ยง ดาวก็บอกว่าเขาได้เข้าใจ อ๋อ ตอนนั้นเราสติแตกนะ มันก็เป็นโมเมนต์ แล้วก็ผ่านไป สุดท้ายเราทำได้นี่หว่า และมันทำให้เราแน่นแฟ้นกันมากขึ้น เพราะเราเข้าใจกัน เราเห็นอีกด้านของกันและกัน

 

แล้วสำหรับมนต์เคยมีภาวะแบบนี้ไหม

เคยครับ เคยกันทั้งนั้น เรามาทำอะไรตรงนี้วะ ทำไมเราไม่นอน มันสบายกว่ากันเยอะเลย อย่างไม่นานนี้เอง มนต์ไปวิ่งทั้งที่เพิ่งหายไข้ รู้สึกแขนขาไม่ค่อยมีแรง ครั้งนั้นดาวติดธุระไม่ได้ไปด้วย มนต์วิ่งไปครึ่งทาง รู้สึกว่าไม่น่าไหวว่ะ รู้สึกว่าถ้าฝืนวิ่งจนจบอาจจะป่วย เลยตั้งใจว่า disqualify ดีกว่า พอถึงสเตชั่นน้ำซึ่งจะมีรถมารับเราลงไป พี่ที่สเตชั่นก็ถามว่าแน่ใจแล้วเหรอ เมื่อกี้ก็มีคนแบบน้องอะ นั่งรอรถ แต่พอเขาเห็นผู้หญิงวิ่งผ่านไป เขาก็วิ่งตาม (หัวเราะ) มนต์ก็บอก พี่ ผมไม่ได้เป็นอาการนั้น ผมป่วย แต่สักพักหนึ่งมันก็แบบ… กำลังพิมพ์หาดาวแล้ว ให้เขารู้ว่ามนต์ขอ disqualify นะ กำลังจะกดส่งแล้ว แต่แม่ง… เสียประวัติว่ะ แล้วมนต์ก็นึกถึงตอนที่ดาวขาพลิก ต้องเดินลงจากเขาทั้งที่เจ็บขา 20-30 กิโลฯ เทรลบนเขา รถไปรับไม่ได้ ทีดาวยังทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้วะ อีกสิบกิโลเอง สุดท้ายมนต์ก็ไปต่อและทำได้

มนต์เลยบอกทุกคนว่ามันจะมีจุดนั้นอยู่ครับ จุดที่ถ้าเราข้ามผ่านมันไปได้ ให้เวลาอีกนิด บางทีแค่ไม่ถึง 5 นาทีเลย มันเหมือนมีมารผจญน่ะ เหมือนคนคิดลบ คนคิดจะฆ่าตัวตาย มนต์ว่ามันคือเรื่องเดียวกัน คือขอแค่เรากลับมาอยู่กับปัจจุบัน แค่สักแป๊บเดียวเท่านั้นนะ ความรู้สึกเหล่านี้จะหายไปเลย

การวิ่งทำให้มนต์เรียนรู้สิ่งเหล่านี้

Fact Box

มนต์ วัฒนศิริโรจน์ จบปริญญาตรีคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นเรียนต่อด้านคอมพิวเตอร์อาร์ตและนิวมีเดียที่มหาวิทยาลัยอะคาเดมี ออฟ อาร์ต ซาน ฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา และทำงานเป็นศิลปินอาฟเตอร์เอฟเฟกต์ที่นั่น จนกระทั่งปี 2011 จึงกลับมาตั้งบริษัทวิชวลดีไซน์ที่เมืองไทย ได้แก่ ZIEGHT Project และ SWERB.tv และเป็นผู้บรรยายพิเศษที่สถาบันกันตนา ล่าสุดเป็นผู้สนับสนุนด้านไลท์ติ้งให้กับโปรเจ็กต์ ‘Afterlight’ งานแสดงสดและวิดีโอจัดวางของ ดุจดาว วัฒนปกรณ์ คู่หมั้นและหนึ่งในศิลปินไทยที่ได้ร่วมแสดงใน Bangkok Art Biannale จัดแสดงตั้งแต่ 20 พ.ย. – 2 ธ.ค. 2018 ที่ชั้น 8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

Tags: , , , ,