วันนี้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป กำลังตั้งตารอผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบหรือไม่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งตามกำหนดการจะมีการแถลงผลในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 มีนาคม 2562

คดีนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติตัดสินใจเสนอพระนามของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียวของพรรค เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งปลุกสังคมให้เกิดกระแสความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งตื่นเต้น ลังเลใจ ตลอดจนคัดค้านอย่างรุนแรง

จนกระทั่งเวลาล่วงเลยจนถึง 22.40 ของวันเดียวกัน เกมส์การเมืองก็พลิกกลับอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ใจความว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นศูนย์รวมและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทย พระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงดำรงสถานะอยู่เหนือการเมือง

จากนั้นก็ส่งผลให้เกิดกระแสตีกลับทางการเมือง คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ตัดสินใจพิจารณาคำร้องให้ตรวจสอบการเสนอชื่อนายกฯ ของพรรคไทยรักษาชาติว่าเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92(2) กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

หากพรรคไทยรักษาชาติถูกศาลตัดสินยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คนจะถูกลงโทษตามมาตรา 94 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งห้ามให้ผู้ที่เคยดํารงตําแหน่งกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบ และถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่พรรคการเมืองถูกยุบ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจําคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงสิบห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสามแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติมีทั้งหมด 14 คน ได้แก่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ, ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1,  สุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2, พฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3, พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4, รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค (ลาออกแล้ว), จุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค, มิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค, ต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคคนที่ 1, วิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค, คณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรคคนที่ 3, พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค, ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค และวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรร

นอกจากนี้ บทลงโทษตามมาตรา 92 วรรค 2 ของ พ.ร.ป.พรรคพรรคการเมือง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นด้วย โดยกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไว้

Tags: , , , ,