ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและขายหมดเกลี้ยงทั้งสาขาบางนาและบางใหญ่ ภายในเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง สำหรับ อิเกีย (IKEA) คอลเลกชันพิเศษที่ทุกคนรอคอยอย่าง ‘MARKERAD/มาร์เคลียรัด’ ซึ่งอิเกียจับมือกับแฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังแห่งยุคอย่าง ‘เวอร์จิล แอบโลห์’ (Virgil Abloh) ดีไซเนอร์แบรนด์ OFF-WHITE สร้างสรรค์ออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบที่หยิบเอาเอกลักษณ์ดั้งเดิมของอิเกียคือเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันภายใต้คุณภาพและราคาที่จับต้องได้ มาผสมผสานกับความสนุกสนานและไอเดียที่มีเอกลักษณ์ เพื่อผลักดันขอบเขตของคำว่า ‘เฟอร์นิเจอร์’ ให้เข้าใกล้กับการเป็น ‘งานศิลปะ’ ที่ตอบโจทย์ในการสะท้อนตัวตนของวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียลได้ดียิ่งขึ้น

งานออกแบบของสินค้าคอลเลกชัน MARKERAD/มาร์เคลียรัด จะเน้นไปที่ความเรียบง่าย ทรงพลัง แบบเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียดั้งเดิม แต่เติมเอกลักษณ์และความโดดเด่นของศิลปะเข้าไป โดยสินค้าชิ้นเด่นในคอลเลกชันนี้มีตั้งแต่ พรม WET GRASS ลายพื้นหญ้าที่ทลายขอบเขตของพื้นที่ในร่มและพื้นที่กลางแจ้ง, พรมใบเสร็จ IKEA ที่หยิบเอาภาพลักษณ์สุด Iconic มาสื่อสารถึงการเป็นสินค้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้, นาฬิกา TEMPORARY นาฬิกาสีขาวสะอาดที่แฝงการเตือนสติให้ทุกคนใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและตระหนักว่าเวลาเป็นสิ่งที่เรามีอยู่เพียงชั่วคราว ไปจนถึงกระเป๋าที่เขียนคำว่า SCULPTURE ตัวใหญ่เอาไว้เพื่อตั้งคำถามกับผู้ใช้ว่าอะไรคือเส้นแบ่งระหว่างข้าวของเครื่องใช้อย่างกระเป๋า กับประติมากรรมและงานศิลปะ

โดยในกระบวนการออกแบบทั้ง ‘เวอร์จิล แอบโลห์’ และ ‘เฮนริก โมสต์’ (Henrik Most) หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ของ อิเกียได้ใช้เวลากว่า 2 ปีเต็ม เพื่อทำวิจัยและศึกษาวิธีคิดและวิถีชีวิตแบบมิลเลนเนียลอย่างจริงจัง โดยเฮนริกได้เล่าถึงที่มาที่ไปของคอลเลกชันนี้เอาไว้ว่า “เมื่อเราสังเกตวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียล เราจะเห็นได้ว่าพวกเขาไม่มีการแบ่งพื้นที่ในบ้านหรืออพาร์ทเมนต์เป็นห้องต่างๆ ไม่มีห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงาน แต่พวกเขาสามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้ครบภายในพื้นที่เดียว นั่นจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายความหมายของคำว่า ‘บ้าน’ แบบเดิมที่เราคุ้นชิน เวอร์จิลจึงสร้างงานออกแบบที่ก้าวข้ามข้อจำกัดของพื้นที่ และเน้นไปที่การผสมผสานความโดดเด่นมีเอกลักษณ์ของงานศิลปะเข้ากับการใช้ชีวิตของผู้คนแทน”

ในขณะที่เวอร์จิลได้ให้ความเห็นว่าโปรเจ็กต์นี้เป็นงานที่ยากและท้าทายสำหรับเขามาก เขาจึงเน้นการลงพื้นที่ไปพูดคุยและทำเวิร์คช็อปกับคนรุ่นใหม่หลากหลายวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนโสด คู่รัก เพื่อนร่วมห้อง หรือคนที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อให้เข้าใจถึงความคิดและความต้องการของชาวมิลเลนเนียลอย่างถ่องแท้

“ผมต้องการให้เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นสร้างความภูมิใจให้กับเจ้าของและต้องการให้คนซื้อสินค้าคอลเลกชันนี้เพราะเห็นคุณค่าของงานดีไซน์ซึ่งสะท้อนจึงจิตวิญญาณของคนยุคมิลเลนเนียลและมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างครบถ้วน เพียงแค่เติมศิลปะเข้าไป เพราะสำหรับผมสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าสถานที่หนึ่งเป็น ‘บ้าน’ คือความรู้สึกและสิ่งที่สะท้อนตัวตนของผู้ที่อยู่อาศัย” – เวอร์จิล แอบโลห์

ถึงแม้ว่าวันนี้ลูกค้า IKEA ประเทศไทย จะได้เป็นเจ้าของคอลเลกชันใหม่กันจนหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สินค้าทุกไอเท็มของคอลเลกชันนี้ยังจะมีจัดแสดงอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของสโตร์เพื่อให้แฟนๆ ได้สัมผัสกับแนวคิดและแรงบันดาลใจในการออกแบบ นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อได้ในอิเกียสาขาอื่นๆ ทั่วโลก (ยกเว้นสิงคโปร์และมาเลเซียที่เปิดตัวไปพร้อมกันในวันนี้) ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้อีกด้วย