ประวัติศาสตร์ระหว่างเกมและหลุยส์ วิตตอง สามารถย้อนกลับไปได้ถึงยุค 1930 เมื่อแกสตัน หลุยส์ สร้างบอร์ดเกม ถุงบอลจักเกลอร์ หรือโยโย่ ออกมาขายในนามแบรนด์หลุยส์ วิตตอง หรือแม้แต่กระดานหมากรุกลายตารางดามิเยร์อันคลาสสิกของหลุยส์ วิตตองเอง และในปี 2008 หลุยส์ วิตตอง ก็ออกคอลเลกชันเกมต่างๆ ซึ่งมีทั้งตารางหมากรุก ไพ่ แบ็กแกมมอน เกมเศรษฐี หรือแม้แต่ไพ่นกกระจอกโดยใช้ลายโมโนแกรมของแบรนด์

ล่าสุดในการนำเสนอคอลเลกชันเสื้อผ้าผู้ชายประจำฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว 2019 เวอร์จิล แอบโลห์ ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของหลุยส์ วิตตอง ฝั่งเสื้อผ้าและเครื่องประดับผู้ชาย ได้ออกวิดีโอเกมในรูปแบบเกมออนไลน์เป็นครั้งแรกของแบรนด์ โดยใช้ชื่อว่า ‘Endless Runner’

เกม ‘Endless Runner’ สร้างขึ้นในสไตล์เรโทร 16 บิตแบบสองมิติกลิ่นอายยุค 80s โดยมีฉากหลังเป็นเมืองนิวยอร์ก ผู้เล่นจะต้องเดินทางผ่านสถานที่ต่างๆ ในเกม ระหว่างการเดินทางก็จะมีอุปสรรคขัดขวางให้ต้องหลบหลีก ไม่ว่าจะเป็นถังขยะ ไซต์ก่อสร้าง (ที่อาจจะมีอะไรตกลงมา) ตู้โทรศัพท์ โดยในระหว่างนั้นก็ต้องคอยเก็บโลโก้หลุยส์ วิตตองเพื่อเพิ่มคะแนนให้กับตัวเอง หรือโยนกระเป๋ารุ่น Keepall (เก๋ซะไม่มี) โดยสามารถเข้าไปเล่นกันได้ในเว็บไซต์หลุยส์ วิตตอง

นอกจากหลุยส์ วิตตองแล้ว เพียง 1 วันก่อนหน้าที่เวอร์จิล แอบโลห์ จะโปรโมตเกมนี้ในอินสตาแกรมของเขา กุชชี่ (Gucci) เองก็ปล่อยเกมในแอป Gucci App ให้ดาวน์โหลดมาเล่นเช่นเดียวกันชื่อ Gucci Arcade ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเกมในสไตล์วินเทจช่วงยุค 1970s-1980s โดยมีสองเกมให้เล่นคือ Gucci Ace และ Gucci Bee

เกมแรก Gucci Ace ชื่อเกมนั้นได้มาจากรองเท้าสนีกเกอร์ของกุชชี่ จึงเป็นเกมสไตล์กีฬา นั่นก็คือเกมตีปิงปอง มีสามเลเวลให้เล่น เลเวลแรกเหมือนย้อนเวลากลับไปด้วยรูปแบบการออกแบบเกมที่มีความเป็นวินเทจ เกม 8 บิตสไตล์เรโทร ในขณะที่เลเวลที่สองก็จะมีความเป็นปัจจุบัน และเลเวลที่สามจะมีความเป็นอนาคตในสไตล์การออกแบบแบบฟิวเจอริสติก

เกมที่สองก็คือเกม Gucci Bee หรือเกมเขาวงกตนั่นเอง ซึ่งตัวละครในเกมเป็นผึ้งที่ต้องหาทางออกจากเขาวงกตให้ได้ โดยมีสามเลเวลให้เล่นเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือสามารถเก็บคะแนนและเหรียญคะแนนพิเศษต่างๆ ได้ โดยทั้งสองเกมนี้ผู้เล่นสามารถแชร์ผลคะแนนการเล่นสู่โซเชียลมีเดียได้ และจะมีถ้วยรางวัลสำหรับผู้เล่นที่ได้คะแนนสูงสุด โดยคุณสามารถสร้างกลุ่มก๊วนสาวกกุชชี่มาเล่นเกมเพื่อประชันคะแนนกันได้เลย

ลักษณะของทั้งสองเกมจากสองแบรนด์แฟชั่น ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ เป็นเพียงอีกหนึ่งนวัตกรรมจากแบรนด์แฟชั่นที่พยายามสร้างความหวือหวาน่าสนใจให้กับแบรนด์และกลุ่มแฟนคลับของแบรนด์เพื่อสร้างความเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์และเกาะเกี่ยวกลุ่มลูกค้าภายใต้คาแรกเตอร์ของแบรนด์ที่นำเอาความเป็นวินเทจ สไตล์เรโทร กลับมาสร้างความ ‘คูล’ อีกครั้ง แต่ไม่แน่ว่าในอนาคต หากทั้งหลุยส์ วิตตอง และกุชชี่ พัฒนาเกมออนไลน์ของตัวเองไปสู่ระดับที่คอเกมให้การยอมรับ มันอาจจะกลายเป็นอีกช่องทางของแบรนด์ในการขยายไปสู่กลุ่มเป้าหมายอื่นๆ อีกก็ได้

อ้างอิง