‘ทาโร อาโซ’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการคลังของญี่ปุ่นถูกบังคับให้ถอนคำพูดตำหนิผู้หญิงว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรในญี่ปุ่นต่ำลง ซึ่งเขาได้กล่าวในขณะประชุมการเลือกตั้งที่เมืองฟุกุโอกะเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมที่จะกล่าวหาผู้สูงอายุว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาประชากรลดลงของญี่ปุ่น
“พวกบ้าๆ มากมายหาว่าผู้สูงอายุเป็นปัญหา ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงที่ไม่ให้กำเนิดลูกก็เป็นปัญหาเหมือนกัน” อาโซกล่าว
หลังจากคำพูดนั้น เขาก็ถูกประณามจาก ส.ส.ฝ่ายค้านว่าอาจจะทำให้คู่สมรสที่ต้องการมีลูกแต่ไม่สามารถมีได้เกิดความรู้สึกไม่ดี อาโซจึงออกมาขอโทษ พร้อมถอนคำพูดของเขาและระบุว่าในอนาคตจะระวังคำพูดมากขึ้น แต่ก็ได้โยนว่าสื่อมีส่วนก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะนำเสนอคำพูดของเขาโดยไม่ใส่บริบทร่วมด้วยและละเลยในส่วนที่เขากล่าวถึงการคุกคามของปัญหาอัตราการเกิดลดลงที่ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม อาโซเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองอนุรักษ์นิยมที่มักจะตำหนิคู่รักและผู้หญิง เช่นเดียวกับนักการเมืองจากพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยคนอื่นๆ อย่าง ’โทชิฮิโระ นิไก’ เลขาธิการพรรค ซึ่งกล่าวว่า คู่รักที่ตัดสินใจไม่มีลูกนั้นเห็นแก่ตัวและอ้างถึงตัวอย่างความเจริญรุ่งเรืองจากยุคหลังสงครามโลกที่ความยากลำบากไม่เป็นอุปสรรคต่อการมีครอบครัว
นอกจากนั้น ยังมี ‘คันจิ คาโตะ’ ฝ่ายนิติบัญญัติของพรรคที่กล่าวว่า ผู้หญิงควรมีลูกอย่างน้อยสามคนและกล่าวเตือนผู้ที่ต้องการคงความเป็นโสดว่าพวกเขาจะกลายเป็นภาระของรัฐในอนาคต เช่นเดียวกับในปี 2007 ที่ ‘ฮากุโอะ ยานากิซาวะ’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผู้หญิงว่าเป็น “เครื่องให้กำเนิด” ที่มีหน้าที่ในการเพิ่มอัตราการเกิด
เหตุการณ์โจมตีคำพูดของอาโซเกิดขึ้นหลังจากรายงานเปิดเผยจำนวนประชากรของญี่ปุ่นที่ลดลงเป็นประวัติการณ์ถึง 448,000 คนในปี 2018 พร้อมการเกิดที่ลดลงเหลือเพียง 921,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบศตวรรษ โดยทั้งสองแนวโน้มเตือนสังคมญี่ปุ่นให้ตระหนักถึงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพและสวัสดิการผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นที่จะเกิดคู่ไปกับสถานการณ์แรงงานที่จะหดตัวลงและก่อให้เกิดแรงกดดันต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
โดยผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าอัตราการเกิดที่ลดลงในญี่ปุ่นเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายทางการเงินที่สูงในการเลี้ยงดูเด็กและการขาดเวลาในการดูแลเด็ก อีกทั้งจำนวนเวลาในการทำงานที่ยาวนานจนเกินไปของคนญี่ปุ่น
ที่มา
Tags: ญี่ปุ่น, ทาโร อาโซ