ผมว่า ‘อินเดีย’ เป็นประเทศที่ลุ้นยาก
คือคำที่ จิระ มะลิกุล กล่าวไว้ในคำนำหนังสือดื่มทะเลสาบ อาบทะเลทราย ของบินหลา สันกาลาคีรี ลงวันที่ กรกฎาคม 2548 พร้อมจัดเป็นหนังสือเรตอันตรายสำหรับคน 50/50 กับประเทศอินเดีย
หนึ่ง เพราะเป็นจดหมายเหตุไทย-อินเดียที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
สอง เพราะจดหมายเหตุชั้นดีเล่มนี้ จะกลายเป็นยากระตุ้นชั้นดีที่ทำให้คนที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้า ‘อินเดีย’ อยู่แล้ว อาจข้ามไปถึงขั้น ‘เกลียด’ และคนที่มีความคิด 50/50 ต่ออินเดีย อาจเขี่ยประเทศนี้ให้เป็นประเทศท้ายๆ ของชีวิต
และฉันเป็นหนึ่งในคนอย่างหลัง
ดื่มทะเลสาบ อาบทะเลทราย เป็นบันทึกการเดินทางไปเยือนอินเดียของบินหลา ชายผู้หลงรักแคชเมียร์ แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมือง ณ ขณะนั้น ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนแบกเป้ ไปเยือนเมืองอื่นแทน ไม่ว่าจะเป็น ราชสถาน จัยปูร์ และบิคาเนอร์
ตลอดการเดินทางของเขาอบอุ่นไปด้วย ‘มิตร’ ทั้งฉันมิตรและมิจฉาชีพ ที่เน้นสร้างความเหนียวแน่นในมิตรภาพผ่านการ ‘ฟันกำไร’
“เวลคัมทูอินเดีย…มายเฟรนด์..มายเฟรนด์”
หลังเผชิญกับปัญหาการสร้างมิตรแบบเน้นสร้างรายได้ บินหลาจึงอธิบายต่อท้ายประโยคข้างต้นว่า นั่นคือประโยคแรกที่ได้ยินจาก อับดุล ผู้ชายที่ชอบเรียกหมูกระดูกอ่อนว่า ‘เพื่อน’ !
บินหลาพาเราไปดื่มไปอาบทั้งทะเลสาบและทะเลทรายเป็นเวลาร่วมเดือน ผ่านประสบการณ์ที่เทพเจ้ากำหนดออกแบบการเดินทาง และอุปสรรค์มาเพื่อแต่ละคน
การที่เราหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ณ เวลานี้ ทำให้เห็นทั้งวิธีการเตรียมตัวก่อนท่องเที่ยว การเอาตัวรอดในนาทีคับขัน เช่น การพกดิกชันนารีติดตัว เหล่านี้ทำให้เราเห็นภาพการท่องเที่ยวในอดีตที่ไม่ได้สะดวกสบายเฉกเช่นปัจจุบัน ที่มีแผนที่ออนไลน์ และการแปลภาษาที่ง่ายเพียงปลายนิ้ว
ตลอดการเดินทางตั้งแต่ทะเลสาบจรดทะเลทรายทำให้เราตื่นเต้น และสนุกไปพร้อมกับบินหลา กับการเห็นไหวพริบและวิธีเอาตัวรอดแก้เกมในแบบฉบับของเขา หนังสือเล่มนี้จึงเป็นมากกว่าบันทึกการท่องเที่ยว ก็ดังที่บินหลาอธิบายผืนทะเลทรายในไจซาลเมอร์ว่า
“ผิวทรายมีริ้วลมเกลี่ยหน้า ไร้ร่องรอยชีวิตอื่นใด ราวว่า ณ ที่แห่งนี้ไม่มีใครย่างเหยียบมาก่อน แต่เรารู้ว่ากำลังย่ำไปบนรอยเดิม ที่อย่าว่าแต่จะย้อนยาวไกลไปพันปี แม้เพียงเมื่อเย็นวานก็มีคาราวานบางกลุ่มใช้เป็นทางผ่านมาแล้ว”
ขณะที่เรากำลังไล่สายตาอ่านทุกบรรทัดของตัวอักษร ก็เหมือนกับว่าเรากำลังย่ำไปบนรอยเดินที่บินหลาเคยย่ำอยู่ที่อินเดีย
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่บรรจุอยู่ในพ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้ ที่ไม่อยากสปอยล์ให้เสียรส ที่เชื่อว่าทุกคนที่อ่านย่อมสนุกลุ้นตาม และอาจได้คำตอบกับตัวเองว่าจะรักหรือชังอินเดียกันแน่
ส่วนเหตุผลส่วนตัวที่ต้องปัด ‘อินเดีย’ ไปเป็นอันดับท้ายๆ ใน Bucket List ไม่ใช่ความเกลียด แต่คือความกลัวมากกว่า
หนึ่ง กลัวว่าตัวเองไม่ได้มีไหวพริบในการเอาตัวรอดกับอับดุล ดั่งนกที่บินจากเทือกเขาสันกาลาคีรีที่เอาตัวรอดในดงอับดุลได้ (แม้จะทุลักทุเล และโชคช่วยหลายครั้ง)
สอง เป็นคนขี้รำคาญและขี้สงสาร ในขณะเดียวกันหากสามารถจ่ายเงินเพื่อให้จบสถานการณ์กระอักกระอ่วน กินไม่เข้าคายไม่ออกได้ก็จะยอมเพื่อตัดรำคาญ
สาม ขณะที่เป็นคนยอมจ่ายเงินเพื่อตัดปัญหาได้ ขณะเดียวกันก็เป็นคนงก ไม่ยอมคนในบางเรื่อง จึงไม่มั่นใจว่าร่างหรือบุคลิกใดจะไปปรากฏเมื่อไปเยือนอินเดีย
สี่ ยังไม่มั่นใจในตัวเองกับการท่องเที่ยวเพียงลำพังว่า จะทำให้รักตัวเองมากขึ้น หรือชิงชังตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
แม้ยังไม่มีแผนเดินทางไปเร็ววัน และเกิดอาการกลัวมิตรที่มาในคราบ “เวลคัมทูอินเดียมายเฟรนด์”
แต่สักวันต้องไปแน่ แค่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร
เพราะยังอยากรู้จักอินเดีย และรู้จักตัวเองมากกว่าที่ควร
Fact Box
ดื่มทะเลสาบ อาบทะเลทราย, บินหลา สันกาลาคีรี เขียน, จำนวน 175 หน้า, สำนักพิมพ์ไรท์เตอร์, ราคา 174 บาท




