ในแต่ละวันของเรา มีเรื่องราวหรือเหตุการณ์น่าจดจำมากมายเกิดขึ้น เราอาจบันทึกช่วงเวลาเหล่านี้ไว้ด้วยการถ่ายภาพ จดบันทึก วาดรูป หรือแต่งเพลง เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกขณะนั้นออกมาเก็บไว้เพื่อเป็นเครื่องรำลึกเมื่อเวลาผ่านไป

ทว่าในบางช่วงเวลาแสนสำคัญของชีวิตที่เราอยู่ในภาวะพิเศษ เราอาจรู้สึก แต่กลับไม่สามารถจดจำได้ เช่น ภาวะที่เราอยู่ในครรภ์ ฟังเสียงหัวใจแม่เต้นตลอดระยะเวลา 9 เดือน เราจะบันทึกหรือถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างไร?

เพื่อถ่ายทอดช่วงเวลาดีๆ ของแม่ลูกในช่วงเวลาดังกล่าว สองศิลปิน โจนัส เดปท์ และ โอ๊ต มณเฑียร เฟ้นหาวิธีฉายภาพความทรงจำน่าประทับใจ โดยใช้การทำงานร่วมกันระหว่าง ‘เสียง’ และ ‘ภาพ’ออกมาเป็นการแสดงผลงานโสตทัศนศิลป์ กลางห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม กับกิจกรรม Live in the Moment เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา

คุณโอ๊ต มณเฑียร เล่าที่มาของโปรเจกต์พิเศษที่ร่วมกับห้างฯ เอ็มโพเรียมนี้ว่า “การที่เราเลือกใช้พื้นที่ในบริเวณห้างสรรพสินค้านั้นมีนัยะสำคัญ คือ เราพยายามสื่อว่าการแสดงศิลปะนั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย สามารถมาอยู่ในบรรยากาศที่คุ้นเคย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นประสบการณ์ใหม่ด้วย โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ชมที่เป็นคุณแม่ พวกเขาอาจจะไม่ได้ไปแกลเลอรีศิลปะร่วมสมัยบ่อยนัก เราเลยเอางานศิลปะมาให้พวกเขามีส่วนร่วมที่นี่เลย…เพราะงานศิลปะไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในหอศิลป์เสมอไป”

การสร้างสรรค์ผลงานเริ่มต้นด้วยการติดเครื่องมือขยายเสียงบนอกแม่ เสียงหัวใจได้ถ่ายทอดออกมาดังก้องไปทั่วอาณาบริเวณห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม ชั้น G จากนั้นโจนัส เดปท์ก็เริ่มบรรเลงเปียโนตามจังหวะหัวใจ ทั้งนี้ จังหวะการเต้นของหัวใจนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละคู่แม่-ลูก บ้างก็ช้า บ้างก็เร็ว “บริเวณพื้นที่ E-space ชั้น G กลางห้างฯ เอ็มโพเรียม ได้รับการเนรมิตให้เป็นเสมือนพื้นที่จัดแสดงศิลปะ Happening Art และบรรยากาศความอบอุ่นของครอบครัวผู้ใช้บริการห้างในวันนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะนั้นๆ ด้วย” คุณโอ๊ตกล่าว

ยกตัวอย่างคู่แม่-ลูก ขันเงิน เนื้อนวล หรือ ขันเงิน ไทยเทเนียมกับคุณแม่ ที่มาร่วมงาน Live in the Moment ที่เอ็มโพเรียม เมื่อ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา วันนั้นถือเป็นวันที่มีความหมายซึ่งขันเงินได้ทุ่มเทเวลาให้เต็มที่ เพราะในวันปกติ ด้วยภาระงานที่ยุ่ง ทำให้ทั้งคู่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกัน แม้ทั้งคู่ขอเพลงโจนัสอย่างติดตลกว่า “ขอฮิปฮอปนะ” แต่โจนัสก็ตอบว่าไม่สามารถบรรเลงสไตล์ฮิปฮอปได้เพราะหัวใจคุณแม่เต้นช้า

หลังจากที่โจนัสเริ่มบรรเลงเปียโนอย่างไพเราะ โอ๊ต มณเฑียร พร้อมแท่งถ่านชาร์โคลหรือถ่านเถาองุ่นในมือก็ตวัดวาดภาพพอร์ทเทรตแม่-ลูกเจ้าของเสียงหัวใจที่ดังอยู่ขณะนั้นลงบนแผ่นกระดาษขนาด 1.20 เมตร อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งโอ๊ตเล่าให้ฟังว่า การวาดภาพแบบนี้ก็เหมือนการไลฟ์สด ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความเสมือนจริงของรูปวาด แต่คือความ ‘เป็น’ ของภาพต่างหาก

“พอเป็นไลฟ์ ความเหมือนหรือ realistic มันไม่ใช่ประเด็น แต่จะวาดรูปยังไงให้มัน ‘เป็น’ วาดรูปเป็นสำหรับเราก็คือ วาดรูปแล้วไม่ตาย คือรูปที่มันต้องมีพลังงานชีวิตอยู่ในนั้น ดนตรีก็เหมือนกัน คือทำยังไงให้มันไลฟ์ ไม่คิดเรื่องทำสวย ให้มันเพอร์เฟ็กต์ ให้คิดว่าเราเหมือนเป็นเครื่องดนตรีอย่างหนึ่ง”

การคาดเดาไม่ได้ว่าภาพวาดแต่ละชิ้นจากแม่ลูกแต่ละคู่จะเป็นอย่างไรนี่เอง ที่ทำให้โอ๊ตบอกว่า รู้สึกสนุก เขาบอกว่าถ้าศิลปะเป็นอะไรที่เดาได้ มันก็ไม่สนุก ศิลปะควรจะเป็นอะไรที่ใหม่ เป็นอะไรที่จะพาคนไปในที่ที่เขาไม่เคยไปมาก่อน

การสร้างสรรค์ผลงานแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างการบรรเลงเปียโนและการวาดภาพของศิลปินทั้งสอง พวกเขาจะหันมองกันอยู่เรื่อยๆ โอ๊ตอธิบายว่า การทำงานร่วมกันคือการแปลเสียงเป็นรูปและรูปเป็นเสียง เช่น ถ้าเสียงดัง เส้นควรจะเป็นแบบไหน

“เป็นเหมือนคำศัพท์ร่วม เช่น คำว่าลึก ซาวด์มันจะเป็นยังไง เส้นมันจะเป็นยังไง ความเร็วมันจะเป็นยังไง เหมือนเป็นคำศัพท์ที่เราต้องสร้างร่วมกันในฐานะศิลปิน ซึ่งถ้าคนตั้งใจดูก็จะเห็นรายละเอียดเหล่านี้ สำหรับคนผ่านไปมา มันก็เป็นอะไรที่สวยงาม เราว่า เป็น Treasurable experience คือไม่ต้องตั้งใจดูมากก็ได้ แต่ถ้าตั้งใจดูก็จะเห็นเราแสดงอะไรบางอย่าง มี System บางอย่าง”

เมื่อการสร้างสรรค์ผลงานจบลง ก็ได้รูปภาพพอร์ทเทรตคู่แม่-ลูกออกมามอบเป็นของขวัญสุดประทับใจแก่เจ้าของเสียงหัวใจหลายๆ คู่ เช่น ซินดี้-สิรินยา บิชอพและลูกๆ คุณแมงมุม-ม.ร.ว. ศรีคำรุ้ง ยุคลและหม่อมแม่กมลา ยุคล ณ อยุธยา ดวง-วรรณพร โปษยานนท์และคุณแม่ และขันเงิน ไทเทเนียมกับคุณแม่ เป็นต้น

ผลงานภาพวาดและเสียงเปียโนจากสองศิลปิน โจนัส เดปท์ และ โอ๊ต มณเฑียร เป็นเสมือนตัวแทนบันทึกช่วงเวลาสั้นๆ อันเปี่ยมความหมายที่คู่แม่-ลูกได้มาอยู่ด้วยกันในวันสำคัญเช่นนี้ รายล้อมด้วยบรรยากาศของเอ็มโพเรียม ดีพาร์ตเม้นท์สโตร์ ห้างสรรพสินค้าที่อยู่คู่คนไทยมานานนับสองทศวรรษ เป็นฉากหลังแห่งความผูกพันของคนในครอบครัวต่างๆ มาเนิ่นนาน งานศิลป์สองแขนงที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงแต่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของศิลปินในช่วงเวลานั้น แต่ยังถ่ายทอดมุมมองของศิลปินที่มีต่อความรักความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกอีกด้วย เตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนถัดไปได้ที่เอ็มโพเรียม ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

Tags: , , , ,