เดิมที่ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ Latest Recipe ของโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ จะหมุนเวียนอาหารไปตามเทศกาลอยู่บ้าง เช่น เทศกาลอาหารฝรั่งเศส เทศกาลอาหารเกาหลี เป็นต้น แต่เพื่อให้สอดคล้องกันแบรนด์เลอ เมอริเดียนทั่วโลกที่เน้นความเป็นไลฟ์สไตล์ และสะท้อนแง่คิดการใช้ชีวิตตามแบบฉบับชาวยุโรป ‘La Dolce Vita’ ถ้าแปลเป็นไทยก็ ‘ชีวิตอันแสนหวาน’ เป็นวิถีชาวยุโรปที่เน้นใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและความรื่นรมย์

ห้องอาหาร Latest Recipe จึงเปลี่ยนโฉมหน้าตาอาหารใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘La Dolce Vita, From Nice to Portofino + The Heart of Asia’ โดยเชฟชาวอิตาเลียน มาร์โค คัมมาราตา หัวหน้าเชฟของโรงแรม ได้แรงบันดาลใจในการปรุงอาหารมาจากบริเวณแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เฉพาะบริเวณเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ไปจนถึงเมืองพอตโตฟีโน่ ประเทศอิตาลี และเพิ่มเติมด้วยอาหารหลากหลายที่ดังๆ ในเอเชีย

ขณะที่คิลเลียน โดโนฮูว ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ ก็บอกกับผมว่าที่เปลี่ยนคอนเซ็ปต์บุฟเฟ่ต์ใหม่เพราะไม่อยากให้เหมือนกับบุฟเฟ่ต์โรงแรมอื่น หรืออาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่หาทานได้ทั่วไป

และถึงแม้จะเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีอาหารหลากหลายให้เลือก แต่เราก็สามารถเพลิดเพลินเดินดูอาหารแต่ละอย่างได้โดยง่าย ไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด เพราะเน้นจัดวางแยกอาหารแต่ละประเภทเป็นสเตชั่น ทั้งอาหารยุโรปแบบเมดิเตอร์เรเนียน หรืออาหารเอเชียก็มีแยกเฉพาะชัดเจน

มันก็เลยเป็นเหมือนความสนุกที่เราจะได้เดินดูอาหารไปเรื่อยๆ มีเชฟประจำการอยู่แต่ละสเตชั่นคอยทำหน้านี้ปรุงอาหารตามที่เราต้องการ ยกตัวอย่าง  มุมไลฟ์สเตชั่น ที่มีเมนู 4 – 5 อย่างให้เราเลือก เช่น รีซอตโต้สตรอว์เบอร์รี, ฟัวกรา, สแกลล็อปทาร์ทาร์, ไข่ลวกสไตล์อิตาเลียนปรุงที่อุณหภูมิ 63 องศา โดยเชฟจะปรุงให้เราสดๆ เดี๋ยวนั้นเลย

ส่วนถ้าจะเน้นไปที่อาหารที่มีกลิ่นอายทะเลเมดิเตอ์เรเนียนก็ต้องเดินมาที่  ‘มุมอาหารสูตรลับจากเมดิเตอร์เรเนียน’ ที่คัดสรรอาหารทะเลสดๆ เช่น หอยนางรม หอยแมลงภู่ หอยหลอด กุ้ง ปลาหมึก และปูม้า รับรองว่ารสชาติไม่ผิดหวังแน่นอน

ใกล้ๆ กับอาหารทะเล เหลือบไปเห็น ‘มุมปลาแซลมอน’ ที่สดถึงขนาดนำปลาตัวเป็นๆ มาวางอยู่ และเราสามารถเลือกได้ว่าอยากทานรสชาติแบบไหน ซึ่งมีถึงสามรสชาติ หนึ่งในนั้นคือปลาแซลมอนรมควัน ที่เชฟจะแล่เนื้อปลาแซลมอนบางๆ มาให้เรา พร้อมกับเลมอนให้เราบีบใส่เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว

ส่วนคนรักสุขภาพ ก็มีมุมสลัดเพื่อสุขภาพให้เลือกปรุงแต่งเองได้ตามใจชอบ และสำหรับคนรักเส้น ก็ต้องไปที่ ‘มุมพาสต้า’ เพราะเส้นพาสต้าจะทำสดใหม่ทุกวัน และมีซอสให้เลือกหลากหลาย แล้วต่อด้วย ‘มุมอาหารย่าง’ ที่มีเนื้อแกะ เนื้อวัวคุณภาพพรีเมียม อยู่ที่ว่าอยากทานเนื้ออะไร ส่วนไหน จะเอาแบบติดมันหรือไม่ บอกเชฟได้เลย เขาจะจัดให้ได้หมด เนื้อวัวที่เราเลือกในวันนั้นก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเหนียวนุ่มกำลังดี  

พิซซ่าจากอิตาลีถือเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะมีให้เลือกหลากหลายหน้า และอบกันสดๆ จากเตาตรงนั้นเลย รอไม่นานก็นำมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ขนาดกำลังดี ถาดหนึ่งตัดแบ่งได้ 4 ชิ้น เนื้อแป้งกรอบนุ่ม ไม่หนาจนเกินไป ส่วนอาหารเอเชียก็มีมุมอาหารเส้น ซึ่งรวมเมนูเส้นทั่วเอเซียมาให้เราทาน รวมทั้งมุมอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งซาซิมิและซูชิ

สำหรับใครเป็นสายของหวาน อย่าพลาดด้วยประการทั้งปวง กับมุมขนมหวาน ที่เชฟได้จัดเต็มทั้งเอแคลร์ซิกเนเจอร์ของแบรนด์เลอ เมอริเดียน สารพัดเค้กที่เลือกไม่ถูก และไอศกรีมหลากหลายรสชาติที่เราจะบอกให้เชฟผัดแบบเทปันยากิใส่ท็อปปิ้ง หรือจะทานเป็นไอศครีมอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

Fact Box

  • สำหรับบุฟเฟ่ต์คอนเซ็ปต์ใหมนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป
    • มื้อกลางวัน (วันจันทร์ -วันเสาร์ เวลา 12:00 น. - 14:30 น.)  ราคา 900 บาท
    • มื้อค่ำ (วันพฤหัสบดี - วันเสาร์ เวลา 18:00 น. - 21.30 น.)  ราคา 1,100 บาท
    • มื้อบรันช์วันอาทิตย์ (เวลา 12:30 น. - 16:30 น.) ราคา 1,700 บาท
      *ราคาข้างต้นเป็นราคาสุทธิต่อท่าน และรวมเครื่องดื่มแบบไม่อั้น*
  • ห้องอาหารเลเทส เรซิพี ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ (ถนนสุรวงศ์)  โทร. 0-2232-8888 และเว็บไซต์ www.lemeridienbangkokpatpong.com
Tags: , , , , , ,