ปีนี้ถือเป็นปีทองของช็อกโกแลตไทยก็ว่าได้ ต้องขอบคุณกลุ่ม Chocolate Maker สัญชาติไทย อย่าง Kad Kokoa (กาดโกโก้) ที่นำผลโกโก้ที่ปลูกในไทยมาแปรรูปเป็นช็อกโกแลตแบบแท่ง (Bean-to-Bar Chocolate) ที่มีรสชาติดี ทำให้คอช็อกโกแลตที่ได้ลิ้มลองรู้ทันทีว่าคุณภาพของโกโก้ที่ปลูกในไทยไม่ได้ด้อยไปกว่าของเมืองนอกเลย

คุณต้า-ณัฐญา ชุลหสวัสดิกุล และคุณต้น-ปณิธิ ชุลหสวัสดิกุล คู่สามีภรรยาผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ช็อกโกแลตไทย Kad Kokoa เล่าให้ฟังว่าจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจช็อกโกแลตเกิดจากทั้งคู่ได้มีโอกาสขับบิ๊กไบค์ท่องเที่ยวตามถนนหนทางในจังหวัดต่างๆ ของภาคเหนือ และพบสวนโกโก้แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่โดยบังเอิญ ความสนใจในผลโกโก้ไทยจึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นาทีนั้นและตัดสินใจซื้อที่ดินผืนดังกล่าวในเวลาต่อมา

เมื่อทั้งคู่มีแผนจะเปิดคาเฟ่ช็อกโกแลตในกรุงเทพฯ ก็ได้ยกบ้านไม้และยุ้งข้าวจากสวนโกโก้ใส่ตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งไว้ในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 17 และนำคำว่า กาด ซึ่งแปลว่า ตลาดในภาษาเหนือมาตั้งเป็นชื่อร้านที่ให้กลิ่นอายของแหล่งที่มาของธุรกิจนี้

ภายในบริเวณร้าน Kad Kokoa ถูกแบ่งพื้นที่หลักออกเป็นอาคารสองหลังอย่างลงตัว โดยส่วนแรกจะเป็นจุดที่เมล็ดโกโก้ถูกแปรรูปออกมาเป็นช็อกโกแลตแท่งซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นในบ้านที่มีลักษณะคล้ายกับโรงงานซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ผลิตช็อกโกแลต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคั่วเมล็ดโกโก้ รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการบด Cocoa Nib (ส่วนของเมล็ดโกโก้เมื่อกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว) เพื่อให้ได้ช็อกโกแลตเหลวที่พร้อมจะนำมาทำเป็นช็อกโกแลตแท่ง ซึ่งเราสามารถสัมผัสประสบการณ์ขั้นตอนการผลิตทั้งหมดนี้ได้ผ่านกระจกหน้าต่างใส

เมื่อเราเดินมายังด้านหน้าของอาคารแรกก็จะพบกับร้านขายช็อกโกแลตซึ่งมีทั้งช็อกโกแลตที่ทำมาจากเมล็ดโกโก้จากที่ใดที่หนึ่งเพียงแห่งเดียวหรือที่เรียกว่า Single-Origin Cocoa Bean โดยทางร้านได้รวบรวมมาจากจังหวัดต่างๆ เช่น ชุมพร เชียงใหม่ จันทบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ 

ซึ่งช็อกโกแลตที่ได้จากเมล็ดโกโก้จากแต่ละแหล่งเพาะปลูกจะมีรสชาติต่างกันตามภูมิประเทศ เช่น ช็อกโกแลตจากชุมพรจะมีรสชาติถั่วนำตามด้วยผลไม้เล็กน้อย ขณะที่ช็อกโกแลตจากจันทบุรีจะมีรสชาติของผลไม้เมืองร้อนนำเป็นหลัก นอกจากนั้นทางร้านยังมีผลิตภัณฑ์ Limited Edition วางขาย เช่นช็อกโกแลตที่นำไปผสมกับกาแฟเป็นมอคค่า หรือนำไปผสมกับไวน์หรือเหล้าสำหรับดื่มก่อนอาหาร (Aperitif) ซึ่งจะทำให้มีรสชาติที่หลากหลายขึ้น

Vanilla Mousse

Orange Blossom

พื้นที่อีกส่วนบริเวณคาเฟ่ ทาง Kad Kokoa ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตเมล็ดกาแฟอย่าง Bluekoff เพื่อรังสรรค์เครื่องดื่มต่างๆ ใครที่ชอบดื่มโกโก้ร้อน เราขอแนะนำ Vanilla Mousse (150 บาท) เครื่องดื่มช็อกโกแลตจันทบุรี 70% เทรวมกับนมร้อน ท้อปหน้าด้วยมูสวนิลา มีรสชาติไม่เข้มและไม่หวานจนเกินไป ส่วนเครื่องดื่มเย็นต้องลอง Orange Blossom ( 150 บาท) ใช้เมล็ดโกโก้จากจันทบุรีเช่นกัน ให้รสชาติของผลไม้เขตร้อน เข้ากันได้ดีกับน้ำดอกส้ม (Orange Blossom Water) โรยด้วยผิวส้มและส้มแช่อิ่ม ให้ความสดชื่นเวลาดื่ม นอกจากช็อกโกแลตแล้วก็ยังมีกาแฟซึ่งใช้เครื่องทำกาแฟ Modbar สุดเท่ และมี Nitro Cold Brew สำหรับคอกาแฟอีกด้วย

Kad Meringue Ice Choc

ส่วนขนมหวานที่มีช็อกโกแลตสัญชาติไทยเป็นส่วนประกอบ เช่น Kad Meringue Ice Choc (165 บาท) ไอศกรีมที่มีรสสัมผัสกรุบกรอบจากขนมผิง เข้าได้ดีกับเมอแรงค์ ทานตัดกับซอสช็อกโกแลตเข้มข้น

ช่วงนี้ยังเป็นช่วง Soft Opening ของทางร้าน  ถ้าเปิดอย่างเป็นทางการ รับรองได้เลยว่าเครื่องดื่มและขนมจะหลากหลายมากขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

Fact Box

  • Kad Kokoa ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 17  เปิดบริการทุกวันเวลา 9.00-17.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) โทร. 08-3684-3921
  • Kad Kokoa ปิดให้บริการชั่วคราวจะเปิดให้บริการอีกทีวันที่ 12 สิงหาคม 2561

Tags: , , , ,