ปกติแล้วการหลับในเวลาทำงานอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดูดีเท่าไรนัก แต่ตอนนี้หลายบริษัทในญี่ปุ่นหันมาเสนอแนวคิดและนโยบายให้พนักงานสามารถงีบหลับในเวลางาน เพื่อสุขภาพที่ดีและประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น

ปัจจุบันหลายๆ บริษัทในญี่ปุ่นถึงกับมีนโยบายสร้าง Special Area ให้พนักงานได้งีบสั้นๆ และบางบริษัทก็เลือกที่จะให้การอบรมและให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการพักผ่อนให้พนักงาน ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากการเข้ามาของสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีที่ถูกมองว่าทำให้คนนอนน้อยลง จน ‘Sleep Debt’ ที่หมายถึงการพักผ่อนน้อยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายกลายเป็นคำยอดฮิตของคนญี่ปุ่น

Nextbeat Co สตาร์ทอัปที่มีฐานอยู่ในญี่ปุ่น ได้สร้างห้องสำหรับนอนที่ชื่อว่า Strategic Sleeping Room หรือห้องนอนสำหรับพนักงานซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างเพิ่มอีก นอกจากนั้น แผนกไอทีของ Nextbeat Co ยังติดตั้งเครื่องกันเสียงรบกวน โซฟา กลิ่นอโรมา และห้ามพนักงานใช้มือถือและคอมพิวเตอร์ในห้องดังกล่าว นโยบายนี้สะท้อนให้เห็นว่าเหล่าทีมผู้บริหารให้ความสำคัญกับการงีบหลับพอๆ กับการรับประทานอาหารที่ดี ทั้งนี้ Nextbeat Co ยังตั้งกฎให้พนักงานต้องเลิกงานก่อน 3 ทุ่ม และให้เวลา 30 นาทีระหว่างวันในการงีบ

การศึกษาด้านประสาทวิทยายังยืนยันว่า การพักผ่อนในระหว่างวันจะช่วยทำให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและช่วยเพิ่มแรงขับเคลื่อนในการทำงาน โดยผู้เชี่ยวชาญด้วยประสาทวิทยาได้อธิบายว่า การงีบอย่างมีคุณภาพต้องเกิดขึ้น 6 ชั่วโมงหลังตื่นนอน นอนครั้งละไม่เกิน 30 นาที และไม่อยู่ในท่านอนราบ

ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท อธิบายว่า ช่วงแรกพนักงานไม่ใส่ใจกับช่วงการงีบที่จัดไว้ให้ แต่เมื่อมีผลวิจัยออกมาพนักงานก็เริ่มหันมาใส่ใจกับการพักผ่อนมากขึ้น

นอกจากนั้น หลายบริษัทยังให้ความใส่ใจกับแบบแผนการนอนในช่วงกลางคืนของพนักงาน รวมถึงบางบริษัทยังแจกอุปกรณ์ที่ช่วยวัดระยะเวลาและความลึกในการนอนหลับอีกด้วย

นาโอะ โทโมโนะ ผู้ให้คำปรึกษาด้านการนอนหลับ กล่าวว่า ภาวะนอนไม่หลับนั้นจะทำให้เกิดผลร้ายหลายอย่าง เช่น ประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง สุขภาพที่แย่ลง และอาจะนำไปสู่ผลกระทบในเรื่องที่ใหญ่ขึ้นมากๆ อย่างเช่นผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ

ที่ผ่านมาสังคมญี่ปุ่นมีภาวะความเครียดและความกดดันสูง รวมถึงมีอัตราชั่วโมงการทำงานที่เกินกว่ามาตรฐานซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายและจิต เมื่อเดือนตุลาคม 2013 ผู้สื่อข่าวหญิงชาวญี่ปุ่นถูกรายงานว่าเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานที่หนักเกินไป โดยเธอมีวันหยุดเพียงแค่ 2 วันต่อเดือนเท่านั้น เช่นเดียวกับพนักงานออฟฟิศในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่ถูกพบว่าฆ่าตัวตายในหอพักของบริษัท เนื่องจากการทำงานหนักติดต่อกันมากเกินไปในปี 2015

ที่มา:

https://www.businessinsider.com/japan-is-facing-a-death-by-overwork-problem-2018-3

https://japantoday.com/category/business/feature-japanese-firms-take-actions-to-encourage-employees-to-take-worktime-naps

Tags: ,