‘กินอยู่ได้ at สามเสน’ ร้านอาหารไทยน้องใหม่ สไตล์คลาสสิกโฮมเมด

‘สามเสน’ นับเป็นย่านที่มีร้านอาหารไทยเก่าแก่ยืนหยัดอยู่นาน แทบไม่ค่อยจะเปลี่ยนหน้า เมื่อ ‘กินอยู่ได้ at สามเสน’ ร้านอาหารไทยร้านใหม่ในบ้านสีขาวเปิดตัวขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ดูจะดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาไม่น้อยเลยทีเดียว จากภาพรถที่จอดอยู่เต็มหน้าร้าน

  ‘กินอยู่ได้ at สามเสน’ เป็นร้านอาหารใหม่ในเครือ BNF Holding ดูแลโดยคุณเบียร์—ปิยะเลิศ ใบหยก ผู้คลุกคลีกับธุรกิจอาหารมาตั้งแต่เขาจำความได้ หลายคนอาจรู้สึกคุ้นๆ กับชื่อร้าน เพราะสาขาแรกของร้านนี้คือ ‘กินอยู่ได้ at เชียงใหม่’ 

คุณเบียร์—ปิยะเลิศ ใบหยก

คุณเบียร์เล่าว่า “พอดีพี่อ๊อด (xxxxxxx)—เจ้าของเป็นรุ่นพี่ของเพื่อน และถือเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกัน ผมเองก็อยากทำร้านอาหารไทยมานานมากแล้ว ปกติผมไปเชียงใหม่ค่อนข้างบ่อยเพราะมีโรงแรมอยู่ เพื่อนก็บอกให้ลองไปกินอาหารที่ ‘กินอยู่ได้ at เชียงใหม่’ พอลองแล้วรู้สึกว่าน่าจะเปิดที่กรุงเทพฯ ได้ เพราะเป็นร้านที่มีคอนเซ็ปต์ มีคาแร็กเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหามานานแล้ว เป็นอาหารแบบที่เหมือนถ้าคุณมาเที่ยวบ้านผม ก็จะได้ชิมอาหารที่คุณยายหรือคุณแม่ผมทำให้ทาน เป็นอาหารไทยแท้ เหมือนอาหารเลี้ยงรับรองแขกที่มาที่บ้าน”

  แม้เขาจะอยู่ในวงการอาหารมานาน แต่คุณเบียร์บอกว่าที่ผ่านมานั้น ธุรกิจร้านอาหารของเครือ BNF Holding ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ‘กินอยู่ได้ at สามเสน’  จึงถือเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของบริษัท 

คอนเซ็ปต์ของร้านใหม่นี้ดูจะลงตัวพอดีกับพื้นที่บริเวณถนนเศรษฐศิริที่คุณเบียร์เป็นเจ้าของ “ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่มีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล ออฟฟิศ ข้าราชการก็เยอะ ผู้ใหญ่เยอะ พอไปเจอแบรนด์นี้ก็เลยคิดว่าต้องเป็นที่นี่แหละ ลงตัวที่สุดแล้ว แขกก็ตรงตามที่เราต้องการ คือเป็นผู้ใหญ่ที่มาทาน บางทีก็มาปิดห้องส่วนตัว คุยงานกันทานอาหารไปด้วย

  “ผมก็เลยเริ่มติดต่อพี่อ๊อดที่เป็นเจ้าของร้าน ‘กินอยู่ได้ at เชียงใหม่’ ว่าอยากเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ ตอนแรกพี่อ๊อดยังไม่อยากขยายสาขา เพราะแกก็ทำอาหารเองด้วย ผมเลยบอกว่าผมมีทีมทำอาหาร ส่งทีมมาฝึกด้วยเลย ยกคอนเซ็ปต์มาได้เลย พี่อ๊อดเลยตอบตกลง”

น้ำพริกกากหมู

…

‘กินอยู่ได้ at สามเสน’ นำเสนออาหารไทยสไตล์คลาสสิกโฮมเมดจากทั่วทุกภูมิภาคโดยถอดแบบมาจากร้านที่เชียงใหม่ไม่ผิดเพี้ยน เมนูแนะนำอย่าง ‘สามชั้นคั่วพริกเกลือ’ ที่นำสามชั้นกรอบมาปรุงรสให้กลมกล่อม ‘น้ำพริกกากหมู’ รสจัดจ้าน ที่มีเท็กซ์เจอร์ไม่แห้งและไม่กรอบเกินไป หรือ ‘แกงรัญจวนตำรับโบราณ’ ไปจนถึง ‘ไข่พะโล้และไข่ลูกสะใภ้’ ที่จับคู่ไข่เป็ดดาวเข้ากับซอสมะขาม หอมเจียวและพริกแห้ง เสิร์ฟคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมข้าวหอมมะลิ เป็นแค่ตัวอย่างย่อมๆ ที่น่าลิ้มลองมาก

นอกจากเมนูกับข้าวแล้ว ทางร้านยังมีอาหารจานเดียวไว้บริการ และเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็คือเมนูเดียวกันกับร้านที่เชียงใหม่ เพิ่มเติมเข้ามาคือเครื่องดื่ม ของหวานและไอศกรีมรสชาติไทยๆ ที่บอกได้ว่าเด็ดไม่แพ้อาหารเลย

แกงรัญจวนตำรับโบราณ

สามชั้นคั่วพริกเกลือ

  ไม่นับรสชาติอาหารไทยแบบโฮมเมดที่น่าจะถูกปากใครหลายๆ คนแล้ว จุดเด่นอีกอย่างของร้านนี้ คือราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ไม่ยากในราคารเริ่มต้นที่สองหน่วย

“ผมว่าบรรยากาศร้านนั้นสำคัญมาก จะทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้สึกดี แต่แน่นอนว่าเรื่องราคาก็สำคัญเหมือนกัน ผมมองว่าถ้าถูกกว่านี้เราก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะเราใช้วัตถุดิบในการทำอาหารและจานช้อนส้อมชั้นดีทั้งหมด แต่เราก็พยายามตั้งให้ไม่สูงจนเกินไป เพราะเราอยากให้คนมาแล้วรู้สึกว่า วันนี้พาเพื่อนมา พรุ่งนี้พาแม่มา อีกวันมาทานกับแฟนก็ได้ ไม่ใช่ว่ามาลองกินครั้งเดียว หรือถ่ายรูปแล้วจบ อยากให้แวะมาได้เรื่อยๆ มากกว่า ซึ่งก็สอดคล้องกับชื่อร้าน ‘กินอยู่ได้ at สามเสน’ จริงๆ ร้านทางเชียงใหม่เขาเป็นบีแอนด์บีด้วย ก็เลยตั้งชื่อว่า ‘กินอยู่ได้’ เพราะทั้งมากินก็ได้ มาอยู่ก็ได้ และอีกความหมายคือมากินบ่อยๆ ก็เรียกว่า ‘กินอยู่ได้’ เหมือนกัน เป็นชื่อที่เก๋และลงตัว”

  แม้ ‘กินอยู่ได้ at สามเสน’ จะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ฟีดแบ็คจากลูกค้ารวมถึงขาประจำที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้คุณเบียร์เริ่มคิดถึงก้าวต่อไปแล้ว 

ไข่พะโล้และไข่ลูกสะใภ้

“พอนำแบรนด์นี้มาเปิดที่กรุงเทพฯ ผมก็เตรียมจะเปิดหลายสาขาอยู่แล้วครับ เราคิดถึงเรื่องแบรนดิ้งเรียบร้อย ตอนนี้ก็กำลังหาโลเคชั่นอยู่ มีห้างฯ ติดต่อมาเหมือนกัน แต่เรายังพิจารณาอยู่เรื่องขนาดและพื้นที่ของร้าน เพราะมันควรจะเป็นอารมณ์บ้านนิดๆ  มีที่จอดรถ เหมือนเข้ามาทานข้าวบ้านเพื่อน ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ดั้งเดิมของร้าน 

“ผมว่าธุรกิจอาหารยังไปต่อได้ครับ แต่ต้องทำให้ถูกจริตคนไทย คนไทยชอบทานของอร่อย อาหารเอเชียก็ทาน ฝรั่งก็ทาน แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุดน่าจะเป็นอาหารไทยอยู่ดี”

คุณเบียร์ปรารภทิ้งท้ายว่า “นี่ไม่รู้จะฟุ้งรึเปล่านะ…แต่ผมอยากไปเปิดที่ญี่ปุ่นด้วย เพราะเราไปเปิดร้านราเมงที่ญี่ปุ่นก็ประสบความสำเร็จอยู่ คิดว่าอาหารไทยน่าจะไปได้เหมือนกัน แต่คงต้องรอให้ผ่านช่วงโควิดไปก่อน”