เพียงไม่กี่วันภายหลังการประชุม G20 ที่บราซิล ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะยอมระงับแผนขึ้นภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้ซึ่งกันและกัน แต่ก็กลับมีกรณีที่อาจจะนำไปสู่ความบาดหมางอีกครั้ง เมื่อ เมิ่งหว่านโจว (Meng Wanzhou) ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน (CFO) และรองประธานบริษัทหัวเว่ยวัย 46 ปี ถูกจับในแคนาดาขณะที่กำลังอยู่ระหว่างรอการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยทางการสหรัฐฯ เป็นฝ่ายแจ้งจับ ด้วยข้อหาละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐอเมริกา
โฆษกกระทรวงยุติธรรมแคนาดาให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิ เอเชียน รีวิวว่า “เมิ่งหว่านโจวถูกจับที่เมืองแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา และเตรียมถูกส่งตัวไปยังสหรัฐอเมริกาในวันศุกร์ที่ 7 นี้ เพื่อฟังการตัดสินของศาลสหรัฐฯ ว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่” โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม เนื่องจากเธอได้ขอให้ไม่เปิดเผยต่อสื่อ
การตัดสินใจของทางการแคนาดาในการควบคุมตัวพลเมืองระดับสูงของจีน และส่งตัวไปยังสหรัฐอเมริกาอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน รวมถึง แคนาดา-จีน ได้
สถานทูตจีนในแคนาดาออกแถลงการณ์ระบุว่า “จีนไม่เห็นด้วย และคัดค้านการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น และย้ำว่า เมิ่งไม่ได้ละเมิดกฎหมายของทั้งสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา” แถลงการณ์ของจีนยังเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและแคนาดาแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและคืนเสรีภาพแก่ เมิ่งหว่านโจว โดยเร็วที่สุด อีกทั้งยังยืนยันด้วยว่าจีนจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะใช้มาตรการทั้งหมดที่มีคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของพลเมืองจีน
ทางด้านหัวเว่ยออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทแทบจะไม่ได้รับข้อมูลในการจับกุมครั้งนี้เลย อีกทั้งบริษัทยืนยันว่าทางผู้บริหารของตนไม่ได้กระทำความผิดใดๆ และย้ำว่า บริษัทปฏิบัติตามกฎหมายของทุกประเทศที่ดำเนินการอยู่ รวมทั้งยึดถือข้อตกลงด้านการส่งออกและมาตราการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป
ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ทางการสหรัฐอเมริกาได้ตรวจสอบการส่งสินค้าของหัวเว่ยจากสหรัฐอเมริกาไปยังอิหร่าน ว่าอาจฝ่าฝืนกฎหมายการส่งออกและมาตราการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าในปี 2013 เม่งซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท Skycom Tech ซึ่งตั้งอยู่ในฮ่องกงและเกี่ยวข้องกับหัวเว่ย พยายามขายอุปกรณ์ของฮิวเลตต์-แพคการ์ด (Hewlett Packard)ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในอิหร่าน โดยตรวจพบเอกสารข้อเสนอของ Skycom ซึ่งมีตราบริษัทหัวเว่ย และประทับตรา “ลับเฉพาะหัวเว่ย” แต่หัวเว่ยออกมาปฏิเสธว่าทั้งหัวเว่ยและ Skycom ไม่ได้ส่งอุปกรณ์ของ HP ให้กับอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม เดอะโกลบแอนด์เมล สื่อในแคนาดา ตั้งข้อสังเกตว่าการจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่แคนาดาได้รับแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา ที่พยายามป้องกันข้อเสนอของบริษัทโทรคมนาคมจีนที่เชื้อเชิญเข้าร่วมเครือข่าย 5G ซึ่งสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียเพิ่งปฏิเสธไป โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นิวซีแลนด์ก็เพิ่งปฏิเสธคำขอเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เครือข่าย 5G ของบริษัทจีนโดยให้เหตุผลว่าอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเครือข่าย
มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา และเคยเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดากีดกันหัวเว่ยจากเทคโนโลยี 5G ให้สัมภาษณ์กับเดอะโกลบว่า การจับกุมเมิ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย เขากล่าวว่าหัวเว่ยมีความสัมพันธ์โดยตรงกับรัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์ และอาจส่งผลต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาได้ เขายังคงเรียกร้องให้แคนาดาพิจารณาอีกครั้งในการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ร่วมกับหัวเว่ย
นอกจากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แล้ว ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมในสหราชอาณาจักรอย่าง BT ก็อยู่ในกระบวนการถอดอุปกรณ์และเครื่องมือ 3G และ 4G ของหัวเว่ยออก โดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ไม่ต้องการให้บริษัทจีนเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ
ที่มา:
https://asia.nikkei.com/Business/Companies/Huawei-CFO-arrested-in-Canada-at-US-request
https://www.theguardian.com/technology/2018/dec/05/meng-wanzhou-huawei-cfo-arrested-vancouver
ที่มารูป: weibo
Tags: Huawei, หัวเว่ย
