สำหรับข่าวที่ทั่วโลกจับตา กรณีที่นักข่าวผู้วิพากษ์วิจารณ์มกุฏราชกุมารประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งได้หายตัวไป ล่าสุดพบเป็นศพที่ถูกหั่นเป็นชิ้น และเมื่อวันจันทร์ที่ 15 ต.ค. สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวหลายรายว่า ในรายงานของซาอุฯ จะระบุว่านาย จามาล คาชอกกิ เสียชีวิตเพราะการสอบปากคำที่ผิดพลาด และให้เหตุผลว่าที่จริงทางการมีเจตนาเพียงแค่นำตัวเขากลับไปซาอุดีอาระเบียเท่านั้น ขณะที่ก็มีแหล่งข่าว 3 รายที่ระบุว่า การเสียชีวิตของคาชอกกิ เป็นผลงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูงกับหน่วยข่าวกรองของซาอุดีอาระเบีย

แหล่งข่าวคนแรกบอกว่าเขาใกล้ชิดกับมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิล ซามาน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามกุฏราชกุมารเป็นผู้อนุมัติการสอบปากคำ การลักพาตัว หรือการสังหารหรือไม่ ฝ่ายเจ้าหน้าที่หลายคนที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้พบว่าภารกิจนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่มีคำสั่งโดยตรงจากมกุฏราชกุมาร ซึ่งมีชื่อย่อว่า ‘MBS’

แหล่งข่าวคนที่สองกล่าวว่า เขาเป็นผู้รวบรวมทีมและส่งไปสอบปากคำคาชอกกิ พวกเขาสงสัยว่าคาชอกกิเกี่ยวข้องกับประเทศกาตาร์ คู่แข่งของซาอุดีอาระเบีย แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานในข้อนั้น

แหล่งข่าวอีกคนหนึ่งบอกว่าผู้ปฏิบัติภารกิจนี้ดำเนินการกันเองโดยไม่โปร่งใสต่อรัฐบาลซาอุฯ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอยู่กว่าหลายวัน ทั้งยังไม่ชัดเจนว่าข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการครั้งนี้จะถูกรวมไว้ในรายงานของทางการซาอุดีอาระเบียหรือไม่

ทางการตุรกีเชื่อว่าชายชาวซาอุฯ ที่มาถึงอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. จำนวน 15 คน เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคาชอกกิ และได้เปิดเผยภาพสแกนพาสปอร์ตของคนที่พวกเขาสงสัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม หนึ่งในนั้นคือซาละห์ มูฮัมหมัล อัล-ตูบายกิ (Salah Muhammad al-Tubaiqi) ซึ่งเป็นหัวหน้าของหน่วยนิติเวชศาสตร์ในกระทรวงมหาดไทย อีกคนหนึ่งคือ มูฮัมหมัด ซาอัด อัล-ซาห์รานี (Muhammad Saad al-Zahrani) ซึ่งเขามักจะปรากฎตัวเคียงข้างมกุฏราชกุมารฯ เสมอ

ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ทางการตุรกีมีหลักฐานเป็นภาพและเสียงที่บ่งบอกว่าเขาถูกฆ่าในสถานกงสุล ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาถูกทรมาน  เจ้าหน้าที่ตุรกีคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นในวันอังคารที่ 16 ต.ค.ว่า ศพของคาชอกกิถูกตัดออกเป็นชิ้น หลังจากที่เขาถูกฆ่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อนในสถานกงสุล คำกล่างอ้างถูกเปิดเผยครั้งแรกบนเว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์ ก่อนที่จะมีการสืบสวนเรื่องนี้ หลังจากที่ทางการตุรกีเข้าไปค้นหาในสถานกงสุล 9 ชั่วโมง และไม่ให้ความเห็นในเรื่องการกำจัดศพ

ต่อมาวันที่ 17 ต.ค. สื่อตุรกีเผยแพร่คลิปเสียงระหว่างที่คาชอกกิถูกทุบตีและทรมาน ทันทีที่เข้าไปในสถานกงสุลจนเสียชีวิต เขาถูกตัดนิ้วและศพถูกหั่นเป็นชิ้น ในระหว่างที่ตัดศีรษะและร่างของคาชอกกิ หัวหน้าหน่วยนิติเวชศาสตร์แนะนำให้สมาชิกในทีมสวมหูฟังแล้วเปิดเพลง ในคลิปเสียงยังมีเสียงของกงสุลซึ่งอยู่ด้วยและไม่เห็นด้วยโดยบอกให้ทีมสังหารไปดำเนินการนอกสถานกงสุล เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหา แต่ก็ถูกตอบโต้ว่า “ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่เมื่อกลับไปที่ซาอุฯ ก็หุบปาก”

ทั้งนี้ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าคลิปเสียงเหล่านี้มาจากไหน เนื่องจากส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากการดักฟังการสื่อสารของรัฐบาลตุรกี ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือเป็นละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ซาอุดีอาระเบียถูกกดดันอย่างหนักจากนานาชาติให้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียสอบสวนอย่างโปร่งใสและเชื่อถือได้

ส่วนท่าทีของผู้นำประเทศ โดยเฉพาะทรัมป์ ก็เป็นที่จับตาเช่นกัน วันอังคารที่ 16 ต.ค. ประธานาธิบดีทรัมป์และ ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่ามกุฏราชกุมารฯ แจ้งแก่พวกเขาว่าเริ่มสืบสวนแล้ว จะได้รับคำตอบในอีกไม่ช้า ซึ่งการปกป้องซาอุดีอาระเบียของทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสื่อมวลชนอเมริกัน ว่าเป็นเพราะธุรกิจของเขาเกี่ยวข้องกับประเทศนี้ เป็นเหตุให้ทรัมป์ทวีตว่า “ผมไม่มีผลประโยชน์ทางการเงินในซาอุดีอาระเบีย (หรือรัสเซีย) เลย คำแนะนำที่ผมมีก็คือ มันเป็นแค่เฟคนิวส์ (ซึ่งมีเยอะมาก)!”

แต่สื่อต่างๆ ก็พากันเปิดเผยข้อมูลที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของเขากับรัฐบาลซาอุฯ ซีเอ็นเอ็นเผยแพร่ข้อความที่ทรัมป์พูดเมื่อกรกฎาคม 2015 ว่า “ผมชอบชาวซาอุฯ พวกเขานิสัยดี ผมทำเงินจากพวกเขาได้มาก พวกเขาซื้อของของผมทุกอย่าง ของเล่นจากทรัมป์ พวกเขาจ่ายเงินให้ผมหลายล้านและหลายร้อยล้าน” ส่วนนิวยอร์กเดลีรายงานว่าทรัมป์ขาย ชั้น 45 ของอาคารทรัมป์ เวิลด์ ทาวเวอร์ให้กับราชวงศ์ซาอุฯ และมกุฏราชกุมารฯ คนก่อนก็ซื้อเรือยอชท์ของทรัมป์ไปในราคา 20 ล้านเหรียญเมื่อปี 1991 ส่วนวอชิงตันโพสต์ก็ระบุว่า คณะผู้ติดตามของมกุฏราชกุมารคนปัจจุบันอยู่พักในโรงแรมทรัมป์ที่แมนฮัตตัน ทำให้รายได้ของโรงแรมเพิ่มขึ้น หลังจากรายได้ลดลงมา 2 ปีติดต่อกัน

ขณะที่เจฟฟ์ เบซอส บุคคลที่รวยที่สุดในโลกขณะนี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากเขาอยู่ในฐานะเจ้าของวอชิงตันโพสต์ ที่คาชอกกิสังกัดอยู่ แต่จนถึงตอนนี้เบซอสยังไม่ได้ออกมาแสดงความเสียใจหรือความคิดเห็นกับเรื่องนี้แต่ประการใด โดยมีผู้เปิดเผยว่าเขาเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสัมพันธ์อันดียิ่งกับทั้งมกุฏราชกุมาร และกับทั้งประเทศซาอุดิอาระเบียในทางธุรกิจ

ที่มา:

https://edition.cnn.com/2018/10/16/middleeast/khashoggi-turkish-investigation-intl/index.html

https://www.nbcnews.com/politics/first-read/trump-defense-saudi-arabia-another-helsinki-moment-n921076

https://www.bbc.com/news/world-europe-45897153

https://www.cnbc.com/2018/10/17/jeff-bezos-has-been-quiet-on-wapos-jamal-khashoggi.html

เครดิตภาพ:

ถ้าเลือกรูป Bandar AL-JALOUD / Saudi Royal Palace / AFP

Tags: