ลอรีอัล กรุ๊ป เผยวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อความยั่งยืน ‘L’ORÉAL FOR THE FUTURE’ สำหรับปี 2030 มุ่งยกระดับการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานโดยคำนึงถึงขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก สร้างผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน และร่วมแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโลกไปด้วยกัน

โดยภาพรวมของ ‘L’ORÉAL FOR THE FUTURE’ ปี  2030 มีอยู่ 2 ด้านด้วยกัน คือ การปฎิรูปธุรกิจของลอรีอัลเพื่อไม่ละเมิด “ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก” (planetary boundaries) โดยลอรีอัลได้ตั้งเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก เพื่อรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  และพร้อมยกระดับแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอีกสามประการ ได้แก่ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน 

ซึ่งเป้าหมายสำคัญที่ลอรีอัลได้กำหนดบนพื้นฐานการทำงานภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก ได้แก่

  • ภายในปี 2025 โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของลอรีอัลทุกแห่ง ต้องไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ (carbon neutral) ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้พลังงานทดแทน 100% 
  • ภายในปี 2030 พลาสติกใช้ในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ลอรีอัลทั้งหมด 100% จะมาจากพลาสติกรีไซเคิล หรือ จากแหล่งวัสดุชีวภาพ 
  • ภายในปี 2030 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละผลิตภัณฑ์สำเร็จลง 50% เมื่อเทียบกับปี 2016

กับอีกด้านคือ ช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนระดับโลกด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยการสนับสนุนเงินทุน ซึ่งลอรีอัลก็ได้จัดสรรงบประมาณ 150 ล้านยูโร (ประมาณ 5.2 พันล้านบาท) เพื่อจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและป่าไม้ที่เสียหาย ผ่านกองทุน L’Oréal Fund for Nature Regeneration หรือโครงการช่วยเหลือสตรีผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น

ขณะที่ลอรีอัล ประเทศไทย ก็มีศูนย์กระจายสินค้าสีเขียวของลอรีอัลแห่งแรกในเอเชียตั้งแต่ปี 2017 มีโครงการช่วยเหลือ และพัฒนาสังคม เช่น การจ้างงานผู้ขาดโอกาสทางสังคม และโครงการสอนทักษะอาชีพเสริมสวยแก่ผู้ด้อยโอกาส ซึ่งช่วยเหลือไปแล้ว 1,600 คน รวมทั้งการซื้อน้ำมันรำข้าวหอมมะลิที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวหนังจากเกษตรกรในประเทศไทย โดยทำงานร่วมกับ 4 สหกรณ์ในภาคอีสาน ซึ่งก็ได้ช่วยเหลือเกษตรกรไปแล้ว 540 คน

อินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ลอรีอัลในฐานะบริษัทที่มีอุตสาหกรรมการผลิตได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมโดยการให้ความสำคัญและดำเนินการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าเป็นลำดับแรก 

  • ตั้งแต่ปี 2005 บริษัทฯ ได้ลดการปล่อยก๊าซคอร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าลงถึง 78% เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปี 2020 ที่ตั้งไว้ 60% ในขณะที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น 37% ในช่วงเวลาเดียวกัน
  • ปลายปี 2019 ลอรีอัลมีโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิออกสู่ชั้นบรรยากาศ (ใช้พลังงานทดแทน 100%) ถึง 35 แห่ง โดยเป็นโรงงานถึง 14 แห่ง
  • 85% ของผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นใหม่หรือปรับสูตรในปี 2019 ได้รับการพัฒนาคุณลักษณะให้เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมหรือสังคมมากขึ้น
  • ในปี 2019 ลอรีอัลได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในการทำงานจำนวน 90,635 คน โดยตั้งเป้าช่วยเหลือให้ได้ 100,000 คน ภายในสิ้นปี 2020 
Tags: