หากใครเป็นแฟนเพลงไทยยุค 80-90 คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินบทเพลงอันร่มรื่นราวกับจิบกาแฟใต้เงาไม้ใหญ่ของวงเฉลียง ไม่ว่าจะเป็น นิทานหิ่งห้อย เที่ยวละไม เอกเขนก ซึ่งทุกบทเพลงต่างถูกประพันธ์ขึ้นด้วยอารมณ์สุนทรีย์ ที่พาเรามองนานาเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สวยงามและสดใสกว่าเดิม

สมาชิกวงเฉลียงในอดีต มาถึงทุกวันนี้ต่างก็ได้กลายเป็นต้นแบบ เป็นไอดอล และเป็น ‘ครูเพลง’ ของวงการดนตรีไทย ไม่ว่าจะเป็น ประภาส ชลศรานนท์, ดี้ – นิติพงษ์ ห่อนาค, เจี๊ยบ – วัชระ ปานเอี่ยม, แต๋ง – ภูษิต ไล้ทอง, เกี๊ยง-เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์, นก-ฉัตรชัย ดุริยประณีต และ จุ้ย – ศุ บุญเลี้ยง

ถึงแม้สมาชิกวงเฉลียงหลายคนอาจจะผันตัวไปทำงานหลังม่านและเริ่มห่างหายไปจากวงการ แต่ความรักในโลกศิลปะของพวกเขายังคงไม่เสื่อมคลาย ทำให้เรายังคงเห็นงานสร้างสรรค์ที่มีชื่อของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง

ล่าสุด จุ้ย หรือ ศุ บุญเลี้ยง กำลังจะมีผลงานเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก (KokKokKok)’ เพลงซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ที่เขารับหน้าที่แต่งเนื้อร้องและทำนอง ก่อนจะมอบให้สามนักร้องสาวเสียงดีเป็นผู้ขับขานเนื้อร้อง และหนึ่งในนั้นคือ เพลงขวัญ ปานเอี่ยม ลูกสาวแท้ๆของ เจี๊ยบ – วัชระ ปานเอี่ยม

ถ้าหากใครได้ฟังแล้ว คงจะค่อนข้างสงสัยถึงท่าทีและน้ำเสียงของผู้ประพันธ์ เนื่องจากจุ้ยไม่เคยแต่งเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง

ด้วยความสนใจถึงที่มาที่ไปของเพลง ก๊อก ก๊อก ก๊อก เราจึงมีโอกาสต่อสายพูดคุยกับหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังผลงานอย่าง จ๋า – พวงมณี บุญเลี้ยง ผู้จัดการกะทิกะลาแลนด์และภรรยาที่ร่วมผ่านร้อนหนาวของจุ้ย

เธอเล่าให้เราฟังว่า เพลงนี้เริ่มต้นจากวงสนทนาเล็กๆ กับมิตรสหายที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำในบ้านของจุ้ยและจ๋า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างร่มรื่นเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งมิตรคนหนึ่งจุดพลุขึ้นมา ว่าอยากให้จุ้ยลองแต่งเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองบ้าง

ร่วมไปกับกระแสการกลับมารวมตัวจัดคอนเสิร์ตของเกิร์ลกรุ๊ป อย่างวงสาว สาว สาว ของค่ายรถไฟดนตรีที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น ซึ่งมาแรงจนทำให้จุ้ยเก็บไปฝัน ก่อนนำเพลงประตูหัวใจ มาดัดแปลงออกมาเป็นเพลง ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ ที่มีเนื้อร้องถึงความโหยหาการเลือกตั้งและกลิ่นไอของประชาธิปไตยซึ่งห่างหายจากสังคมไทยนานกว่า 5 ปี

โดยเขายังคงยึดน้ำเสียงและจังหวะจะโคนทางดนตรีที่รื่นรมย์ งดงาม ไม่ขึงขัง บอกเล่าเรื่องราวที่มีเนื้อหาหนักอย่างการเมืองให้ดูซอฟต์และน่ารักชวนหัว พร้อมกับชวนนักร้องสาวรุ่นใหม่สามคนให้มาร้องนำ  ยิ่งเพิ่มความสดใสให้กับบทเพลงยิ่งขึ้น

“หายไปไหนมา ประชาธิปไตย แวบมาแวบไป หรือใครช่วงชิง
            จากกันหลายปี ลี้ภัยพึ่งพิง รักเธอจริงๆ ขอทวง คืนมา”

– บางส่วนจากเนื้อเพลง ก๊อก ก๊อก ก๊อก – ศุ บุญเลี้ยง

เพราะว่าทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการเมืองได้ แต่ถ้าให้ขึงขังติดตามทุกความเคลื่อนไหวก็คงจะน่าคลื่นเหียนเวียนหัวเกินไป บทเพลงนี้จึงเปรียบเสมือนเสียงของศุ บุญเลี้ยงที่พยายามชักชวนให้หลายๆ คนหันมาสนใจผลกระทบและความสำคัญของการเมืองอย่างพอหอมปากหอมคอ ไม่จำเป็นต้องมากเกินแต่อย่าให้ถึงกับละเลย เพราะสำหรับเขา การเมืองไม่ใช่เรื่องน่ากลัว และความขัดแย้งแข่งขันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ตั้งแต่ยังเป็นอสุจิ

แม้ว่าบริบทการเมืองไทยในขณะนี้ จะตลบอบอวลไปด้วยความมาคุสับสน ทั้งจุ้ยและจ๋าก็ยังมั่นใจในพลังของดนตรีว่าสามารถผลักความเคลื่อนไหวและเปิดบทสนทนาให้สังคม โดยหวังเพียงให้ดนตรียังเป็นพื้นที่เสรีภาพที่พวกเขาสามารถปลดปล่อยสุนทรียะทางความคิด และถ้าหากมันทำให้ใครหันมาสนใจความสำคัญของการเมืองและการเลือกตั้งได้บ้างก็นับว่าสำเร็จไประดับหนึ่ง

เพลง ก๊อก ก๊อก ก๊อก – ศุ บุญเลี้ยง