ญี่ปุ่นปฏิเสธไม่ร่วมลงทุนรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงในไทย เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพียงแต่ยื่นข้อเสนอให้กู้ยืมเพื่อลงทุนโครงการเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ประเมินงบประมาณที่ต้องใช้ในโครงการรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงในไทย เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กม. ไว้ที่ 420 พันล้านบาท ซึ่งทางไทยคิดว่าเป็นต้นทุนที่สูงเกินไป ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงเสนอจะให้ลดความเร็วสูงสุดของรถไฟลงเป็น 180-200 กม./ชม. เพื่อลดต้นทุน

และเมื่อ 18 มกราคม เว็บไซต์ Nikkei Asian Review ได้รายงานว่า ท่าทีของไทยที่อยากจะขอลดความเร็วรถไฟเพื่อลดต้นทุนนั้น ทำให้ญี่ปุ่น ‘ประหลาดใจ’ หลังจากที่ใช้เวลาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐและวิศวกรไทยมานานถึงสามปี เพื่อหวังจะนำรถไฟชินคันเซ็นเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของญี่ปุ่นที่หวังจะส่งออกเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงนี้ไปทั่วโลก แต่การลดความเร็วรถไฟลง จะทำให้ญี่ปุ่นหมดความกระตือรือร้นกับโครงการ ที่ไม่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล้ำยุคแต่อย่างใด และผลการศึกษาพบว่า หากลงทุนเพื่อให้ได้รถไฟที่ความเร็วน้อยกว่านี้ ก็จะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

เมื่อวันพุธที่ 7 ก.พ. ตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม นำโดยรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนฝั่งประเทศญี่ปุ่น นำโดย โนริโยชิ ยามากามิ รองอธิบดีกรมการรถไฟ กระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคม และการท่องเที่ยว เพื่อหารือรายละเอียดโครงการ นายอาคมบอกว่า เป้าหมายหลักๆ ของการประชุมนี้คือการหาทางลดต้นทุนเพื่อ ‘ลดภาระหนี้’ ของฝ่ายไทย ซึ่งหนึ่งในวิธีการนั้นก็คือการร่วมลงทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

ผลออกมาว่า ญี่ปุ่นยังยืนยันจะให้ไทยลงทุนเองฝ่ายเดียวทั้งโครงการ ส่วนญี่ปุ่นยื่นข้อเสนอเพียงปล่อยเงินกู้พร้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ส่วนกระทรวงคมนาคมยืนยันว่า จะยังคงใช้ระบบและเทคโนโลยีของรถไฟความเร็วสูงชินคันเซนที่ความเร็ว 300 กม./ชม. ตามมาตรฐานของญี่ปุ่น หากความเร็วต่ำกว่านี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะเลือกใช้การเดินทางรูปแบบอื่น และหากเป็นรถไฟความเร็วสูง ควรมีระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร ถึงประมาณ 749 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์

จากประสบการณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่ได้ดำเนินงานรถไฟหัวกระสุนมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960 พบว่าชินคันเซ็นจะสูญเสียผู้โดยสารไปให้การเดินทางด้วยเครื่องบิน เมื่อเส้นทางนั้นต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่าสามชั่วโมง

ซึ่งแม้กระทั่งด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ก็อาจต้องใช้เวลานานถึงราวๆ สามชั่วโมงครึ่ง

 

ที่มา:

https://asia.nikkei.com/Politics-Economy/International-Relations/Thailand-looks-at-slower-bullet-train-to-cut-costs

http://www.straitstimes.com/asia/se-asia/japan-rejects-calls-to-invest-in-thailands-bullet-train

http://www.naewna.com/business/319356

Tags: , , , ,